OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
Opel in Talks => General Discussion => Topic started by: pung on 11 May 2010, 18:05
-
เครื่อง SR แบตเปลี่ยน ใหม่ ได้ 20 กว่า วัน ใช้ได้สักพักตาแมว เริ่มมีสีขาว วันนี้เลยลองวัด ไดชาทร์ใหม่ เพื่อดูว่าทำงานปกติหรือปล่าว ตามรูป ช่วยวิเคราะห์ดูหน่อย (ถ้าปกติดี พรุ่งนี้จะไป อู่ ไล่ระบบสายไฟใหม่) ขอบคุณครับ
-
ตอนรอบเดินเบา (ไม่เปิดไฟ) ไฟเข้าเยอะจัง
ของผม ตอนรอบเดินเบา ได้แค่ 13.6 ประมาณนี้อ่ะ (แต่ใช้มิเตอร์เล็กๆ ไม่ใช่ซันวา เด๋วขอเอา โวลด์เกจ ของ VDO วัดอีกที)
-
ผมก็ว่าเดินเบาไฟ สูงไปมั้ยครับ
-
ผมก็ว่าเดินเบาไฟ สูงไปมั้ยครับ
ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ว่าค่าในรูปนี้วัดตอนไหน
-
ไดชาร์ต ลูกเดิมรึป่าวครับ?
-
ไดชาร์ต ลูกเดิมรึป่าวครับ?
ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ได้รถมา ยังไม่เคยไปยุ่งกับไดชาร์ต เลย
-
ด้วยความอยากทราบเรื่องไดชาร์ต เลยไปถ่ายรูปมาดู
-
จากรูป ผมว่ามันแปลกๆนะ
แก้ไขครับจากรูปและตารางฟันธง....ปกติ
ปกติไดร์ชาร์จตัวนี้ (12 โวท์ล 90 แอมป์)น่าจะให้ไฟแค่ 12 - 13 โวท์ล เท่านั้น
แค่ไม่แน่ใจเท่านั้นนะครับ มันอาจเป็นเรื่องปกติของไดร์ฯรุ่นนี้ก้อได้เพราะการออกแบบของแต่ละบริษัทไม่เหมือนกัน
แต่ถ้าเป็นไดร์ชาร์จของโอเปิ้ล จะให้ไฟประมาณ 14.37 โวท์ล
แต่ถ้าให้มองโดยรวม เรื่อง ไดร์ชาร์จ กับ แบตฯ ผมว่ามันปกติดีอยู่
แต่สิ่งที่มันทำให้ไฟหมดไวก้อคือระบบไฟ มันเป็นไปได้ สองอย่าง
1. ไฟรั่วลงกราว....ส่วนมากจะเป็นไปในลักษณะ สายไฟที่เอามาจั๊มกัน(ซึ่งเราไม่รู้ว่ามันจั๊มกันที่ไหนบ้าง)
แล้วเกิดสนิมอ๊อกไซด์ ทำให้มันหลุดลุ่ยไปแตะกับสายดินหรือตัวถังรถได้ อันนี้หายากมากๆ
2. โหลดเยอะ อันนี้ก้อสำคัญ อุปกรณ์บางชนิด มันจำเป็นต้องมีไฟเลี้ยงตลอดเวลาครับ อย่างพวก กล่องเครื่อง วิทยุเทปซีดี
หรือแม้กระทั่ง พาวเวอร์แอมป์ มันก้อจะกินไฟ หน่อยๆ ตลอดเวลา
และอีกอย่างสิ่งที่เราๆมักจะมองข้ามกันก้อคือ บางทีรถไม่ค่อยได้วิ่งเต็มที่ แต่เราใช้โหลดเต็มที่ การชาร์จแบตฯของไดร์ชาร์จ
มันชาร์จไม่ทัน เพราะเหตุนี้ผมจึงนิยมที่จะใช้ไดร์ชาร์จที่สูงกว่าแบตฯครับ เช่น แบตฯ 75 แอมป์ ผมก้อใช้ไดร์ชาร์จ 100 แอมป์
ถ้าแบตฯ 100แอมป์ ก้อใช้ไดร์ชาร์จสัก 120 แอมป์ครับ...
ทั้งหมดเกิดจากความคิดนะครับ ไม่มีเอกสารอ้างอิง.... :)
ปล. เมื่อเรื่มใช้แบตฯ ควรที่จะแกะ เดือนปี ที่ใช้ไว้เชคระยะเวลานะครับ เจ้าวงกลมสีเหลืองที่มีตัวเลขนั่นน่ะ
อีกอย่างแบตฯที่ท่านได้มาใหม่มันอาจยังชาร์จไม่เต็ม ท่านต้องพามันไปออกกำลังบ่อยๆหน่อย เด๋วก้ออยู่ตัวเองแหละ :)
-
ขอบคุณครับ
วัดไฟช่วงเช้าของวันนี้ หลังจอดรถ ประมาณ 14 ช.ม. จาก 12.96 V เหลือ 12.46 V
ตอนซื้อแบตมาใหม่ ยังสีเขียวเลย โดยที่ร้านใช้วิธีตอกเลขวันที่/เดือน/ปี ซื้อ เปลี่ยนวันที่ 19/04/53 แทนที่จะลอกสติกเกอร์ และวันที่ 21/04/2553 เดินทาง กระบี่-กทม. และเริ่มมีจุดขาวนิดหน่อย ตอนแรกคิดว่า ไดชาตร์ ๆ ไฟไม่พอ เพราะขับรถ ไปช่วงบ่าย -กทม.ช่วงดึก ๆ
แต่ช่วงหลัง ๆ จุดขาวนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
-
ขอบคุณครับ
วัดไฟช่วงเช้าของวันนี้ หลังจอดรถ ประมาณ 14 ช.ม. จาก 12.96 V เหลือ 12.46 V
ตอนซื้อแบตมาใหม่ ยังสีเขียวเลย โดยที่ร้านใช้วิธีตอกเลขวันที่/เดือน/ปี ซื้อ เปลี่ยนวันที่ 19/04/53 แทนที่จะลอกสติกเกอร์ และวันที่ 21/04/2553 เดินทาง กระบี่-กทม. และเริ่มมีจุดขาวนิดหน่อย ตอนแรกคิดว่า ไดชาตร์ ๆ ไฟไม่พอ เพราะขับรถ ไปช่วงบ่าย -กทม.ช่วงดึก ๆ
แต่ช่วงหลัง ๆ จุดขาวนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
อีกจุดไม่ควรพลาด....
การเติมน้ำกลั่น...ปกติมันมีขีดบอกด้านข้าง แต่มักมองไม่ค่อยเห็นน้ำกลั่นข้างในครับ
ผมใช้วิธี...เติมน้ำกลั่นให้มันมาชนส่วนที่เป็นพลาสติกครับ เพราะสังเกตุดูแล้วมันตรงกับระดับน้ำกลั่นเต็มพอดี.... :)
อีกอย่างหนึ่ง ถ้าแก้ไขทุกอย่างหมดแล้วมันยังมะดีขึ้น แสดงว่า...เราเป็นผู้โชคดี อาจจะหนึ่งในแสน หรือ หนึ่งในล้าน ที่เจอแบตฯไม่ได้คุณภาพเข้าให้
ก้อส่งเครมอย่างเดียว
แต่จากการวัดที่จอดรถไว้นานๆ ไฟตกลงเล็กน้อย คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ ลองจอดทิ้งไว้สัก สามวันแล้วลองสตาร์ทดูก้อได้ครับ
ถ้ายังสตาร์ทได้ปกติ ก้อโอฯแล้วหล่ะ...
แต่ผมคิดว่า... :มั้ง: มันชาร์จไฟไม่เต็มตะหาก...
-
ขอบคุณครับ
วัดไฟช่วงเช้าของวันนี้ หลังจอดรถ ประมาณ 14 ช.ม. จาก 12.96 V เหลือ 12.46 V
ตอนซื้อแบตมาใหม่ ยังสีเขียวเลย โดยที่ร้านใช้วิธีตอกเลขวันที่/เดือน/ปี ซื้อ เปลี่ยนวันที่ 19/04/53 แทนที่จะลอกสติกเกอร์ และวันที่ 21/04/2553 เดินทาง กระบี่-กทม. และเริ่มมีจุดขาวนิดหน่อย ตอนแรกคิดว่า ไดชาตร์ ๆ ไฟไม่พอ เพราะขับรถ ไปช่วงบ่าย -กทม.ช่วงดึก ๆ
แต่ช่วงหลัง ๆ จุดขาวนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
อีกจุดไม่ควรพลาด....
การเติมน้ำกลั่น...ปกติมันมีขีดบอกด้านข้าง แต่มักมองไม่ค่อยเห็นน้ำกลั่นข้างในครับ
ผมใช้วิธี...เติมน้ำกลั่นให้มันมาชนส่วนที่เป็นพลาสติกครับ เพราะสังเกตุดูแล้วมันตรงกับระดับน้ำกลั่นเต็มพอดี.... :)
อีกอย่างหนึ่ง ถ้าแก้ไขทุกอย่างหมดแล้วมันยังมะดีขึ้น แสดงว่า...เราเป็นผู้โชคดี อาจจะหนึ่งในแสน หรือ หนึ่งในล้าน ที่เจอแบตฯไม่ได้คุณภาพเข้าให้
ก้อส่งเครมอย่างเดียว
แต่จากการวัดที่จอดรถไว้นานๆ ไฟตกลงเล็กน้อย คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ ลองจอดทิ้งไว้สัก สามวันแล้วลองสตาร์ทดูก้อได้ครับ
ถ้ายังสตาร์ทได้ปกติ ก้อโอฯแล้วหล่ะ...
แต่ผมคิดว่า... :มั้ง: มันชาร์จไฟไม่เต็มตะหาก...
ขอบพระคุณอีกครั้ง สรุปว่าผมต้องเอารถไปรื้อระบบไฟดีมั้ย
1. แบตรุ่นนี้ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น
2. ลองจอดไว้ 3 วัน ยังสตาทร์ได้ปกติ
-
ผมว่าน่าจะถอดแบตมาให้ร้านชาร์ให้เต็มประจุเลยก่อนครับใช้เวลาประมาณ3-4ชม. เมื่อไฟแต็มจริงๆแล้วค่อยลองทดสอบครับ เพราะร้านแบตส่วนมากจะไม่ค่อยชาร์ทแบตให้กรณีซื้อแบตใหม่โดยอ้างว่าอัดไฟแห้งมาจากโรงงานแล้วสามารถใช้ได้ทันที(แต่จริงๆแล้วขี้เกียจและเสียเวลา ผมเคยเจอซื้อปุ๊ปแกะออกจากกล่องยกใส่รถเราเลยก็มี) ซึ่งจริงๆไม่น่าจะใช่เนื่องจากการทำปฏิกิริยาทางเคมีของแบตจะให้พลังงานโดยตัวของมันเองอยู่ส่วนหนึ่งซึ่งมันก็สามารถใช้งานได้แต่ไม่เต็มประสิทธิภาพ เมื่อไม่ทำการชาร์ทไฟเข้าให้เต็มก่อนใช้ครั้งแรกส่วนใหญ่แบตจะเสื่อมเร็วโดยเฉพาะรถที่ใช้ไฟมาก เพราะรถแต่ละคันใช้ไฟไม่เท่ากันคันใช้น้อยก็มีโอกาสที่ไดชาร์ทจะชาร์ทได้เต็ม แต่ถ้ารถคันไหนใช้ไฟมากโอกาสเต็มก็ยากเพราะชาร์ทยังไงก็ไม่ทันใช้เนื่องจากมันไม่เคยมีไฟเต็มประจุมาก่อนทำให้เกิดความสึกหรอของแผ่นธาตุและแบตเสื่อมได้ง่าย ผมว่าตอนนี้แบตยังใหม่อยู่ยอมเสียเวลาไปชาร์ทให้เต็มเปรี๊ยะสักครังแล้วลองทดสอบดูอีกครั้งครับ(วิชาการไปป่าวหว่าเดี๋ยวผิดคอนเซ็ป)
-
เห็นด้วย กับพี่หมอ..
บางที่เขาก็ยังชาร์จเพิ่มให้เราอีกนะครับ แต่บางที่ไม่ชาร์จเลย บอกว่าใช้ได้เลย..
-
ผมว่าตอนนี้แบตยังใหม่อยู่ยอมเสียเวลาไปชาร์ทให้เต็มเปรี๊ยะสักครังแล้วลองทดสอบดูอีกครั้งครับ(วิชาการไปป่าวหว่าเดี๋ยวผิดคอนเซ็ป)
ขอบคุณครับ
งวดนี้น้าตอบแบบ นวก.เลย 8) 8) เรื่องเวลาผมมีให้กับรถอยู่แล้วครับ เพราะนั้นหมายถึงชีวิต และทรัพย์สิน ของเจ้าของรถ และคนรอบข้าง โดยความคิดผม รถทุกคันที่ผมใช้ ต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้ ตลอด 24 ช.ม. เพราะผมมีผู้สูงวัยอยู่ที่บ้าน และลูกที่มีโรคประจำตัว
เดียวพรุ่งนี้จะถอดแบตออกไปชาร์ท และจะลองจอดทิ้งไว้สัก 7 วัน เพื่อดูว่าจะสตาทร์ติดหรือปล่าว
-
ผมว่าสตาร์ทไม่ติดหรอกครับ เพราะน้าถอดแบตออกไปแล้วแต่ไม่ได้บอกว่าจะเอาแบตใส่ ต่อให้จอดไว้วันเดียวก็สตาร์ทม่ะติดหรอก ;D ;D ;D
-
ผมว่าสตาร์ทไม่ติดหรอกครับ เพราะน้าถอดแบตออกไปแล้วแต่ไม่ได้บอกว่าจะเอาแบตใส่ ต่อให้จอดไว้วันเดียวก็สตาร์ทม่ะติดหรอก ;D ;D ;D
8) 8) ผมขอโทด ลืมใส่แบต กลับ 8) 8)
-
วันพฤหัส ที่ 13/05/53 ช่วงเช้าได้ถอดแบต เพื่อจะเอาไปชาร์ท ยกแบต ออกจากรถ ช่วงตะแคงแบต สังเกตน้ำกรดในช่องตาแมว มีการเคลื่อนตัวได้ เลยจับเขย่า ๆ 3-4 ครั้ง ตาแมวก็เป็นสีเขียว เลยคิดไปเองว่าระดับน้ำกรด อาจไม่เท่ากัน ใช้ไปจึงเกิดฟองอากาศ แล้วยกแบตใส่กลับไปในรถเหมือนเดิม
เมื่อตอนเย็นวันนี้ เปิดฝากกระโปรงรถดู เพื่อดูแบต ตอนนี้ระะดับไฟก็ยังเขียวดี (ยังไม่ได้ลองสตาทร์รถ ตั้งแต่เย็นของวันที่ 12/05/53 จนถึงวันนี้)
-
ตอนนี้ตาแมวเริ่มมีจุดขาว ๆ อีกแล้ว :แงๆ:
-
ตอนนี้ตาแมวเริ่มมีจุดขาว ๆ อีกแล้ว :แงๆ:
คลายน็อตยึดแบ็ต แล้วเขย่าๆแบ็ตดูเลยครับ
เดี๋ยวเขียวก็กลับมา...ส่วนแดงไปแล้วไปเลยนะ..อย่ากลับมา !