OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
Opel in Talks => FAQ and Articles => Topic started by: kiddee on 26 Jul 2012, 17:22
-
:nono
แชร์ประสบการณ์การ เปลี่ยนพวงมาลัยเพาเวอร์กันเถอะ
เดิมผมที่ได้ซื้อชุดพวงมาลัยเพาเวอร์ มากะจะใส่เอง แต่งบที่จะทำต่อไม่พอ(ค่าช่างครับ)
ก็เลยตัดสินใจขายต่อเท่าทุนที่หาชุดพวงมาลัยฯ มาได้ในเวบ Opel.in.th ของเรานะครับ ก็มีพี่ที่สงขลาซื้อไปครับ
แต่เรื่องยังไม่จบครับ พอพี่ที่สงขลาซื้อไป ช่างที่โน้นบอกต้องมีของอีกเยอะต้องซื้อเพิ่มอีกหลายรายการ
พี่ที่สงขลาโทรกลับมาจะอยากจะขายคืนให้ เนื่องจากไม่ได้ใช้งาน (พี่บอกช่างที่โน้นมีปัญหา และมีคนเดียวด้วยที่ซ่อม Opel ครับ) อย่างว่านะพี่เขาเอาไปไม่ได้ใช้ ผมก็เลยซื้อกลับมาคืนครับ ;) ;)
เมื่อได้ของมาแล้วก็ต้องใส่ล่ะครับ ไม่ขายแล้ว เราเองก็ใช้พวงมาลัย...จนกล้ามโตเป็นมัดๆ มานานแล้ว ;D ;D
เริ่มติดตั้งกันดีกว่า พวงมาลัยที่ว่าก็ชุดนะครับ
-
ขั้นตอนการติดตั้ง พวงมาลัยเพาเวอร์
- เตรียมอุปกรณ์กันก่อนละกัน
- จัดหาชุดแร็คพวงมาลัยฯ
เมื่อได้อุปกรณ์มาแล้วมาถึงขั้นตอนการถอดเจ้าแล็คเก่าฯ
วิธีการถอดผมก็ตามขั้นต่างดังนี้ล่ะครับ โดยมีพี่ช่างผมคอยแนะนำ และให้ใช้อุปกรณ์ครับ ส่วนแกธุระเยอะไปๆ มาๆ
;) ;)
เริ่มถอดกันที่ล้อหน้าทั้งสองข้างก่อน
ถอดบูทหนวดกุ้งทั้งสองข้างออก
-
เมื่อถอดบูทหนวดกุ้งเสร็จก็เปิดกระโปงครับรถครับ
;) ;)
ว่าเราจะถอดอะไรออกบ้าง เพื่อที่จะได้ทำง่ายๆนะครับ ;D ;D
แล้วก็ถอดตามลำดับนี้เลยละกัน
- เริ่มกันที่แบตเตอรี่ครับ จะได้มีพื้นที่ว่างๆ ในการถอดน็อตแร็คฯ ด้านซ้ายครับ
- แล้วก็ชุดกรองอากาศถอดออกให้หมดจะได้โล่งๆ ก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น
- ต่อมาเราก็ถอดไดชาร์ทออก และสายพานออกซะ
-ต่อมาก็ถอดสายพานคอมแอร์ (เพราะต้องถอนสายพานไดชาร์ท ก็เลยต้องถอดออกด้วย หรือรถบ้างคันอาจไม่ต้องถอดก็ได้นะครับ)
-
เมื่อมันโล่งจับตรงไหนก็จะได้ง่ายครับ
-
ภาพไดชาร์ท กะ คอมแอร์
-
ด้านหน้าเครื่องยนต์โล่งแล้วก็เริ่มถอดพวงมาลัยฯ กันเถอะ
- เริ่มกันที่ถอดขายึดพวงมาลัย ( น็อตเบอร์ 13) ในห้องโดยสารด้านคนขับ ถอดออกก่อนนะครับ เพราะถ้าถอดแร็คฯ แล้วจะถอดยากครับ
- แล้วก็ถอดขายึดเกียร์ (น็อตเบอร์ 13) ข้อเสนอะแนะ ควรจะทำตำหนิไว้ที่ขายึกเกียร์นะครับเวลาประกอบคืนจะได้ไม่ต้องปรับขาเกียร์ให้ยุ่งยากครับ
- ต่อมาก็ถอดเหล็กยึดเครื่องยนต์ อันนี้มีน็อต 3 ตัว เบอร์ 17 นะครับ
- ต่อมาเราก็เริ่มถอดน็อตที่ขายึดแร็คฯ อันนี้จะมีน็อตทั้งหมด 4 ตัวครับ (น็อตเบอร์ 13) ข้อควรระวังถ้ามีโซแน็กก็ฉีดก่อนถอดก็ดีนะครับจะได้ถอดง่ายหน่อย
- เมื่อถอดน็อตออกแล้วก็เอาผาประกับออกมาก่อนนะครับ แล้วค่อยเอาแร็คฯ ออกครับ
-
ตอนนำแร็คฯ ออกแนะนำเอาออกด้านคนขับนะครับจะออกง่ายกว่า
เอาแร็คเข้าออก แนะนำช่องนี้นะครับใหญ่สุดที่จะเอาเข้าและก็เอาออก ;D ;D ;D ;D
-
เมื่อเอาเจ้าแร็คเก่าออกแล้วจะเอาแร็คใหม่ใส่แทนแล้ว
:สำนึก: ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับว่า Opel Corsa 3 D. พวงมาลัยเพาเวอร์ กับ เพาเยอร์ เหล็กยึดแท่นเครื่องด้านหน้ามันจะไม่เหมือนกันครับ
??? ??? หากจะทำให้เหมือนกับที่ บริษัทผลิดคง >:( >:(ได้มีการดัดแปลงเหล็กแท่นเครื่องด้านหน้าที่ยึดเครื่องนะครับ แล้วก็ตามไปด้วยการเปลี่ยน
มู่เล่ ไดชาร์ท คอมแอร์ และก็มู่เล่เครื่องยนต์อีก และก็สายพานอีก สายแรงดัน,สายน้ำมันย้อนกลับที่ยาวจากด้านหน้ามาหลังเครื่อง :dead: :dead: :dead: :dead: :dead: น่าจะหมดเยอะกว่าแร็คครับ
ผมเลยตัดสินใจ โดยได้ไอเดียร์จากของสมาชิกเราที่นำรถมาขายครับ ภาพนี้ครับ (ขออนุญาตนำภาพมาใช้ครับ)
-
เอาล่ะครับ จากอุปกรณ์ที่มีอยู่
-
จากอุปกรณ์ที่ผมมีก็ยังขาดก็
- สายน้ำมันย้อนกลับ
- สายพาน
ไม่เป็นไรเอาไว้ก่อนล่ะกัน :น้ำร้อน:
มาประกอบส่วนอื่นก่อนแล้วค่อยไปซื้ออะไหล่ครั้งเดียวเลยละกัน
;)ใส่แร็คฯ ตรงนี้
;)วางไอ้ตัวปั่น ตรงนี้
-
เมื่อได้ที่วางแล้วก็ลงมือประกอบกันเลยดีกว่า
- ขั้นตอนการประกอบก็เริ่มกันที่นำแร็คฯ เข้าก่อนนะครับ (ข้อแนะนำถอดบูทหนวดกุ้งออกก่อน ให้เหลือเฉพาะตัวแร็คฯ แล้วก็นำเข้าด้านคนขับ อันเอาะเข้าได้ด้านนี้ด้านเดียวครับ )
- เมื่อนำเข้าไปได้แล้วก็อย่าลืมสวมยางหุ้มด้วยนะครับ เสร็จแล้วก็สวมเข้าที่แร็คฯ นำประกับเข้าให้เรียบร้อยด้วยนะครับ (เพราะถ้าประกอบประกับก่อนใส่แร็คฯ จะเข้าอยาก)
- ขั้นตอนต่อมาก็ยึดแร็คฯ อันนี้จะมีน็อตทั้งหมด 4 ตัวครับ (น็อตเบอร์ 13) ระวังอย่ามือหนักเกินไปนะครับ อาจจะทำให้ขาดได้ ถ้าขาดขึ้นมาก็งานเข้านะครับ
- ต่อมาก็ประกอบขาเกียร์ให้เรียบร้อย (อย่าลืมตำหนิที่ทำไว้นะครับ จะได้เหมือนในการเข้าเกียร์)
- เสร็จแล้วก็ประกอบเหล็กยึดแท่นเครื่องให้เหมือนเดิม (ขึ้นตอนนี้จำเป็นต้องมีแม่แรงช่วยยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ง่ายในการใส่น็อตนะครับ) อันนี้มีน็อต 3 ตัว เบอร์ 17 นะครับ อย่าลืม
- ขายึดพวงมาลัย ( น็อตเบอร์ 13)
-
3 ชั่วโมงผ่านไปครับ :shock: :shock:
เริ่มเจอปัญหาครับ ไอ้ตัวปั่น (ปั๊มเพาเวอร์นะครับ) ขอเรียกมันว่าไอ้ตัวปั่นล่ะกันครับ มันเกิดปัญหาอีกแล้วครับ ดูมันใหญ่เกินไป
หาที่วางเหมาะๆ ไม่ได้ ติดชุดกรองอากาศ ติดท่ออากาศ ติดไดชาร์ท เอางัยดี :nono :nono
ต้องพักก่อนครับ
:drink: :drink:
ไปหาอะไหล่ ส่วนที่เหลือก่อนแล้วค่อยมาทำกันต่อ :cry3 :cry3 :cry3 :cry3
-
ผ่านไปอีกวันครับ
:D :D ไปจัดหาอะไหล่ส่วนที่ขาดมาครับ ไปเจอไอ้ตัวปั่นใหม่มาครับ ดูเล็กลงกว่าเดิมเยอะ ต้องดีแน่ๆ ก็เลยเอาอันที่มีอยู่ขอแลกเปลี่ยนกันเลยครับ
ทางร้านยอมครับ (ได้มาดังภาพครับ)
อะไหล่ส่วนที่ขาดที่ว่าก็มี
- สายน้ำมันย้อนกลับครับ ซื้อมา 1 เมตร ราคา 80 บาท
- สายพาน ร่องวี เบอร์ 9.5x1150 ราคา 120 บาท
- น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ 1 ลิตร ราคา 150 บาท
- เหล็กยึด แบบแบน 1 อัน ราคา 10 บาท
-
ได้อะไหล่มาแล้วประกอบกันต่อละกัน
- เมื่อเรากะระยะได้แล้วก็ว่างมันไว้ เสร็จแล้วก็ใส่ขายึดให้กับตัวปั่น
- เมื่อเรียบแล้วก็เริ่มประกอบสายน้ำมัน
- ติดตั้งกระปุกน้ำมันพวงเวอร์กัน ว่างไว้ตรงนี้ละกันมันว่างอยู่
- ต่อมาสายละครับ เส้นที่หนึ่ง ก็ใส่จากตัวแร็คฯ ก่อนแล้ว ต่อมาก็อ้อมมาเพื่อใส่เข้ากับตัวปั่น วัดระยะได้คิดว่าเหมาะสม ก็เจอะปัญหาครับ มันเป็นเป็นท่อนี้ จะทำงัยดี ต่อเองไม่ได้ ??? ??? ไป :cry3 :cry3ไปที่ร้านเชื่อมครับ ต่อจุดเดียว 150 ครับ (อันนี้ต้องจ่ายทำเองไม่ได้) กลับมาที่รถของเราต่อครับ
- ต่อมาก็นำมาประกอบให้เรียบร้อย ได้หนึ่งเส้นแล้ว
- สายเส้นที่สองครับ สายน้ำมันเพาเวอร์จากกระปุกไปที่ตัวแร็คฯ อันนี้ไม่อยากครับ อุปกรณ์ที่เตรียมก็ สายน้ำมัน – ข้อต่อ – ตัวรัดสายครับ
- สายเส้นที่สามครับ เขาเรียกมันว่าสายน้ำมันย้อนกลับปั๊มเพาเวอร์ ต่อจากไอ้ตัวปั่น ไปยังกระปุกครับ อุปกรณ์ที่เตรียมก็ สายน้ำมันเพาเวอร์ให้ได้ขนาด พอดีกับด้านที่ออกจากตัวปั่น และก็ด้านล่างของกระปุกฯ ครับ
- ครบแล้วครับต่อสายทั้งสามเส้น ต่อมาเรามาต่อกันที่การวางสายพานให้กับตัวปั่นกันดีกว่า
- นี้ผมใช้สายพานเบอร์ 9.5x1150 โดยผมให้พวงร่วมกับไดชาร์ทครับ เสร็จแล้วก็ตรึงสายพานให้เรียบร้อย
- ตามด้วยสายพานคอมแอร์ด้วยนะครับอย่าลืม (ลืมบอกไปตรึงสายพานแอร์ต้องมุดใต้ท้องรถนะครับ)
- เมื่อสายพานเรียบร้อยแล้วก็ประกอบแบตเตอรี่ให้เรียบร้อย
- สายน้ำมันต่างที่เราถอดออกมา แล้ว ประกอบให้เรียบร้อยเหมือนเดิม
- ตามด้วยชุดกรองอากาศครับ ใส่ให้เรียบร้อย
- ตรวจสอบห้องเครื่องยนต์อีกรอบมีตรงไหนที่เราถอดแล้วยังไม่ได้ใส่คืนบ้าง หรือไม่เรียบร้อยบ้าง
:shock: :shock:- เสร็จแล้วกลับมาที่ช่วงล่างเราต่อ
- ประกอบบูทหนวดกุ้งให้เรียบร้อย (ทิป วัดขนาดความยาวจากแร็คฯ มายังล้อแต่ละข้าง ให้ได้ขนาดเท่ากับแร็คฯเดิม เพื่อที่เวลาขับไปตังศูนย์จะได้ขับไม่ลำบากครับ)
- ใส่ล้อให้เหมือนเดิม เอาแม่แรง ที่นี่ก็พร้อมทดสอบละครับ
- เสร็จแล้วเติมน้ำมันพวงเวอร์ที่กระปุกครับ
-
ภาพเมื่อประกอบเสร็จแล้ว
ก็จะได้ตามตำแหน่งต่างๆ ;) ;) ;)
-
อุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้บางส่วนจะได้มาจากกองนี้
-
:Dครับเสร็จซะที
ได้เวลาลองซะที
ทันทีที่สตาร์ทเครื่องทุกอย่างดูเรียบร้อยดีครับ
ได้กลิ่นสายพานไหมเล็กน้อย นึกว่าปกติครับ สายพานใหม่
ก็ทดลองขับผ่านครับ พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่าน (ทดลองกันกับพี่ช่างครับ)
:drink: ก็พักกินเบียร์กันนิดหนึ่ง :drink:
ก็เอารถไปตังศูนย์ครับ กลับมาทดสอบกันอีกรอบครับ ทุกอย่างด้านช่วงล่างดูดีครับไม่มีปัญหาใด แต่กลิ่นสายพานไหมยังไม่หายครับ (ติดใจเล็กน้อยเดียวคงหายมั่ง) คิดว่าคงจบ ทุกอย่างดูเหมือนสมบูรณ์ ;D ;D ;D
แต่ไม่จบครับ :omg:
ก็ลองขับไปเอาเทปที่ ททบ.5 (ไปกลับ 30 ก.ม.) เริ่มมืดแล้ว เปิดไฟ เปิดแอร์ เปิดเครื่องเสียง แล้วก็ขับไปครับแรกๆ ทุกอย่างดูดีไม่มีปัญหาครับ
สักพักแอร์ไม่เย็นมีแต่ลม ก็เปิดกระจก ไฟเริ่มไม่สว่าง ก็ปิดเครื่องเสียง แต่เครื่องยนต์ยังเหมือนเดิม ยังคงแรงเหมือนเดิมครับ เลยเปิดกระจกขับกลับบ้าน
ถึงบ้านไฟหน้ารถกลายเป็นไฟหรี่ จอดรถเอากระจกขึ้น (แทบจะไม่ไหวคงไฟจะหมด) ก็เลยดับเครื่อง พอลองสตาร์ทเครื่องดู ไม่ติดครับ แบตฯ หมดครับ เอางัยดี นึกไม่ออกแล้ว นอนดีกว่า :วิญญาณ: :วิญญาณ:
:สำนึก: วันต่อมาพวงแบตฯ แล้วสตาร์ท ติดครับเหมือนไม่มีอะไร โทรถามเพื่อน และก็ช่างอีกคน ให้คำตอบเหมือนกันคงเป็นที่ตัวไดชาร์ท
:ไม่: งานเข้าอีกแล้วไดชาร์ทสิ้นชีพอีกแล้วหรือ
:'( ไปดูที่สายพานที่มันใช้ร่วมกันระหว่างไดชาร์ทและตัวปั่นฯ คาดว่ามันคงไม่ตรึงครับปรับให้มันตรึง ดีขึ้นครับ แต่กลิ่นไหมยังอยู่ครับ ทดสอบถอดขั้วแบตฯ ว่าไดชาร์ทใช้ได้ไหม ตรวจสอบกับช่างแล้วไดชาร์ทใช้ได้ครับ
ทดลองครับ คราวนี้วิ่งไปสัก 40 ก.ม. ไม่เปิดแอร์ ไม่เปิดเครื่องเสียง ลองดูว่าชาร์ทไฟไหม ว่าไฟเข้าไหม ไฟเข้าครับแต่ไม่พอ จอดไว้ค้างคืนตอนเช้ามาสตาร์ทไม่ติดครับ ก็พวงแบตฯ เหมื่อนเคยแต่ได้กลิ่นไหมของสายพานยังอยู่
:ไม่: :ไม่:โทรหาช่างอีกครั้ง ถามช่าง 3 คน 2 คน แรกตอบโดยหลักการแล้วการที่เราเพิ่มความยาวของสายพาน โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนมู่เล่หน้าเครื่อง รอบเครื่องยนต์ยังเท่าเดิมการทำงานของไดชาร์ทก็ต้องเท่าเดิม เพราะฉะนั้นไดชาร์ทจะต้องทำงานเหมือนเดิม ส่วนช่างที่ทำการเปลี่ยนเพาเวอร์ด้วยกันกับผมบอกคลาดว่าน่าจะเป็นที่รอบไดชาร์ทไม่เร็วพอที่จะทำให้ชาร์ทไฟได้
ทำงัยดี หลายคนก็หลายความคิด??? แต่ก็เป็นไปได้ทุกอย่างที่ว่ามา… ทำงัยได้รถเรา ก็เลยตัดสินใจขับไปร้านไดนาโม ร้านไดนาโม ร้านไดฯ ได้เอาเครื่องมือมาวัดดู บอกว่าเป็นที่รอบไดชาร์ทครับ มันช้าเกินไปที่จะชาร์ทไฟให้พอกับการใช้งานทั้งหมดได้
:dead: :dead: :dead: :dead:
-
ผ่านไปอีกวันครับ :ตาย: :ตาย: :ตาย:
ไปคุยกับพี่ที่ติดตั้งแร็คฯ ด้วยกัน เอางัยดี :berserk :berserk
ตกลงกันได้เราจะเพิ่ม สายพานอีกเส้น
ให้มันปั่นของใครของมันไป เอางัยเอากันครับ ต้องทำให้สำเร็จให้ได้
เริ่มกันที่ ได้แนวคิดใหม่แล้ว เมื่อรอบไดชาร์ทมันไม่พอ อาจเกินจากสายพาน ร่องวี และมีขนาดเล็ก และอาจจากระยะที่สายพานดึงและทำให้เมื่อใช้กระแสเยอะๆ ไดชาร์ทจะทำงานหนักขึ้นจึงทำให้เกิดความหนืบขึ้นและทำให้สายพานไหมตลอดเวลา จึงตัดสิ้นใจ เปลี่ยนแบบใหม่ โดยการแยกสายพานออกเป็นของใครของมันซะ มาดูกันทำงัย
-
มากันใหม่อีกรอบครับ (ทนอ่านต่อนิดหนึ่งนะครับ)
- มาเริ่มกันใหม่ เอาแม่แรงขึ้น ถอดล้อด้านคนขับ
- ถอดสายพานแอร์
- ถอดชุดกรองอากาศ
- ถอดสายต่างๆ ที่ขวางทางการทำงานออก เอาให้โล่งๆ จะได้ทำงานง่าย
- เมื่อทุกอย่างโล่งๆ แล้ว ถอดมู่เล่หน้าเครื่องออกมา แล้วไปโรงกลึงครับ เวลาผ่านไป 3 ช.ม. เราก็จะได้ มู่เล่ที่มีร่องวี 3ร่องครับ
-
ลงมือต่อครับ
- จัดการให้มันไปอยู่ที่เดิมมันซะ
- ใส่สานพานแอร์พร้อมปรับให้ตรึง (สายพาน 12.5x800)
- แล้วก็ใส่สายพานไดชาร์ทตรึงให้แน่นซะ (สายพานเบอร์ 9.5x900)
- ต่อมาก็ปรับระดับให้ได้แนวพอดีกับร่องมู่เลเครื่องไอตัวปั่นนี้ซะ เมื่อได้ทีแล้วก็ใส่สายพานซะ ตรึงให้แน่น ยึดน็อตทุกตัวให้แน่นซะ
- ประกอบส่วนชุดกรองอากาศ และสายต่างๆที่ถอดออกประกอบที่เดิมซะ
- เมื่อจะประกอบชุดกรองอากาศ เจอะปัญหาอีกครับ มันเข้าที่เดิมไม่ได้ ไอ้ตัวปั่นมันมาขวางทางอีกครับ
(มันสมชื่อจริงๆ ครับ ไอตัวปั่น) ทำงัยดี………..
-
ดูการติดตั้งแล้ว ตรงไดชาร์ทสายพานมันสัมผัสกับมูเล่ย์ไดชาร์ทน้อยเกินไปเลยทำให้เกิดการสลิป (ที่คุณได้กลิ่นหม้ายนั่นแหละ)
จากในรูปที่ผมวาดจะทำตำแหน่งตรงลูกศรชี้ครับ ที่ช่างเขาบอกว่ารอบไม่ถึง ก็คือสายพานมันหมุนฟรีไปส่วนหนึ่ง
-
ลืมบอกไปครับ สายพานที่ใช้สำหรับไอ้ตัวปั่น เบอร์ 9.5x1050 ครับ ราคา 120 บาท
แก้ปัญหากันต่อครับ
- เอาล่ะ รถเราครับ ซื้อมาแล้วอย่าได้แคร์ ดัดไอ้ตรงนี้ซะ ตามด้วยถอดบูทยางนี้ออกซะ
- ใส่ได้ครับ แล้วเราจะเอาอะไรยึด...ทำงัย ถอดบูทมันออกหมดแล้ว ดียังเหลือยางด้านล่างอีกตัว
- กินเบียร์ก่อนเพื่อนึกได้จะยึดงัยดี :drink: :drink:
-
- มาแล้วครับ ลืมไปพระเอกของก็ไอ้นี้ครับ มันอึดดี รถเก่าๆ (แต่ยังแรงนะครับ) ต้องใช้ไอ้นี้เท่านั้น
-
ประกอบได้ครบซะที
- ประกอบทุกอย่างให้เข้าที ตรวจให้ครบนะครับ
- ลองสตาร์ทดูทุกอย่างเรียบร้อยครับ ไม่มีกลิ่นไหมสายพานเหมือนเดิม
- ครับได้ผลเกินคาด ลองวิ่งดูแล้วผ่านมาได้ 1 วัน แอร์ เครื่องเสียง ระบบไฟ กลับมาเหมือนเดิมครับ
-
แร็คเดิมผมรับดูแลต่อนะครับ :ไถ: :ตาปิ้ง:
รู้สึกว่าผมจะมีท่อระบายความร้อนของระบบพาวเวอร์ครับ ติดมากับตัดศอก พร้อมขายึดท่อ
-
ขอย้ายกระทู้เข้าห้อง FAQ นะครับ
-
เยี่ยมจริงๆ
-
8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8) 8)ซู๊ด....ยอด.....นายแน่มักๆ..... 8)
-
ตอบพี่ chai3392
ใช่เลยครับพี่ พอใช้กระแสเยอะๆ เข้ายิ่งหนืบ ทำให้มีกลิ่น
แล้วที่ผมปรับเป็นแบบนี้ ถูกต้องไหมครับ หรือว่าเราจะแกได้ด้วยวิธีอื่นอีกครับพี่
ช่วยเสนอแนะหน่อยนะครับพี่่ ขอบคุณครับ
ดูการติดตั้งแล้ว ตรงไดชาร์ทสายพานมันสัมผัสกับมูเล่ย์ไดชาร์ทน้อยเกินไปเลยทำให้เกิดการสลิป (ที่คุณได้กลิ่นหม้ายนั่นแหละ)
จากในรูปที่ผมวาดจะทำตำแหน่งตรงลูกศรชี้ครับ ที่ช่างเขาบอกว่ารอบไม่ถึง ก็คือสายพานมันหมุนฟรีไปส่วนหนึ่ง
-
ตอบ samrit_ad
แร็คเดิมผมรับดูแลต่อนะครับ :ไถ: :ตาปิ้ง:
รู้สึกว่าผมจะมีท่อระบายความร้อนของระบบพาวเวอร์ครับ ติดมากับตัดศอก พร้อมขายึดท่อ
ยินดียกให้เลยครับพี่ ผมจะนำเสนอในห้อง Market Place for OPEL Spare Parts
-
ภาพสายพาน
-
สรุปงบประมาณที่ใช้ครับ
- ชุดแร็คพวงมาลัยฯ 9,000.- บาท (ตัวแร็ค, ปั๊มเพามาลัยเพอเวอร์, สายแรงดัน, กระปุกฯ)
- ค่ากลึงมู่เล่ 800.- บาท
- สายพาน (เบอร์ 9.5x900) 120.- บาท (สายพานไดชาร์ท)
- สายพาน (เบอร์ 12.5x800) 140.- บาท (สายพานคอมแอร์ฯ)
- สายพาน (เบอร์ 9.5x1050) 120.- บาท (สายพานไอ้ตัวปั่น)
- สายท่อน้ำมันย้อนกลับ 1 เมตร 80.- บาท
- น้ำมันพวงมาลัยฯ 150.- บาท
- ค่าต่อท่อแรงดัน 150.- บาท
- เหล็กยึดตัวปั่น 10.- บาท (ที่เหลือเก็บจากกองเศษเหล็กฯ)
- ค่าแรง = ค่าเบียร เป็นลังๆ นะครับงานนี้ เพราะทำไปกินไป (อาจจะเยอะกว่าค่าจ้างช่างมื่ออาชีพครับ)
รวม 10,570.- บาท
ก็เสนอแนะเป็นข้อมูลเพื่อสมาชิก คิดที่จะทำพวงมาลัยฯ
:bye: :bye: :bye:
-
ผ่านมาแล้ว 4 วัน ยังไม่เกิดปัญหาใดๆ ครับ
-
สุดยอดครับ
-
ภาพสายพาน
อ๋อ อย่างนี้นี่เอง มองไม่ถนัดนึกว่าแบบที่ผมวาดรูป :-[ :-[ :-[
-
เยี่ยมครับ
แต่ผมเป็นห่วงแรงเฉือน(ดึงออกข้าง)ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากต่อพูลเล่ย์ยื่นออกมาเท่ากับเพิ่มแรงงัดให้กับข้อเหวี่ยง
พอติดเครื่องมันเหวี่ยงไปเรื่อยๆเท่ากับการรับภาระจะเพิ่มขึ้นที่กลัวคือข้อเหวี่ยงจะขาดครับ
ผิดถูกขออภัยล่วงหน้าครับ
-
"อ๋อ อย่างนี้นี่เอง มองไม่ถนัดนึกว่าแบบที่ผมวาดรูป"
ตอบพี่ chai3392 ครั้งแรกที่ทำเป็นอย่างที่พี่วาดนะครับ และก็มีปัญหาที่พี่ว่าด้วยครับ
ก็เลยแก้เป็นแบบ 3 สายพานครับ ณ ตอนนี้ปกติดีครับ ไม่มีปัญหาครับ
เราจะทำวิธีอื่นอีกได้ไหมครับ
-
ก็คงมีแต่คอยตั้งสายพานเท่านั้นมั้งครับ แต่คงไม่บ่อยหรอก
-
ผมไ้ความร้จากท่านมากเลยครับ
รถผมมีปัญานำ้มันพวงมาลัยรั่ว
น้ำมันพวงมาลัยแห้งบ่อยมากไม่รู่้ว่าซึมตรงใหน
มองดูพื้นเวลาจอดไม่มีหยด
น่าจะเป็นจุดใหน
เวลาเติมน้ำมันแล้วใช้ได้ปกติ
-
น่าจะเป็นที่ซีนตรงคอแร็คนะครับ มันจะซึมมาที่ตรงคนขับหรือเปล่าครับ
และห้องโดยสารจะมีกลิ่นน้ำมันด้วยหรือเปล่าครับ เพราะรถเพื่อนผมก็เคยเป็นอาการนี้นะครับ
วิธีแก้ก็ถอดแร็คฯ มาซ่อมนะครับ
หรือไม่ก็ลองตรวจดูตรงข้อต่อของท่อฯ นะครับ และก็สายครับตรวจดูละกันว่ารั่วตรงไหน
เช็คด้วยตัวเองก่อนครับ ไปหาช่างจะได้จ่ายน้อยหน่อย
*** ราคาซ่อมแร็คแล้วแต่อาการครับ รถเพื่อนผมประมาณ 3,000.- บาท อันนี้ปล่อยไว้นาน จนมีเสียดังทั้งที่รั่วมาเป็นปีแล้ว ต้องกลึงใหม่ และเปลี่ยนซีนด้วย
-
ตัวปั่นตัวที่สองเป็นของรถรุ่นใหนครับไปหาที่ใหนได้ครับ
-
ตัวปั่นตัวที่สองเป็นของรถรุ่นใหนครับไปหาที่ใหนได้ครับ
รถของผมก็มีอาการสายพานไหม้เหมือนกัน อาการเดียวกันทั้งหมดที่เล่ามาเลย
-
สวัสดีครับคุณkiddeeขอรบกวนถามอาการรถครับ หลังจากเพิ่มมู่เล่แล้ว ตอนนี้รถมีอาการเป็นอย่างไรบ้างครับ คือว่ารถที่เป็นต้นแบบแปลงเพาเวอร์ตอนนี้มาอยู่กับผมครับ มีอาการสายพานไหม้ เป็นแบบเดียวกับที่คุณkiddeeเร่ามาทั้งหมดเลยครับ ผมเลยอยากจะเพิ่มมู่เล่บ้างครับขอคำชี้แนะครับ
-
ตัวปั่นตัวที่สองเป็นของรถรุ่นใหนครับไปหาที่ใหนได้ครับ
เป็นของยี่ห้อ โฟล์คสวาเกนครับ รหัสดูได้ตามภาพนะครับ
-
สวัสดีครับคุณkiddeeขอรบกวนถามอาการรถครับ หลังจากเพิ่มมู่เล่แล้ว ตอนนี้รถมีอาการเป็นอย่างไรบ้างครับ คือว่ารถที่เป็นต้นแบบแปลงเพาเวอร์ตอนนี้มาอยู่กับผมครับ มีอาการสายพานไหม้ เป็นแบบเดียวกับที่คุณkiddeeเร่ามาทั้งหมดเลยครับ ผมเลยอยากจะเพิ่มมู่เล่บ้างครับขอคำชี้แนะครับ
จากการใช้งานจริง
ยังไม่ไมีปัญหานะครับ ผมวิ่งทางไกล นับจากวันที่ผมติดตั้งมา ไป-กลับกรุงเทพฯ สุรินทร์ 5 เที่ยวแล้ว และก็ ไปกลับกรุงเทพฯ อุบลราชธานี. อีกเที่ยวหนึ่ง ใช้งานในกรุงเทพฯ วันละประมาณ 70-90 กม. ยังไม่มีปัญหาครับสำหรับมู่เล่ แต่ปัญหาที่เจอก็คือเหล็กยึกตัวปั่นครับ มันหักเนื่องจากผมใช้เหล็กไม่แข็งแรงพอ. พอเราวิ่งเร็วๆ แรงๆ มันก็เลยหักครับ ตอนนี้ผมเปลี่ยนเหล็กยึกใหม่แล้ว นิ่งมากครับ ว่างๆ จะเอาภาพมาให้ดูครับ. (เหล็กยึผมมี3 อัน หักไปหนึ่งอันมันก็ยังวิ่งกลับบ้านได้สบายครับ)
ผมแนะนำนะครับ ทำได้เลย. ถ้าจะมาดูตัวอย่าง ผมอยู่แถวบางเขน ราบ11 หรือ ช่อง5. ครับ
-
ขอบคุณครับที่แนะนำ รบกวนถามครับ มู่เล๋ย์ที่เอาไปกลึงเขาทำไงครับ เอาเหล็กหนามากลึงเพิ่มอีก1ร่องแล้วเอาไปแปะติดกันอย่างไรครับ หรือว่าทำมู่เล่ย์ไหม่ทั้ง3ร่องเลย
จะเอาวิธีไปบอกช่างครับ
-
ขอบคุณครับที่แนะนำ รบกวนถามครับ มู่เล๋ย์ที่เอาไปกลึงเขาทำไงครับ เอาเหล็กหนามากลึงเพิ่มอีก1ร่องแล้วเอาไปแปะติดกันอย่างไรครับ หรือว่าทำมู่เล่ย์ไหม่ทั้ง3ร่องเลย
จะเอาวิธีไปบอกช่างครับ
ไปที่ร้านแล้วบอกว่า เพิ่มมู่เล่ให้ด้วยครับ และขนาดของร่องมู่เล่ให้เขาทำให้ขนาดเท่ากับร่องของตัวปั่นนะครับ ถ้าจะให้ดีเอาตัวปั่นไปด้วยนะครับจะได้ไม่พลาดครับ. ส่วนช่างเขาจะเชื่อมติดกันให้ใหม่ครับ ไม่ได้ทำใหม่ทั้ง 3 ร่องนะครับ (ทำเสร็จแล้วอัพภาพมาให้ดูด้วยนะครับ)
-
ขอบคุณครับที่แนะนำ ช่วงนี้ยังใช้รถไปแบบนั้นไม่มีเวลาทำเลยครับถ้าทำเมื่อไรจะส่งภาพมาให้ดูครับ
-
วันนี้พอมีเวลาบ้าง ก็เลยถอดมู่เลย์เอาไปโรงกลึง ตอนเย็นค่อยไปรับ ต่อมาก็ถอดตัวปั่นออก แล้วจะทำขายึดใหม่ขาเก่าเก็บไว้ก่อน หลังจากนั้นก็ดัดขายึดกรองอากาศ ทำตามแบบคุณkiddeeทุกอย่างครับ ;) :D.(http://image.free.in.th/z/ia/1photo0056.jpg) (http://pic.free.in.th/id/0f008dc9da415e80ac301fd62562166d)(http://image.free.in.th/z/ia/2photo0054.jpg) (http://pic.free.in.th/id/fd12ca114974952dcc06f4111135ab85)(http://image.free.in.th/z/io/photo0058.jpg) (http://pic.free.in.th/id/f81e3c6ec7aa956374aa9903e4e10ecd)
ช่วงค่ำๆจะมาอัพรูปมู่เลย์ไห้ดูครับ
-
ไปเอามู่เล่ย์มาแล้วครับ เอามาพ่นสีนิดหน่อย รอมีเวลาค่อยมาใส่เข้าที่เดิม 8)(http://image.free.in.th/z/ij/1photo0059.jpg) (http://pic.free.in.th/id/5147d4879cfc6ac7d8fe908e046b913d)
-
ไปเอามู่เล่ย์มาแล้วครับ เอามาพ่นสีนิดหน่อย รอมีเวลาค่อยมาใส่เข้าที่เดิม 8)(http://image.free.in.th/z/ij/1photo0059.jpg) (http://pic.free.in.th/id/5147d4879cfc6ac7d8fe908e046b913d)
มู่เล่สวยนะครับ ทำสำเร็จแล้วขอดูผลงานหน่อยครับ
-
;D ขอเพิ่มนิดหนึ่งครับ
เมื่อเวลาผ่านไป เหล็กขายึดตัวปั่นไม่แข็งแรงพอ ปัญหาที่เจอเพิ่มก็คือเหล็กยึดตัวปั่นหัก :sorry
ก็ทำอันใหม่ใส่แทนครับ ต้องให้แน่นหนาไว้ครับ
ของเดิมเอาเหล็กบางไปก็เลยหักดังภาพ แต่ยังดีก็คือเหล็กยึดผมใส่ไป 3 ตัว หักไป 1 ยังคงวิ่งเป็น 120/กม. กลับจากอุบลมาสุรินทร์ได้สบายๆ ครับ
**** ;) เอามาให้ดูหากจะทำเองอย่าลืมนึกถึงขายึดตัวปั่นนะครับ เป็นอีกจุดหนึ่งที่สร้างปัญหาให้เราได้
ส่วนอื่นๆ ยังไม่พบปัญหาครับ ;) ;)
-
วันนี้ทำเส็รจเรียบรอ้ย ติดเครื่องดูแล้วก้มไปดมกลิ่นสายพาน ไม่มีกลิ่นไหม้ 8)แต่ยังไม่ได้ลองขับ มีงานด่วนเข้ามาก่อน
เดี๋ยวถ่ายรูปมาให้ดูครับ
-
เอารูปมาให้ดูครับ พอใส่อุปกรณ์เสร็จหน้าตาเป็นแบบนี้ครับแค่ขยับแท่นมู่เล่ย์เดิมให้ยื่นออกมาแล้วทำรูใส่น๊อดใหม่
เอาท่อน้ำมาทำท่ออากาศจะได้ส่วนโค้งพอดีแถมยังช่วยดันกลองอากาศไม่ให้กล่องกลองมาโดนกับมู่เล่ย์สายพาน
เบื้องต้นลองขับรถดูแล้วไม่มีปัญหาอะไรครับ :) :D ;D.(http://image.free.in.th/z/iw/2photo0065.jpg) (http://pic.free.in.th/id/b2f6f529a7447e7f42f25c66fcb87680)(http://image.free.in.th/z/ix/1photo0079.jpg) (http://pic.free.in.th/id/ad776b8d51f2f39768937f9fa5155a46)(http://image.free.in.th/z/ie/1photo0069.jpg) (http://pic.free.in.th/id/8f153d7667edbea55f2928229f284c0d)
-
เอารูปมาให้ดูครับ พอใส่อุปกรณ์เสร็จหน้าตาเป็นแบบนี้ครับแค่ขยับแท่นมู่เล่ย์เดิมให้ยื่นออกมาแล้วทำรูใส่น๊อดใหม่
เอาท่อน้ำมาทำท่ออากาศจะได้ส่วนโค้งพอดีแถมยังช่วยดันกลองอากาศไม่ให้กล่องกลองมาโดนกับมู่เล่ย์สายพาน
เบื้องต้นลองขับรถดูแล้วไม่มีปัญหาอะไรครับ :) :D ;D.(http://image.free.in.th/z/iw/2photo0065.jpg) (http://pic.free.in.th/id/b2f6f529a7447e7f42f25c66fcb87680)(http://image.free.in.th/z/ix/1photo0079.jpg) (http://pic.free.in.th/id/ad776b8d51f2f39768937f9fa5155a46)(http://image.free.in.th/z/ie/1photo0069.jpg) (http://pic.free.in.th/id/8f153d7667edbea55f2928229f284c0d)
แจ่มครับ อย่าตรวจเช็คขายึดตัวปั่นนะครับ ;)
-
สอบถามหน่อยครับเวลาดัดแปลงแบบนี้แล้วเวลาเลี้ยว หักพวงมาลัยสุดมีเสียงดังมั้ยครับ
แล้วก็มันจะมีผลต่อแรงของเครื่องยนต์มั้ยครับ
ดูแล้วน่าสนใจมากครับ
-
สอบถามหน่อยครับเวลาดัดแปลงแบบนี้แล้วเวลาเลี้ยว หักพวงมาลัยสุดมีเสียงดังมั้ยครับ
แล้วก็มันจะมีผลต่อแรงของเครื่องยนต์มั้ยครับ
ดูแล้วน่าสนใจมากครับ
เวลาเลี้ยวมีเสียงได้ไหม จากรถผมเองที่ทำมานะครับ
รถจอดสนิท จะมีเสียงครับ เป็นเสียงลักษณะของตัวปั่นที่ทำงานหนักขึ้น แต่แทบจะไม่ได้ยินนะครับ ถ้าไม่ตั้งใจฟัง จะดังเฉพาะเวลาที่เราหักจนสุดแล้วแช่ไว้นะครับ
แต่ถ้าปกติเราหักเลื้ยวธรรมดาไม่แช่ไว้ก็ไม่มีเสียงนะครับ
ส่วนเวลาวิ่งไม่มีครับ
สำหรับแรงเครื่องนะครับ รถผมเองเดิมๆ เครื่องเดิมไม่แต่งอะไรเพิ่ม ล้อขอบ 13 นอกจากที่เปลี่ยนพวงมาลัยฯ ก็ยังวิ่งได้ 150 กม./ชม. อยู่เหมือนเดิมครับ
การขับก็ซิ่งได้ดีกว่าเดิมครับ ตอนจอดไม่ต้องใช้แรงเหมือนเพาเย่อฯ ครับ ที่แคบๆ เสร็จเราครับ ยิ่งรถเล็กๆ หมุนพวงมาลัยฯ แทบไม่ต้องออกแรง
ยังงัยก็ลองหาข้อมูลก่อนตัดสินใจทำนะครับ
-
ตอนนี้ยังใช้ดีใช่มั้ยครับ :)
-
ตอนนี้ยังใช้ดีใช่มั้ยครับ :)
ยังใช้งานได้ปกติครับ ไม่มีปัญหาครับ
-
ตอนนี้ยังใช้ดีใช่มั้ยครับ :)
ยังใช้งานได้ปกติครับ ไม่มีปัญหาครับ
ถามหน่อยครับ...ชุดพาวเวอร์ที่พี่เอามาใส่นี่เป็นของเครื่องตัวไหนครับ..เพราะผมก้อกะลังจังใส่พาวเวอร์ให้เจ้าซ่า3drของผมเหมือนกัน
แต่ของผมเป็นพาวเวอร์จากเครื่องx14ครับ ถ้าตัวเดียวกันจะได้ให้ช่างทำตามพี่ไปเรย ขอบคุณครับ
-
ตอนนี้ยังใช้ดีใช่มั้ยครับ :)
ยังใช้งานได้ปกติครับ ไม่มีปัญหาครับ
ถามหน่อยครับ...ชุดพาวเวอร์ที่พี่เอามาใส่นี่เป็นของเครื่องตัวไหนครับ..เพราะผมก้อกะลังจังใส่พาวเวอร์ให้เจ้าซ่า3drของผมเหมือนกัน
แต่ของผมเป็นพาวเวอร์จากเครื่องx14ครับ ถ้าตัวเดียวกันจะได้ให้ช่างทำตามพี่ไปเรย ขอบคุณครับ
ที่ผมใช้เป็นของตรงรุ่นนะครับ ของ เจ้าซ่า3dr ครับ แต่ตัวปั่นเป็นของ Audi รหัสตามภาพนะครับ ทุกวันนี้ก็ยังใช้งานได้ปกติครับ
-
พี่ครับ..ผมอยุ่ กทม. เห็นว่าแร็ครถเพือ่นพี่เอาไปซ่อม..ซ่อมที่ใหนครับ..ของผมอาการคล้ายๆกันครับ..ขอบคุณครับ