OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
		Opel in Talks => FAQ and Articles => Topic started by: Joofy on 22 Jun  2009, 21:28
		
			
			- 
				ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจและรู้กันก่อนว่าน้ำยาแอร์รถยนต์ในบ้านเรามีใช้กันอยู่กี่เบอร์กี่ประเภทนะครับผมได้รวบรวมเอามาไว้ที่ใช้กันบ่อยๆ(popular)ละกันนะครับ
 น้ำยาแท้...
 ส่วนผสมของสะสารแบ่งออกเป็น..CFCs,HFCs
 CFC=คาร์บอน+ฟลูโอรีน+คลอรีน..คือน้ำยาเบอร์R11,R12
 HFC=ไฮโดรเจน+ฟลูโอรีน+คาร์บอน..คือน้ำยาเบอร์R134a,R141b
 เอาละเรามาดูข้อดีข้อเสียของน้ำยา2ตัวก่อนเรยครับที่เรานิยมใช้กันมากมาย
 R12..มีจุดเดือด-29.8c
 R134a..มีจุดเดือด-26.2c
 ข้อดี..ดังที่เห็นข้างต้นจุดเดือดของR12ต่ำกว่า...และกล่าวได้คือR12เย็นกว่าR134a
 อีกอย่างที่เป็นข้อดีของR12เมื่อเทียบกับR134aคือR12ใช้น้ำมันในกลุ่มMineral Oilซึ่งเป็นน้ำมันในกลุ่มฐานแร่..
 หาได้ง่ายและไม่ทำปฎิกริยาต่อสายน้ำยาและแผงคอล์ยอลูมิเนียมต่างๆ(ดังสังเกตุเห็นได้ว่าแอร์รุ่นเก่าๆจะทนกว่าแอร์ในรถรุ่นใหม่ๆ)
 ต่างจากน้ำมันของR134aซึ่งใช้น้ำมันเคมีสังเคราะห์หรือPolyol Esterซึ่งทำปฎิกริยากับอากาศ(ดูดความชื้นในอากาศ)
 ทำให้เมื่อเปิดระบบR134aนานเกินกว่า45นาทีน้ำมัน134aจะหมดสภาพใช้งานและข้อจำกัดที่จะต้อง
 ใช้สายน้ำยาที่ต้องมีสารสังเคราะห์เคลือบอยู่ไม่ง้านน้ำยาจะรั่วเป็นตามดตามสายน้ำยาแอร์..และ..แรงดันR12ที่ต่ำกว่าทำให้ชิ้นส่วนต่างๆทนกว่าR134a
 
 ข้อเสีย..น้ำยาR12เริ่มหายากขึ้นเรื่อยๆเพราะมีโครงการให้เลิกใช้เพราะR12มีสารคลอรีนเป็นส่วนประกอบจึงทำลายชั้นบรรยากาศ
 ข้อเสียต่อมาR12มีการปลอมปนสูงถ้าจะใช้ต้องมีร้านที่ไว้ใจจิงๆต่างกับR134aซึ่งมีน้ำยายี่ห้อดีดีใช้เช่นDupont,forrentเป็นต้น
 ส่วนอย่างอื่น134aแทบไม่มีข้อดีกว่าR12แต่อย่างไร
 
 ข้อแนะนำในการเปลี่ยนจากระบบR12เป็นR134aมีดังนี้...
 -คอมเพรสเซอร์..ต้องเป็นคอมเพรสเซอร์ที่ใช้น้ำยา134aได้เท่านั้น
 -น้ำมันคอมเพรสเซอร์ให้ค้างในระบบได้มากที่สุด5%
 -คลัสแม่เหล็ก..เนื่องจากความดันของR134aมากกว่า...จะต้องดูดได้แรงขึ้น
 -ท่อทางเดินสารทำความเย็น
 -คอนเด็นเซอร์ต้องใหญ่ขึ้นและระบายความร้อนได้ดีขึ้น
 
 น้ำยาผสม...เป็นน้ำยาทดแทนR12ในชื่อเรียกต่างๆว่าCool12,Cool134
 เป็นสารทำความเย็นในกลุ่มHCFCผสมกัน...โดยมีส่วนผสมดังนี้...
 R401a...
 อัตราส่วนผสม..R22=52%,R152a=15%,R124=33%
 R401b...
 อัตราส่วนผสม..R22=60%,R152a=13%,R124=27%
 น้ำยาผสมข้างต้นมีจุดเดือดที่-27cและ-30c...ตามลำดับ...
 จากข้อมูลข้างต้นจึงกล่าวได้ว่่าน้ำยาผสมนั้นเย็นกว่าและใช้น้อยกว่าR12
 แต่ข้อจำกัดของน้ำยาผสมคือเป็นสารผสมดังนั้นการใช้งานคือให้ใช้..ลิควิดชาร์ดทางด้านhighsideเท่านั้น..เพราะถ้าใช้ด้านแก๊สชาร์ดทางด้านLowside
 แบบR12ส่วนผสมที่ผสมอยู่ในน้ำยาแอร์จะไม่ได้ส่วนตามต้องการและทำให้แอร์ไม่เย็นเท่าที่ควรจะเป็นหรือ
 ถ้าอันตรายกว่านั้นอาจทำให้คอมเพรสเซอร์และชิ้นส่วนภายในเสียหายได้...ข้อเสียอีกอย่างนึงคือถ้าน้ำยามีการรั่วซึม...ในส่วนของน้ำยาผสมจะเติมไม่ได้
 เนื่องด้วยข้อจำกัดที่ไม่สามารถเติมทางด้านLowsideได้จึงต้องแว็คคั่มแล้วเติมใหม่ทั้งหมด...ที่สำคัญอีกอย่างที่ผู้ผลิตไม่ได้แจ้งกับผู้บริโภคคือ
 น้ำยาผสมที่มีขายอยู่ในท้องตลาดมีส่วนผสมของไฮโดรคาร์บอน...สามารถติดไฟได้และจะมีผลทางการตลาด
- 
				สรุปพี่ เอามาแจกเถอะครับทำแบบเต็มเองได้ไรงี้เหอะๆ แจ่มมากๆ ละเอียดถึงกึ๋นเหอะๆ
			
- 
				ไปเปลี่ยนมาแล้วครับ ตู้แอร์ผุ เลยให้ช่างเปลี่ยนใหม่ทั้งระบบเลย ตอนนี้เป็น R134 แล้ว อิอิ โดนไป 1k กว่า  :'( :'(