OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
Opel in Talks => General Discussion => Topic started by: jubjibman on 13 Nov 2009, 22:51
-
อาการของเจ้า opel astra ของผมมันเริ่มตั้งแต่วันที่ 2/11/52 แล้ว คือตอนสตาร์ทมันเกือบจะสตาร์ทไม่ติด ต้องบิดอยู่นานกว่าจะติด (ดังแชะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ)
ok ผ่านมาได้ดีไม่มีอะไร
วันลอยกระทง ก็สตาร์ทได้ดีเลย
พอหลังจากวันลอยกระทง ลองสตาร์ทใหม่ มันก็เป็นอาการเดิมคือ เกือบสตาร์ไม่ติด (แชะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ)
หลังจากนั้นก็ไม่ได้ใช้รถอีกจนกระทั่งวันที่ 6/11/52 (ผ่านมาแค่4วันเอง) ก็จะขับรถกลับบ้าน ปรากฎว่า รถสตาร์ทไม่ติดครับ (แชะยาวเลยทีนี้)
ไฟแบตเตอรี่หมดรึเปล่า.... ก็ไม่น่าน่ะ ทิ้งรถไว้แค่4วัน แบตจะหมดง่ายๆเลยหรอ ตอนจะสตาร์ทไฟหน้าปัด ลองเปิดแอร์ เปิดกระจกไฟฟ้า ก็ทำงานได้ดีอยู่ทั้งหมด ยกเว้นแค่สตาร์ทไม่ติด
ผมก็ลองจั้มแบตดูกับรถคันอื่นๆ (ลองหลายคัน กลัวจั้มพลาด จั้มไม่เป็น) ก็ไม่ติดครับ
ก็เลยทิ้งรถเอาไว้ กลับบ้านมาก่อน
ผ่านไปเกือบอาทิตย์ (ก็ลองจั้มแบตดูกับรถคันอื่นน่ะครับ เพราะไม่คิดว่าอาการมันจะหนักหนาอะไร) ก็ลองเรียกช่างมาดูครับ เค้าก็ลากรถไปที่อู่ ใกล้ๆกันครับ
วันรุ่งขึ้น (13/11/52) แจ้งมาว่าตัว sensor หน้าเครื่องเสีย !!! มันคืออะไรหว่า ถามย้ำไป 3 รอบ อะไรน่ะครับๆๆ "มันเอาไว้เป็นตัวควบคุมการจุดระเบิดหน่ะน้อง" อ่อหรออ ก็ไม่รู้จักอยู่ดี [ที่พิมพ์มาก็ไม่รู้ว่าจำมาถูกอีกรึเปล่าน่ะครับ]
เท่าไหร่ครับ = ของมือ2พี่หาไม่ได้เลย ต้องเบิกห้างอย่างเดียว 3600.- + ค่า service 500 รวม 4100.- โอยเครียดครับ....
รถอยู่ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตครับ ไม่ทราบว่ามีใครพอจะให้ความช่วยเหลือ คำแนะนำได้บ้างครับ อู่นี้ผมก็ไม่เคยมาซ่อมครับ (เผื่อใครอยู่แถวรังสิต จะมีอู่ที่ไว้ใจได้ ซ่อมประจำ +ช่วยลากรถด้วย)
ตัว sensorหน้าเครื่องนี้ มันพอจะหาได้บ้างไหมครับ หายากมากไม๊ (ยิ่งเป็น astra อีก) ช่วยชี้เป้าให้ที
แล้วค่าลากรถ + ค่าแรง มันควรจะถึง 500 ไม๊ครับ ลากรถจากในมหาวิทยาลัยออกมาฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัย
ตอนนี้รถก็จอดอยู่ที่อู่ครับ เค้าให้เวลาตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป จะสั่งของเลยไม๊
ผมก็คิดอะไรไม่ออกจริงๆว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี
-
ตอบยากครับไม่ได้ยินเสียงเอง อีกอย่างถ้าเอาสบายใจนะซ่อมไปก่อนเอารถออกมา แล้วค่อยว่ากันครับ ทำไมอยากรู้ว่าแบตเสียหรือไม่ ควรเอาแบตรถเพื่ือน กับของคุณสลับกันแค่นี้ก็รู้แน่นอนครับเหอะๆ ส่วนจะซ่อมหรือไม่นั้นตอบลำบากรอคนแถวรังสิตมาดีกว่า เหอะๆ
-
แคมเซ็นเซอร์ ราคาไม่น่าโหดขนาดนั้นนะ
สอบถามอู่สินดู..
ต้องดูอาการว่า มันแชะเงียบ หรือแชะ ๆ (อธิบายยากอ่ะนะ)
บางทีแชะเหมือนจะติด ก็ลองเหยียบคันเร่งด้วยดูสิ
ถ้าติด ก็เซนเซอร์น้ำเจ้ง ตัวละพันกว่าบาท
-
โทรมาอธิบายผมสะดวกไหมครับ :มั้ง:
-
คาดการนะคับ ผมว่าเป็นที่เซ็นเซอร์สกปรก
-
-เช็คแบบง่ายสุดๆถ้าแบตหมด บีบแตร เปิดไฟ ไม่ติดซักอย่าง ครับ แตรจะเสียงเหียวๆแบบว่าหมดแรงนะครับ
-จากนั้นตรวจสอบเซ็นเซอร์ ล้างด้วยกระดาษทรายหรือ โซเน็ค
-ถ้ารถผมเสร็จ ทัน หรือมีการลองรถจะ แววๆไป 086-515-9791 เจี๊ยบ
ถ้าเช็คคราวๆทางโทรศัพท์ และพี่พอจะ ถอดทำเองได้โทรมาแล้วกันครับ
เป็บครับคุณมึงจะว่างๆไปกันไหมครับ เผื่อมันแค่ห่วยสุดๆ จะได้ไม่โดน หัวเบะนะแล้ว ช่างที่ดูให้พี่เป็นใครอะไรยังไงครับ
เขาจะโกรธผมไหมเนี่ยถ้ามันไม่เสีย และถ้าเสียจริงๆ ใครมีเก็บไว้ไหม หรือใครไปอู่พี่สินมั้ง โทรบอกด้วยครับผม
เรื่องราคาพี่อย่าไปสนใจครับ เรียกเขามาแล้วก็ต้องให้เขาไป อีกอย่างรถอยู่กับเขาแล้ว ทำไรก็ลำบาก เหอะๆ
คือ ถึงยังไง เราก็ควรเคารพในวิชาชีพครับ ช่วยนะได้แต่ยังไงพี่โทรมาก่อนแล้วกันครับ เหอะๆ
-
นั้นแหละปัญหาคือรถไปถึงเค้าแล้วอ่ะ
ถ้ามันสกปรกล้างหายได้จะพูดยังไงกับทางอู่
เพราะตอนเอารถไปก็ไปขอให้เค้าช่วยอ่ะนะพอรู้หรือแก้ได้เองแล้วจะไปพูดกับที่อู่เค้าแบบกูรู้นะมึงจะฟันกูแบบนั้นคงไม่ดี
คือแบบว่าคืออาชีพเค้าอ่ะนะเวลามีใครไปว่าเค้าไม่เก่งหรือออกแนวไปสอนเค้าทั้งๆที่เค้าทำงานนี้มา10ปีอะไรแบบนั้นคงจบไม่สวยแน่ๆ
ไปดูได้นะวันนี้รถคุณพี่มึงจะทำไรอ่ะวันนี้
-
ตกลง เจ้าตัวเขาเช็คได้ยังอ่ะ..?
-
นั่นแหละพี่นุ่น เจ้าตัวหายไปไหนครับ คนในนี้เป็นห่วงคุณนะ มีไรก็มาปรึกษากันก่อน :) :)
-
จากประสบการณ์ข้อต่อเซนเซอร์ที่ยึดที่ท่อไอดีสูบ1ซ้ายมือชื้นเป็นขี้เกลือถอดออกฉีดน้ำมันเอนกประสงค์แล้วเอากระดาษทรายพับแยงๆหน่อยนึง :( :( :(
เสียบกลับ ชึ่งเดียวติด
-
วันก่อนน้องเขาเอาเซ็นเซอร์มาแล้วครับ พี่อ้วนเอาไปเช็คให้แล้ว ติดปกติทีนี้เหละลำบาก ไม่รู้น้องเขาจะทำไงต่อ....เฮ้ออออ...
-
...เฮ้ออออ.... :-X น่าจะปรึกษากันก่อนซ่อมอ่ะ...พลาดไปแล้วทำงัยได้อ่ะ...ก้อบาดเจ็บอ่ะดิ :จุก: :จุก:
-
ถ้างั้น..
-เช็คจานจ่าย หรือระบบไฟดูก่อนมั้ย?
-เช็คปั๊ม และกรองเบนซิลดูก่อนมั้ย?
-
ทำอะไรก็ลำบากครับ รถอยู่อู่เขา เป็นผมค่า จ่ายค่าแรงไป ยกรถออกมาทำที่อื่นนะครับเฮอออออ.......บอกว่าเสีย แต่ไม่เสีย
ส่วนเรื่องตรวจเช็ค คงยากครับเพราะดูจากการวิเคราะห์แล้ว :dead:
-
ไม่ยากนี่ครับ ใครว่างก็ขับเข้าไปที่อู่ให้ลองสลับกับคันที่ขับมาดู จะได้รู้ไปเลย แต่ว่าอยู่ที่ไหนหว่าไม่ได้อ่านรายละเอียด
-
เซ็นเซอร์ไม่ได้เสียแต่อย่างใดครับพี่ เฮออออออ......
-
น่าจะทำแบบนี้นะ
ให้น้องมันทำเป็นมึนๆ และหารถรุ่นเดียวกันเนี่ยละ เอาไปถอดเปลี่ยนตัวที่ช่างบอกว่าเสียแต่ไม่เสีย แล้วสลับกันใช้พอให้ได้ออกจากอู่ก่อน แล้วค่อยว่ากัน
ยอมเสียค่าแรงให้เค้าไป
ว่าแต่เจ้าตัวไปไหนวะเนี่ย ;D ;D ;D ;D
-
สวัสดีครับท่านทั้งหลาย ขออภัยด้วยที่ผมไม่ได้เข้าบอร์ดมารายงานความเคลื่อนไหวให้ทราบ
ขอบคุณพี่เจี๊ยบ มากเลยน่ะครับที่คอยแนะนำสิ่งต่างๆให้
ลองเอามาเสียบแล้ว ยังสตาร์ทไม่ติดเหมือนเดิมครับ ลองให้เค้าลองเปลี่ยนแบต เช็คฟิวแล้ว ก็ปกติดี
ผ่านไปวันกว่าๆ ช่างโทรบอกว่า หาเจอล่ะ ปั๊มติ๊กเสีย ลองเอาของมือ2มาใส่ ก็สตาร์ทติดครับ
สนนราคามาประมาณ 2000 กว่าบาทครับ [ผมยังไม่ตกลงกับช่างครับ ขอเวลาคิด(มาปรึกษาพี่ๆในบอร์ดก่อน)]
ถามสาเหตุมาว่าทำไมเสีย ก็เพราะว่าไม่ค่อยได้ใช้น้ำมัน (รถผมใช้แก๊สครับ ใช้น้ำมันเฉพาะตอนสตาร์ท) ผมเติมน้ำมันเบนซิน91 ตลอด เหลือประมาณครึ่งถังติดเอาไว้เสมอ
แต่ที่แปลกใจคือ เพิ่งเปลี่ยนปั๊มติ๊กไปเมื่อเดือนมิถุนายน ใช้มาประมาณ 5 เดือน
ผมสงสัยอะไรอีกนิดหน่อยครับ
- ปั๊มติ๊กมันพอจะซ่อมได้ไหมครับ ?
- ปั๊มติ๊กในรถแต่ล่ะยี่ห้อ มันเหมือนกันไม๊ครับ (ผมสงสัยที่เค้าเอามาลอง ว่าเอามาจากไหน) ?
- และจากอาการที่ผมกล่าวไว้ในข้างต้น คือ สตาร์ทไม่ติด แชะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นี่ สาเหตุมาจากปั๊มติ๊ก ใช่ไหมครับ
-
2000 ทำไมมันแพงจังอ่ะ
เอาของโตต้าแทนได้ป่าวอ่ะ..... :มั้ง: :มั้ง:
-
:( ทำไงก็ได้เอารถออกมาครับ ไปซ่อมที่อื่นเถอะครับ และก็จ่ายค่าแรงไป จบๆครับ อย่าคิดมากเราพลาดไปก็ต้องเสียเลือดเนื้อเป็นธรรมดา เฮ้อ.....
-
อาจจะเป็นที่ปั๊มติ๊กก้อได้ หรือ กรองเบนซิลตันก้อได้(อันนี้เป็นอยู่เย็นนี้จะไปซื้อมาเปลี่ยน) หรือ หัวฉีด(เป็นไปได้ยาก)
อีกอันก้อจานจ่าย....
องค์ประกอบ 3 อย่างครับ น้ำมัน ไฟ อากาศ
-
สวัสดีท่านทั้งหลายอีกรอบครับ (ไม่ได้เล่น net เลยไม่ได้เข้ามา update)
สรุปค่าเสียหาย
ก็เปลี่ยนปั๊มติ๊กมือสองไป 1000.- ค่าแรง+ค่าลาก 700.- รวม 1700.- ครับ
คราวหน้าคงหาอู่ที่พี่ๆแนะนำ คงดีกว่านี้
-
อ่าว... สรุปว่ามันไม่เสียจริงๆ ชิิมิ... ;D ;D ;D
-
อย่าไปคิดมากครับ......ลักษณะแบบนี้เจอบ่อยสำหรับคนที่ใชโอเปิ้ลแต่ไม่มีความรู้เรื่องรถซักเท่าไร :มั้ง: เหมือนผมแหละเจอเปลี่ยนของมาเยอะแต่ไม่หายก็เพราะช่างที่รู้ไม่จริง :จุก: ช่างที่รู้จริงก็อยู่กันซะไกลปู๊น :ไม่: แต่ก็ภาคภูมใจกว่าการใช้รถใหม่นะครับเพราะคนใช้รถใหม่ๆนะเค้าไม่มีตังซ่อมเลยต้องใช้รถใหม่ๆ ไม่เหมือนเรามีตังซะอย่างจะเสียอะไรว่ามาตังเยอะ :shock:
-
เบอร์โทรเพื่อน ๆ ในเว็บ ควรเก็บสะสมไว้ในเครื่องมือถือครับ เพราะมีประโยชน์มากนะ ขอบอก อย่างน้อยเรื่องค่าลากรถ
-
สรุปค่าเสียหาย
ก็เปลี่ยนปั๊มติ๊กมือสองไป 1000.- ค่าแรง+ค่าลาก 700.- รวม 1700.- ครับ
น่าน ..เดามั่วซะงบบานที่แท้ก็แค่ปั๊มติ๊ก..
คราวหน้าถ้าสตาร์ทไม่ติด บิดกุญแจยังงัยก็อี๊ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ก็ลองเคาะๆๆ ที่ปั๊มติ๊กดูก่อนนะ
ถ้ามันเสียอีก หาช่างที่ละเอียดๆหน่อย รื้อปั๊มติ๊กเอาปั๊มติ๊กเครื่องเจยัดเลย บวกค่าแรงพันกว่าบาทเช่นกัน..
-
ช่างเรียกเซนเซอร์หน้าเครื่องตวบตุมการจุดระเบิด ไม่รู้ตัวเดียวกันกับผมรึปล่าว ผมเรียกเซนเซอร์ความเร็วรอบเครื่องยนต์(Engine speed sensor)ก็คือตัวที่มันเสียบอยู่กับจานจ่ายน่ะครับ น่าจะใช่เพราะทำหน้าที่เหมือนกัน
-
แครงก์ชาฟ เซ็นเซอร์ครับ... ระวังสับสนนะฮะ ตัวเนี้ยมัน จะวัดองศาของการหมุนของ เครื่องยนต์ที่ต่อกับเกียร์เลยครับ ใน corsa สายมันจะไปต่ที่จานจ่าย
กับ แคมชาฟ เซ็นเซอร์ คือตัววัดองศาแคมครับ :)