OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
Opel in Talks => General Discussion => Topic started by: panyatu on 01 Dec 2009, 16:34
-
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า..........ครั้งที่ 1
...ขับอยู่ดีๆ แอร์ก็ไม่ทำงาน.....เลยไปให้ช่างแอร์ เช็ค
....ช่างแอร์หาอาการไม่เจอ..(ไม่เคยทำรถยี่ห้อนี้) เลยทำชุด Bypass ใส่ Temp. Switch และลากไฟไปที่ชุด
คลัชซ์ ของ Air Com เพื่อให้ทำงานไปก่อน... หมดไป 450 บาท ขับไปซักพัก ความร้อนขึ้น
เอารถลงข้างทาง พบ พัดลม หม้อน้ำไม่ทำงาน..เช็คไปเช็คมา Fuse ขาด โอ้ว..ช่างแอร์เล่น เราแล้ว....ไม่ว่ากัน....
ผ่านไป 1 เดือน
ครั้งที่ 2 ขับอยู่ดีๆ ความร้อนขึ้น เอารถลงข้างทาง...หาสาเหตุไม่เจอ..เลย Jump พัดลมตรงกับแบตเตอรรี่ กลับบ้านไปก่อน
ถึงบ้าน เช็คโดยระเอียด พบว่า Relay ไม่ทำงาน ติด INTERLOCK กับ Switch ของ Airconditionner ก็เลย...งง มาก ............
...................
เลยอยากถามว่า Switch ตัวนี้ มีหน้าที่อะไรครับ (ตัวที่อยู่ขวามือครับ) ติดอยู่ที่ท่อ Airconditionner
มันเกี่ยวอะไรกับพัดลม หม้อน้ำ งง จริงๆๆ ???....
-
ส่วนรูปนี้ รื้อ Relay มาดูครับ
ลืมบอกข้อมูลไปครับ รถผม Astra Van 16 V ครับ
-
รถจำเป็นต้องใช้งาน...ก็เลย ต่อ Switch ธรรมดาใช้งานไปก่อน ....(สีดำ ใต้ Fuse)
เดี๋ยวค่อยต่อกับ Temp Switch ใหม่ ไม่รู้ว่าของเดิมเป็นแบบไหนกันแน่ เพราะหลักจากบิดกุญแจแล้ว
พัดลมจะทำงานตลอด....
เดี๋ยวมีเวลาทำแล้ว....จะรายงานผลให้ทราบครับ... :มั้ง:
-
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว...ต่อสายไป พัดลมหม้อน้ำ ไว้อีกชุดดีกว่า เผื่อ วันไหนพัดลมหม้อน้ำไม่ทำงานอีก
จะได้ต่อตรง กับแบตเตอรรี่เลย ;D ;D.
......เอ้ หรือว่าจะซื้อพัดลมไว้อีกตัวดี....มีใครจะขายให้มั่งครับ :please: :please:
-
ผมทำสายแยกไว้รอเลย 1 ตัวฮะเวลาฉุกเฉิน... :)
-
ผมว่าที่พัดลมหม้อน้ำทำงานร่วมกับระบบแอร์ก็เพราะ เฟสเชอร์แอร์ (ใช้ศัพท์ไม่ถูกอ๊ะ) มันถึงระะดับครับก็เลยเอาพัดลมหม้อน้ำช่วยอีกตัวหนึ่ง น่าจะต่อพัดลมหม้อน้ำโดยใช้สวิทย์หัวโตคุมอย่างเดียวดีกว่าที่จะต่อแบบนี้อ๊ะ เพราะมันอันตราย เอาสัญญาณสวิทย์หัวโต ต่อค่อมรีเลย์ แล้วลากไฟบวกเข้ารีเลย์ น่าจะดีกว่าเยอะ ผมไม่เก่งเรื่องอธิบาย แต่สรุป ใช้อุณหภูมิสวิทย์หัวโตคุมพัดลมหม้อน้ำอย่างเดียวครับ
-
ผมว่าที่พัดลมหม้อน้ำทำงานร่วมกับระบบแอร์ก็เพราะ เฟสเชอร์แอร์ (ใช้ศัพท์ไม่ถูกอ๊ะ) มันถึงระะดับครับก็เลยเอาพัดลมหม้อน้ำช่วยอีกตัวหนึ่ง น่าจะต่อพัดลมหม้อน้ำโดยใช้สวิทย์หัวโตคุมอย่างเดียวดีกว่าที่จะต่อแบบนี้อ๊ะ เพราะมันอันตราย เอาสัญญาณสวิทย์หัวโต ต่อค่อมรีเลย์ แล้วลากไฟบวกเข้ารีเลย์ น่าจะดีกว่าเยอะ ผมไม่เก่งเรื่องอธิบาย แต่สรุป ใช้อุณหภูมิสวิทย์หัวโตคุมพัดลมหม้อน้ำอย่างเดียวครับ
รับทราบครับ..ตอนนี้ยังไม่มีเวลาทำ เดี๋ยวเจอกันแน่ เจ้าสวิทต์หัวโต :o :o
ตอนนี้เริ่มค่อยๆเรียนรู้ระบบมากขึ้น...วันอาทิตย์นี้...จะลองไล่ระบบอีกทีครับ
ระบบเดิม(ระบบควบคุม Relay)ใช้ไฟบวกไปรอที่ Relay ครับ แล้ว เอาสวิทช์ไปต่อ ขั่วลบครับ
-
ได้ข้อมูลจาก Sinauto เพิ่มครับ
...................................................
ลักษณะของปัญหา ถ้าความร้อนอยู่แบบในภาพที่ถ่ายมาก็คือ
พัดลมทำงานตามการสั่งของของเซ็นเซอร์ความร้อนครับ
ผมอธิบายถึงระบบการทำงานก่อนครับ
ระบบพัดลมซาฟีร่าจะทำงานสปีดต่าง ๆ โดย เซ็นเซอร์ความร้อน และ แรงดันน้ำยาแอร์ แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงค่าที่กำหนดก่อน โดยปกติที่เราใช้งานกันความร้อนที่ไม่ถึงกึ่งกลางของซาฟีร่า 2.2 เพราะ แรงดันน้ำยาแอร์สั่งงานก่อนครับ ซึ่งทุก ๆ คันจะเป็นแบบนี้ทั้งนั้น ความร้อนจึงไม่ถึงครึ่ง หรือ เกือบ ๆ ครึ่ง
แต่ ถ้าระบบแรงดันน้ำยาแอร์ของเราเกิดปัญหา จะมาจากคอม จากการอุดตันของแผงแอร์ หรือ จากเซ็นเซอร์แรงดันน้ำยาแอร์เอง การสั่งงานพัดลมจะผิดไปจากเดิม แรงดันแอร์สั่งงานพัดลมช้า ความร้อนถึงขึ้นมาสูงอย่างในภาพ แต่ พอถึงความร้อนแบบในภาพ เซ็นเซอร์อุณหภูมิน้ำจะสั่งพัดลมให้ทำงาน ความร้อนจึงไม่สูงขึ้นไปกว่านั้นครับ แต่จะสูงกว่าที่เคยใช้มา
การแก้ไข ต้องมาตรวจระบบแรงดันน้ำยาแแอร์ครับ รบกวนคุณเสียเวลาให้อีกรอบครับ
เอาเข้ามาอีกครั้งเดี๋ยวจะให้ช่างตรวจทดสอบและเช็คระบบให้ใหม่ ขอเวลาในการทำซักหน่อยครับ จะได้ให้ช่างเค้าลองทดสอบรถหลังจากแก้ไขแล้วครับ
-
เอาความรูจากพี่สินมาใส่เก็บไว้....
คำพูด:
1.ความร้อนปรกติของ calibra ฝาแดง อยู่ที่เท่าไรครับ
เดิม ๆ ถ้าร้อนจัด ๆ รถติดก็จะถึง 95-97 แล้วพัดลมหม้อน้ำจะยิงแรง
ถ้าเปิดแอร์ ความร้อนจะไม่ถึง 95-97 จะมีสวิทย์แรงดันน้ำยาแอร์สั่งงานพัดลมก่อน จะอยู่ประมาณ 92-94
แต่ น่าจะเอาเกณฑ์ตรงนี้มาดูได้ยาก เพราะ รถที่มีอายุงานมานาน มักจะมีการทำระบบพัดลม ระบบระบายความร้อนกันมาใหม่เยอะมาก (เท่าที่พบมา)
แต่ ถ้าเดิม ๆ ความร้อนอยู่ในช่วงที่ว่าก็โอเคครับ
จริง ๆ ผมไม่ชอบให้ความร้อนมันถึง 95-97 ครับ ผมชอบที่จะทำให้ความร้อนมันคุมอยู่ไม่เกิน 90-94
-
จุ๊บเสียบที่ติดกับพัดลมหม้อน้ำ มันหลวม ติดๆ ดับๆ จะทำการแก้ไขยังไง Opel corsa 5D :มั้ง:
-
จุ๊บเสียบที่ติดกับพัดลมหม้อน้ำ มันหลวม ติดๆ ดับๆ จะทำการแก้ไขยังไง Opel corsa 5D :มั้ง:
หมายถึงปลั๊กใช่ป่ะ ถ้าใช่ก็ตัดต่อสายไฟ หาปลั๊กใหม่ครับ
-
จุ๊บเสียบที่ติดกับพัดลมหม้อน้ำ มันหลวม ติดๆ ดับๆ จะทำการแก้ไขยังไง Opel corsa 5D :มั้ง:
หมายถึงปลั๊กใช่ป่ะ ถ้าใช่ก็ตัดต่อสายไฟ หาปลั๊กใหม่ครับ
ใช้ตรงปลั๊ก เราถอดเองได้ โดยดึงตรงเลยหรือเปล่า กลัวมันจะขาด เลยไม่ทำอะไรกับมัน
พอพัดลมหม้อน้ำไม่หมุน ก็ขยับปลั๊ก อย่างนี้ร้านไดนาโม แอร์ น่าจะมีของ หรือถ้าเราทำเองได้ เหมือนไม่ยาก
-
จุ๊บเสียบที่ติดกับพัดลมหม้อน้ำ มันหลวม ติดๆ ดับๆ จะทำการแก้ไขยังไง Opel corsa 5D :มั้ง:
หมายถึงปลั๊กใช่ป่ะ ถ้าใช่ก็ตัดต่อสายไฟ หาปลั๊กใหม่ครับ
ใช้ตรงปลั๊ก เราถอดเองได้ โดยดึงตรงเลยหรือเปล่า กลัวมันจะขาด เลยไม่ทำอะไรกับมัน
พอพัดลมหม้อน้ำไม่หมุน ก็ขยับปลั๊ก อย่างนี้ร้านไดนาโม แอร์ น่าจะมีของ หรือถ้าเราทำเองได้ เหมือนไม่ยาก
ถ้ามีความรู้บ้าง ทำเองก็ได้คัรบ ถ้าไม่ชัวร์ไปร้านดีกว่า เดี๋ยวถ้ามันช๊อตงานจะเข้าครับ
-
จุ๊บเสียบที่ติดกับพัดลมหม้อน้ำ มันหลวม ติดๆ ดับๆ จะทำการแก้ไขยังไง Opel corsa 5D :มั้ง:
หมายถึงปลั๊กใช่ป่ะ ถ้าใช่ก็ตัดต่อสายไฟ หาปลั๊กใหม่ครับ
ใช้ตรงปลั๊ก เราถอดเองได้ โดยดึงตรงเลยหรือเปล่า กลัวมันจะขาด เลยไม่ทำอะไรกับมัน
พอพัดลมหม้อน้ำไม่หมุน ก็ขยับปลั๊ก อย่างนี้ร้านไดนาโม แอร์ น่าจะมีของ หรือถ้าเราทำเองได้ เหมือนไม่ยาก
ถ้ามีความรู้บ้าง ทำเองก็ได้คัรบ ถ้าไม่ชัวร์ไปร้านดีกว่า เดี๋ยวถ้ามันช๊อตงานจะเข้าครับ
รีบซื้อมาเปลี่ยนเลยครับ ดู Amp ด้วย ว่าได้กี่ Amp ที่ 12 VDC นะ เอา Amp ให้มากกว่าที่พัดลมระบุนะ
-
>:( :( แฮ่แบบนี้ก็เคยเจอะเจอกับตัวเองคับเช็คไปมาก็ปนที่สายไฟบ้างฟิวบ้างดีเลบ้างอะ....
มีปัญญาบ่อยพอๆกันๆคับต้นรู้ดีเรื่องนี้
แต่ตอนนี้ไม่เป็นละคับให้อู่พี่สินทามให้หายเลยอาแต่รอบนี้ทำซะเนียนเลย
ไม่รู้ว่าเอาสายไฟไปไว้ไหนอ่า
หาไม่เจอว่าเส้นไหนอ่า
สงใสฮะว่าที่ต้นบอกว่าทำยกไว้เส้นหนึ่งอ่าไว้ฉุกเฉินอะมันเปนย่างไงละทำไงอ่า
เพื่อเอาไปทำบ้างอ่าคับ
-
ก็ เตรียม สายไฟเส้นใหญ่ๆ ขนาด ที่สายไฟพัดลมครับ แล้วก็ ถ้าพัดลมมันไม่ติด ก็ลอง เอาสายตัวเนี้ย ต่อตรงเข้ากับแบตดูก่อน(ยังไม่ต้องพันเข้า) ถ้าติดปรกติดี แปลว่า ระบบสายไปควบคุมเดิมมีปัญหาครับ ป้องกันการกินข้าวลิงได้ด้วยการ ต่อตรงพัดลมไปเลยก่อนครับ... :)
-
ก็ เตรียม สายไฟเส้นใหญ่ๆ ขนาด ที่สายไฟพัดลมครับ แล้วก็ ถ้าพัดลมมันไม่ติด ก็ลอง เอาสายตัวเนี้ย ต่อตรงเข้ากับแบตดูก่อน(ยังไม่ต้องพันเข้า) ถ้าติดปรกติดี แปลว่า ระบบสายไปควบคุมเดิมมีปัญหาครับ ป้องกันการกินข้าวลิงได้ด้วยการ ต่อตรงพัดลมไปเลยก่อนครับ... :)
ใช่เลย...ไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินครับ ;)
-
ก็ เตรียม สายไฟเส้นใหญ่ๆ ขนาด ที่สายไฟพัดลมครับ แล้วก็ ถ้าพัดลมมันไม่ติด ก็ลอง เอาสายตัวเนี้ย ต่อตรงเข้ากับแบตดูก่อน(ยังไม่ต้องพันเข้า) ถ้าติดปรกติดี แปลว่า ระบบสายไปควบคุมเดิมมีปัญหาครับ ป้องกันการกินข้าวลิงได้ด้วยการ ต่อตรงพัดลมไปเลยก่อนครับ... :)
ใช่เลย...ไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินครับ ;)
ที่เคยทำไว้ถ่ายรูปมาให้ดูบ้างนะ
-
ก็ เตรียม สายไฟเส้นใหญ่ๆ ขนาด ที่สายไฟพัดลมครับ แล้วก็ ถ้าพัดลมมันไม่ติด ก็ลอง เอาสายตัวเนี้ย ต่อตรงเข้ากับแบตดูก่อน(ยังไม่ต้องพันเข้า) ถ้าติดปรกติดี แปลว่า ระบบสายไปควบคุมเดิมมีปัญหาครับ ป้องกันการกินข้าวลิงได้ด้วยการ ต่อตรงพัดลมไปเลยก่อนครับ... :)
ใช่เลย...ไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินครับ ;)
ที่เคยทำไว้ถ่ายรูปมาให้ดูบ้างนะ
ผมทำดีกว่าปรกติ อ่ะครับ... มีปลั๊ก พัดลมแยกไว้เลย 1 ตัว เป็นตัวที่ ต่อตรงเข้าขั้วแบต โดยมีฟิว 30A กันเอาไว้ครับ ใช้ในเวลาลงสนามครับ...
ส่วน ตัว สายไฟฉุกเฉินที่ผมบอก.. มันแค่สายไฟ ซ่อมรถชั่วคราวจริงๆ ครับ + เข้า + - เข้า - ง่ายๆ แต่ว่าขอสายเส้นใหญ่ๆ เท่าสายพัดลมเดิมเท่านั้นเอง... คงไม่ยากมั้งครับ ไม่เคยทำแล้วถ่ายรูปไว้ครับ มัน ทำตอนซ่อมรถชาวบ้านเขาครับ... :สำนึก:
-
รถต้นต้องตอนฝนตกแล้วมีธุระต้องไปไหนแบบด่วนครับ ดูซิว่าจะไปเปิดฝากระโปรงต่อพัดลมป๊ะ เลือกเอาระหว่างเปียกกับพัดลมไม่ทำงาน เวลาจอดก็ต้องดึงปลั๊กออกไม่งั้นแบตหมดหม้อแน่ถ้าลืม 8) 8) 8)
-
รถต้นต้องตอนฝนตกแล้วมีธุระต้องไปไหนแบบด่วนครับ ดูซิว่าจะไปเปิดฝากระโปรงต่อพัดลมป๊ะ เลือกเอาระหว่างเปียกกับพัดลมไม่ทำงาน เวลาจอดก็ต้องดึงปลั๊กออกไม่งั้นแบตหมดหม้อแน่ถ้าลืม 8) 8) 8)
55 มันเกิดจากความมือบอน ครับ ล้างหม้อน้ำ ถอดออกมาแล้วตอนใส่ ดันทำสายไฟที่ หัวโตหลุด... ยังไม่ได้ ใส่กลับเลย... 8) 8) 8)
-
รถต้นต้องตอนฝนตกแล้วมีธุระต้องไปไหนแบบด่วนครับ ดูซิว่าจะไปเปิดฝากระโปรงต่อพัดลมป๊ะ เลือกเอาระหว่างเปียกกับพัดลมไม่ทำงาน เวลาจอดก็ต้องดึงปลั๊กออกไม่งั้นแบตหมดหม้อแน่ถ้าลืม 8) 8) 8)
55 มันเกิดจากความมือบอน ครับ ล้างหม้อน้ำ ถอดออกมาแล้วตอนใส่ ดันทำสายไฟที่ หัวโตหลุด... ยังไม่ได้ ใส่กลับเลย... 8) 8) 8)
K.ต้น ถอดสวิท์ หัวโต ออกมาล้าง คือเราล้างหม้อน้ำแบบง่ายๆ ถูกเปล่าครับ แล้วถอดหมุนซ้ายหรือขาวครับ ต้องถอดกันชนเปล่า งงๆ