OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
Opel in Talks => FAQ and Articles => Topic started by: kamolwat_t on 28 Dec 2009, 19:14
-
:)
หลังจากที่ ได้มีการจัดกิจกรรมเรียนขับรถในสนามพิระเซอร์กิตพัทยา...
ในช่วงเช้าก็ได้มีการพูดคุยกันบนโต๊ะอาหาร เรื่องที่อบรมและเรื่องเทคนิคการขับต่างๆครับ... ผมเลยเอามารวบรวมย้อนหลังสำหรับคนที่ สงัยแต่ไม่กล้าถาม หรือว่า อาจจะ ยัง งงๆ อยุ่ว่าผิดยังไงนะครับ เอาเป็นเรื่องๆไป พร้อมถ้าสงสัยจุดใดสามารถเอามาแชร์กันได้ครับ :)
เดี๋ยว ผมขอทำ ไฟล์ภาพประกอบสักครู่... :)
-
full Braking
เรื่องนี้ง่ายหน่ิอยเพราะว่าไม่ต้องใช้รูปประกอบ...
หากจำกันได้ ถ้าใครที่ได้เห็นนิชิฮาร่า ขับเป็นตัวอย่าง และ ที่แกอธิบาย... แกจะย้ำสิ่งที่ต้องทำคือ..
1. กดเบรคให้สุดแรงแต่ว่าไม่ให้ล้อล็อค
2. ถ้าล้อจะล๊อคให้ทำเท้าให้คล้าย ABS คือการกดเบรคถี่ๆ(ผมมีเทคนิคเดี๋ยวอธิบายให้ฟังครับ)
3. ถ้ารถมี abs ให้กดไห้เต็มเลย
มาว่ากันเรื่องแรกก่อนครับ..
หลายๆคนอาจจะนึกไม่ออกว่า อะไรคือกดให้เต็มแต่ล้อไม่ล๊อค แนะนำว่าอยากรู้ให้ลองครับ หาที่กว้างๆออกตัวเกียร์ 1 สักรอบ 4000 แล้วกดเบรคให้จมเลย... จะรู้ว่าอะไรคือล้อล็อค ฮะ แล้วจะรู้ว่ามันเลวร้ายแค่ไหนเพราะว่ามันเลี้ยวไม่ได้เลย พวงมะลัยมันจะขืนๆ ยังไงก็ชนแน่นอน... ก่อที่จะเขาสู่วิธีการ ผมจะบอกก่อนว่า ปัจจัยมีอะไรบ้าง..
1. ยางรถและหน้าสัมพัสยาง จำได้ไหมครับว่าที่ผมเคยบอกว่า ให้ใช้ยางดีๆ ถ้าคิดว่าเราขับรถเร็ว อย่าขี้เหนียว หลายๆคนที่มาลองในสนามน่าจะรู้จักรถตัวเองมากขึ้นครับ ว่าลิมิตมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่้าช่วงล่าเทพแค่ไหน ยางห่วยก็ไปไม่ได้เร็วครับ เพราะว่าถนนมันไม่ได้มีแต่ทางตรง... ถ้าเนี้อยางเราไม่ใช่ยางสมรรถนะสูง มันจะเกาะถนนสูงยางที่เขาออกแบบมาเฉพาะไม่ได้ครับ ยางเก่าๆ ก็ลื่นครับ ยางยี่ห้อห่วยๆไม่ต้องเก่าก็ลื่น กดเบรคปั้บ ยังไม่ทันไรเลยล้อล๊อคซะแล้ว... เพราะ่ว่า แทรคชั่นของยางมันไม่มีครับ แทรคชั่นของยางแปลง่ายๆคือค่าการเกาะถนนในสภาวะนั้นๆครับ(ผมแปลง่ายๆนะฮะให้เข้าใจ) โดยที่มันจะแปรผันตามพื้นถนนบริเวณนั้นๆอีกครับ...(อ่านข้อ 2 ต่อนะฮะ)
สมมุติว่า เราเหยียบเบรคก่อนเข้าโค้ง ใช้แทรคชั่นยางไป 50% แล้วเลี้ยวโค้ง ใช้แทรคชั่นยางไปอีก 30% เราจะยังเหลืออีก 20% ไว้แก้ตัวในกรณ๊ที่ เกิดเกตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่นถนนลื่น หมาตัดหน้า คนข้ามถนน อะไรแบบนั้นครับ แต่ถ้าเราขับมาเร็วเกินไป เบรคตัวโก่งเลยก่อนเข้าโค้ง ใช้แทรคชั่นไป 80% แล้ว ต้องเหลือเพื่อเลี้ยวอีก 30% แต่ว่า มันมีเหลือไม่พอ เลี้ยวยังไงก็ไม่เข้าครับ(จริงๆมีเทคนิคแก้แต่ว่ายาวแน่นอนเอาไว้เรียนกันคอสต่อไปนะฮะ) พอจะนึกภาพออกไหมครับ(หลายๆคนน่าจะเคยเป็น) จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจในพื้นฐานก่อนเพื่อ เรียนรู้สิ่งที่สูงขึ้นไปครับ แต่ละคนอาจจะมีความจำเป็นต้องใช้ไม่เท่ากัน แต่รู้ไว้ดีกว่าไม่รู้ครับ
2. พื้นถนน พื้นในสนามพีระ พื้นถนนคอนกรีด พื้นดินแดง มันมีค่าการยึดกเาะไม่เท่ากันครับ ยิ่งพื้นลื่น ก็ยิ่งทำให้ ล้อล็อคได้ง่ายขึ้น เพราะว่าเทรคชั่นมันน้อยนั่นเอง ในสนามเราซัดได้เต็มที่จริง แต่บนถนน ผมจะเผื่อไว้อีก 30-40 % เผื่อเจอน้ำ-ทราย-น้ำมัน บนถนนด้วยครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้บนถนนเมืองไทยครับ
3. คนและรถ ถ้า 2 อย่างไม่สมบุรณ์ มันก็เป็นปัญหาครับก่อนจะขับ ก่อนจะทำอะไรก็ตรวจสอบสภาพรถให้ดีก่อนนะครับ :)
สติ และการพักผ่อนรวมถึงการไม่ดื่ม จะทำให้การตัดสินใจเราดีขึ้นครับ
รถเราเองถ้าเรารู้ว่ามันมีอะไรแปลกๆไปก็อย่าทำอะไรเกินตัวครับ มันอาจจะพลาดได้ง่ายๆ นิชิฮาร่า ตอนที่ขับให้เราๆนั่งรอบหลังๆ พอรู้ว่า เบรคไม่ไหวแล้ว เขายังผ่อนๆยกๆครับ เพราะว่ารู้ว่ามันอันตราย...
รู้พื้นฐานของ เรื่องแรกไปแล้วนะครับ(นี่ขนาดพื้นฐานนะเนี้ย... :o
มาดูว่าเราจะทำยังไงไม่ให้ล้อล็อคนะครับ
คำถามแรกก่อนเลยคือ...เราจะรู้ได้ยังไงว่ามันจะล็อค :หึหึ:
ตอบคือ มันอยู่ที่การจับความรู้สึกครับ การใส่รองเท้าพื้นบางสำหรับขับรถจะทำให้ การส่งผ่านความรู้สึกจากแป้นเบรคมันชัดขึ้นครับ แต่ว่าไม่ต้องถอดรองเท้านะครับ มันมีความรู้สึกต่างๆ กลับมามากเกินไปจะงง ครับ(ผมก็เคยลองถอดรองเท้าขับ) จริงๆแล้วรองเท้าอะไรก็ใส่ขับรถได้ครับ แต่ว่าจะขับเพื่อเรียนรู้มันต้องใช้อุปกรณ์ให้ถูกต้องครับ (เหมือนจะวาดภาพสีน้ำแต่ว่า เอายางลบดินสอมาลบเวลาที่ระบายสีผิด มันก็ไม่ใช่เรื่อง) เอาเป็นว่าต้องลองจับความรู้สึกกนดูเองนะครับ แต่ละคนมีการตอบสนองของประสาทไม่เหมือนกัน เมื่อทำบ่อยๆจะรู้เองครับ
คำถามต่อไป เมื่อกดเบรคสุดแรงเกิดยังไงมันก็ต้องล็อค แล้วทำไงไม่ให้ล็อคล่ะ :เครียด:
ตอบคือ... ง่ายๆครับ ก็ถอนเบรคจิครับ รุ้ว่ากดแล้วล้อล็อคแล้วจะไปกดมันต่อทำไมล่ะ...(ดูคล้ายเป็นการเรียกร้องจุดยืนมาหาตัว) แต่จริงๆแล้วเมื่อเรารู้ว่ามันจะล็อค เราก็ยกเท้ามานิดนึงครับ แล้วก็ กดลงไปใหม่ เมื่อจะล๊อคอีกก็ยกอีก...พอทำเร็วๆมันก็จะคล้ายหลกการของ ABS นั้นเอง
ถามต่อว่า ทำยังไงให้มันขยับเร็วๆ
ตอบ...ผมจะให้ทำตามนี้นะครับ เอามา2 ข้างมาพนมมือ นะครับ แล้ว ให้แตะปลายนิ้วมือกัน ลองทำ ตามนะครับ... ห้ามขี้โกงแอบอ่านข้ามนะ >:(
1. พยายามใชมือข้างที่ถนัด ขยับเข้า-ออก คล้ายการตบมือเบาๆถี่ๆ...ให้เร็วที่สุด จำว่ามันเป็นยังไง...
2. ลองเปลี่ยนมาเอาอุ้งมือติดกันแ้ล้วขยับแต่ปลายมือ ให้เร็วที่สุด ลองดูว่ามันมีความรู้สึกและความเร็วต่างจากอย่างแรกยังไง...
3. เอาปลายนิ้วติดกัน แต่ขยับที่อุ้งมือแทน...ให้เร็วที่สุดเหมือนเดิม แล้วจำว่ามันเป็นอย่างไร....
โอเคนะครับ มาดูกันว่า ผมให้ลองทำอะไรลงไป...
มือข้างที่ถนัดเปรียบเหมือนเท้าที่เหยียบเบรคครับ...
อีกข้างคือแป้นเบรคครับ... คราวนี้รู้แล้วนะครับลองใหม่...
ลองสังเกตุดูครับ ว่าแขนข้างที่ไม่ถนัด(ของผมคือข้างซ้าย) เวลาที่ทำแบบทดสอบข้างต้นอีกรอบ แบบไหนที่ มีการขยับมากกว่ากันและเร็วกว่ากัน...
แบบแรก ถ้าเป็นเท้าของเรา เราจะต้องขบัยทั้งขาครับการที่ยิ่งขยับกล้ามเนื้อหลายๆส่วน พร้อมๆกันมันจะเกิดการคลาดเคลื่อนและทำงานช้าครับ ในกรณีที่ต้องทำซ้ำๆกันเร็วๆ(โอ้เอาวิชาที่เรียนมาใช้ก็งานเนี้ย :หึหึ:)
แบบที่ 2 คือการขยับแต่ปลายเท้าครับ แต่ว่าในความเป็นจริง กล้ามเนื้อของเราที่ปลายเท้ามันไม่ค่อยแข็งแรง พอที่จะควบคุมได้นานๆอย่างสมบูรณ์ครับ ยกเว้นว่าตีกลองชุดมาฮะอันนั้นม่ะนับ :o
แบบที่ 3 คือการทำแบบเดียวกับการสั่นขานั่นเอง คุ้นๆไหมครับ มันเป็นสิ่งที่หลายๆคนทำบ่อยๆเลยง่ายกว่า...
คราวนี้... ลุกจากโต๊ะคอมครับ ไปลองในรถเลยว่าัมันต่างกันแค่ไหน...... ผมจะรอ... :)
ส่วนคนที่ยังไม่ได้ลองที่รถ ก็ลองทำกับพื้นห้องเนี้ยครับ ถอดรองเท้าก็ได้จะได้รู้ชัดๆฮะ... ระหว่างรอคนที่เดินไปที่รถ อิอิอิ ;D ;D ;D
อันนี้เป็นเทคนิกนะครับ แต่ละคนอาจจะถนัดต่างกันออกไป ถนัดแบบไหนทำแบบนั้นฮะ ผมเอง ทำได้ 2-3 เร็วแต่ถนัดแบบ 3 มากกว่า
แล้วคนที่มี ABS ล่ะ ทำยังไง...
บังเอิญว่า รถเรา ABS จะทำงานต่อเมื่อล้อเริ่ม ล็อคตายเท่านั้นครับ มันเลยยังเหลือจังหวะให้ทำเทดนิดได้นิดนึง(ABS แท้ๆคือระบบนี้ครับ) แต่อยุ่ที่คน-ล้อ-ถนน ด้วยครับว่าไหวหรือเปล่า... ไม่เหมือนกับรถยี่ปุ่นหลายๆยี่ห้อที่ เอะอะอะไรมันก็ ABS ทำงานแล้วล้อยังไม่ทันล็อคเลย ลองไปหารถชาวบ้านลองก็ได้ครับ จะได้เปรียบเทียบ...
:) ยาวแฮะ... สงสัยตรงไหน มาแชร์กันนะครับ เรื่องแบบนี้เก็บไว้คนเดียวก็ไม่ได้ทำให้รวยขึ้นฮะ เอามาแชร์กันเผื่อจะทำให้คนที่ไม่รอดเพราะว่าไม่รู้ มีทางรอดได้เพราะว่ารู้แล้ว :) :) :)
-
Slalom & U turn
แฮะๆๆมาว่ากันต่อ ก่อนปีใหม่นะครับ....
มันจะแยกเป็น 2 ตัว ถ้าใครที่ได้ไปงานวันเกิดนะครับ...
โดยทักษะที่จำเป็นจะขึ้นอยู่กับการใช้เท้าและมือครับ...
ดูที่ Slalom ก่อน...
จังหวะที่ดีที่สุดคือความไหลลื่นที่สุดครับ จำไว้ฝังหัวก่อนเลยครับ...
PRO ท่านว่าเอาไว้ว่า การที่เราพยายามขับเร็วที่สุดไม่ได้หมายความว่าจะเร็วที่สุดเสมอไป
แปลความคือ แม้ว่าเราต้องการจะไปให้เร็วที่สุด ขยี้คันเร่ง แล้วเบรคแรงๆแล้วขยี้คันเร่งอีก มันจะยิ่งทำให้เสียเวลาครับ สิ่งที่ดีที่สุดคือความพอดีครับ ยิ่งอยากไปเร็วกลับยิ่งช้าลงครับ
มาดู กันนะครับ รูปอยู่ข้างล่างนี่แล้ว... คงจำกันได้ฮะว่าใครเข้ายังไงกันบ้าง..แฮะๆๆ :)
ง่ายมากครับ.. มีไม่กี่อย่างที่ต้องทำคือ...
รอบเครื่องต้องไม่ลากจนรอบตัดตลอดเวลา...(ผมเห็นบางคันนะครับ) ผมขับเกียร์ 2 เองครับ รอบกลางๆ
เท้าที่ใช้มี 2 จังหวะคือ เหยียบ(กดลงไปมากหน่อย) และยก(ถอนมานิดหน่อย) ไม่ใช้การ ถอน (ยกคันเร่งจนสุด) และ ขยี้ (กดคันเร่งจนมิด) นะครับ
มือจังหวะที่เข้าให้เข้าเริ่มจากความเร็วต่ำๆไปก่อน พอได้จังหวะให้เพิ่มความเร็ว... เทคนิคมีนิดเดียวครับ คือตอนคืนพวงมะลัยให้คืนช้า(ช้ากว่าเข้าไม่ใช่ว่าช้าโคตรๆนะครับ ถ้าใครนั่งรถผมผมจะทำให้ดูทุกคน) เพื่อให้เทรคชั่นของล้อหลือมากพอที่จะเอามาให้ล้อจับพื้น ตอนเร่งออกจากไพล่อน
มาดู U-turn กันต่อนะครับ
หลายๆคนคงลืมเรื่องง่ายๆไปครับ...
ร้อยละ90 เข้าแบบภาพ A ครับ
สังเกตุว่าหัวรถก่อนที่จะเข้า มันทิ่มออกนอกถนน(เพราะว่าขับอ้อมไปล่อนมา) การที่เราเข้าแบบนี้ วงเลี้ยวจะมีองศามากขึ้นครับ เลี้ยวแล้วโอกาศที่ล้อจะแถ (อันเดอร์) เลี้ยวไม่เข้าจะมีสูงกว่า (เห็นเกือบทุกคันเลย :) ) บางคันก็ลงไปกินหญ้า
วิธีเข้าที่ถูกคือ ภาพ B ครับ
ต้องเตรียมตัวก่อนเข้าชิดขาวเยอะๆตั้งลำให้ตรง
กดเบรคให้หนัก(กลับไปอ่านข้างบนนะฮะ) เพื่อลดความเร็วมาให้พอที่ยางเราจะรับได้
ห้ามเหยียบคลัช ระหว่างเข้าโค้งนะครับ จะทำให้รถเลี้ยวไม่เข้าเพราะว่าไม่มีแทรค์ชั่นในการดึงรถเข้าในโค้ง(สำคัญมาก)
คันเร่งเลี้ยงรอบไว้กลางๆรอบ เพื่อเตรียมกดเร่งส่งเมื่อใกล้จะหัวรถตั้งตรง
ภาพ C คือหลายๆคนที่ ขับ กดคันเร่งหนักไปครับ มันจะวงกว้าง ต้องยกนิดนึงไม่ก็ ถอนคันเร่งเลย เพื่อให้หน้าเข้ามาใหม่แล้วเติมคันเร่งลงไปเบาๆ ประคองไว้ :) (แต่รถคันในรูปมันออกไปทางดริฟเข้านะครับ อิอิ ฮันนี่ กับพี่ซิ้น ดริฟหรือเปล่าจ๊ะ... :-* )
อย่า
กระชากพวงมะลัย
กดคันเร่งมิด เพราะมันจะเสียอาการรถ
ลากจนรอบตัดตลอด นอกจากเปลืองเครื่อง แล้วยังแปลว่าเราไม่มีรอบเครื่องยนต์ให้ใช้เพื่อทำความเร็วเพิ่ม
เหยียบคลัช ขณะเข้าโค้งใดๆ
เหยียบเบรคในขณะเข้าโค้ง ใช้วิธีแตะเบาๆด้วยเท้าซ้าย ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าเหยียบดีกว่าครับ เพราะว่ามันแปลว่าเราถอนคันเร่งแล้วรถมันมีโอกาศเสียอาการสูง
อันนี้คือยังไม่หลุดนะครับ ถ้าหลุดแล้วทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองรอดและรถไม่พังฮะ... อยากรู้ว่าทำยังไง... รอลงสนามหน้าครับ... อิอิ ;D ;)
จง
ขับอย่างมีสติครับ (ง่ายม่ะ)
ทบทวนทักษะพื้นฐานก่อนขับและทำให้เป็นนิสัย
-
การขับทางโค้ง(การเข้าและออก) เเละศัพท์ ที่เกี่ยวข้อง
อันนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่า หัวข้อที่แล้วครับ...
เป็นสิ่งที่ทำให้รถที่เครื่องไม่แรงสามารถไปได้เร็วกว่า...
เป็นสิ่งที่แยกระหว่างนักขับรถ กับคนขับรถ...
เป็นสิ่งที่ทำให้ไปได้เร็วมากกว่าคนอื่น...
หลายๆคนอาจจะยังไม่มีพื้นฐานเรื่องภาษาเรียกนะครับ เอาเป็นว่า เข้าใจได้ตรงกันก่อนครับจะได้คุยกันรู้เรื่องในโอกาสต่อไป
ผมคงยังไม่พูดถึงเรื่องเทคนิคอะไรมากมายฮะ เอาแค่ให้เข้าใจตรงกันก่อน...
ดูตามรูปนะครับ ในสนามเราจะสังเกตุเห็น บริเวณโค้งมันจะมี ขอบทางสีขาวแดงสลับกัน อันนั้นคือ เคิบ ครับ (บางคนก็เรียกว่าแบงค์แต่ถือเอาความเข้าใจในบ้านเราว่ามันคืออันเดียวกันนะครับ) โดยปรกติจะมี 2 แบบ คือแบบที่ปีนได้ และไม่ควรปีน โดยอยู่ที่ว่า บริเวญนั้น อันตรายแค่ไหน เขาต้องการให้เราลดความเร็วลงมามากหรือไม่ ยิ่งสนามเฉพาะกิจแบบ บางแสนยิ่งจะเจอ แบบที่ปีนไม่ได้เยอะเลยครับ ปีนทีนึงล้อลอยเลย... แต่ในสนามแข่งจริงๆ ส่วนมากจะปีนได้ครับ
อีกอันคือ เอเปคของโค้งครับ...
โปรท่านกล่าวไว้ว่า เอเปคของรถแต่ละคันแะคนแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน อยู่ที่การเซ็ทรถคันนั้นๆและวิธีการขับของคนๆครับ
ในรูปผมให้เห็นว่า มันเข้าคนละลายกัน จึงทำให้มีเอเปคคนละจุดกัน แต่ว่ามันก็ออกโค้งได้เช่นเดียวกัน ยิ่งตอนแข่ง รถเยอะๆ จะหวังเข้า เต็มลายแบบ ขับคนเดียวเป็นไปไม่ได้เลยครับ แต่ว่าถ้าเป็นการขับ Time Attack นั้น ลายของรถประเภทเดียวกันจะค่อนข้างคล้ายกันมากๆครับ เพราะว่ามันคือลายที่ไปได้เร็วที่สุดของสนาม
โอเคนะครับมา ปูพื้นฐานความเข้าใจ เรื่องการเข้าโค้งกันต่อครับ
การเข้าโค้ังนั้นมีลำดับขั้นตอนตามนี้ครับ
ลดความเร็วลงมาให้พอดี-เลี้ยวเข้าเอเปคอย่างนิ่มนวลพร้อมประคองอาการและกรอคันเร่ง-ออกจากยอดเอเปคคือพวงมะลัยและเร่งส่ง-เตรียมเข้าลายขับที่ถูกต้องเพื่อเข้าโค้งต่อไป
อันนี้คือเบสิกนะครับ แต่ว่าระดับความสามารถของนักขับแต่ละคน จะโดนแบ่งชั้นจากการควบคุมนี่แหละครับ
มาดูข้อแรกก่อนเลย...
การลดความเร็ว...
จริงๆแล้วต้องสารภาพครับ ว่าผมเองเป็นคนที่ลืมเบสิกพื้นฐานได้เก่งพอตัวครับ... ออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ใช่โปร ไม่ใช่ผู้มีความรู้ในระดับที่จะตั้งตัวเป็น อ. สอนใครได้ เพียงแต่ว่า มีประสพการณ์และสามารถแปลความหมายเทคนิคต่างๆ ให้คนทั่วไปสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ ทุกอย่างที่ผมเอามาอธิบาย เขามีสอนกันอยู่แล้วครับผมเอาความรู้ตรงนั้นมาอธิบายต่อ อีกทีในภาษาที่คิดว่าน่าจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ
สิ่งที่ต้องบอกไว้ก่อนนะครับผมเชื่อว่าหลายๆคน ต้องเข้าใจผิดมาก่อนแบบผมเช่นเดียวกัน
อ. ศิริบูรณ์ เคยกล่าวเอาไว้ว่า การลดความเร็วของรถมีเพียงอย่างเดียว คือการใช้เบรค
อ่านกันยาวหน่อยนะครับเรื่องนี้...
การเหยียบเบรคเป็นการสร้างแรงม้าเนกาตีฟครับ
ยกตัวอย่าง รถเราๆ corsa เทพโมเต็ม 150 ม้าที่ล้อ ออกตัว 0-100 กม/ชม ใช้เวลา 10 วินาที รถบ้านๆน่าจะมีสัก 15-19 วินาทีนะครับ... ระยะทางวิ่งผมเดาๆว่าน่าจะมีสัก 2-300 เมตร
รถ corsa บ้านๆ กดเบรคเต็มๆ ทำให้รถหยุด จาก 100-0 กม/ชม ใช้เวลา5-6 วินาที แต่ระยะทาง 60 เมตร (ถ้าเบรค+ยางดีๆได้ต่ำกว่านี้ครับ)
เวลาที่ใช้และระยะทางมันต่างกันเยอะมาก เพราะว่า แรงม้าเนคกาตีฟ ที่เบรคล้อของเรา มีมากกว่า 300ตัวครับ มันเป็นการสร้างแรงม้าในทางตรงกันข้าม กับการเคลื่อนที่จึงถือว่ามีค่าเป็นลบ นะครับ
แล้วผมมาบอกทำไมเรื่องมันไม่จำเป็นต้องรู้ขับรถได้ทุกๆวันอยู่แล้ว... :มั้ง:
มันมาเกี่ยวข้องกันตรงคำว่า เอนจิ้นเบรคครับ
สิ่งที่หลายๆคนเข้าใจคือเวลาจะลดความเร็ว ต้องเปลี่ยนเกียร์ลงมา เพื่อฉุดเครื่องให้ความเร็วลดลง โดย ยิ่งใครขับโดยไม่แตะเบรคเลย แปลว่ามันผู้นั้น เมพขิงๆ :ปลิว: :D :ปลิว:
แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ครับ :o ไม่อย่างนั้นเขาจะสร้างเบรคมาเป็น อุปกรณ์พื้นฐานของรถทุกคันทำไม... :P ทำไมไม่ให้เลือกเป็นออฟชั่น :ไถ:
ใครว่างๆลองดูนะครับแบบทดสอบว่าผมมั่วหรือเปล่า...ลองดูครับ ขับ 100 นึงรถว่างๆดึกๆ แล้ว ค่อยๆเปลี่ยนเกียร์ลงมาจาก 5-4-3-2-1 แล้วจับเวลาดูครับว่า เมื่อไหรมันจะหยุดและใช้ระยะทางเท่าไรฮะ
นอกจากเกียร์พังเครื่องพัง อาจจะมีคนพังรถชาวบ้านพัง ด้วยครับ
ลองมาดูหลักการและเหตุผลนะครับ
การที่ เปลี่ยนเกียร์ลงมาเรื่อยๆนั้นทำให้ความเร็วของรถลดลง เกิดจากการที่ เครื่องยนต์เกิดการเสียดสีในระบบและทางเดินอากาศปิด ทำให้การจุดระเบิดน้อยลง (ก็ถอนคันเร่งนินาเด็กเล่นเกมกดยังรู้เลยว่าไม่กดคันเร่งรถก็ไม่ไป) ซึ่งตีค่าแรงม้าเนคกาตีฟออกมาตามแรงเสียดทานที่เกิดขึ้น น่าจะสักประมาณ 2-30 ตัว (ผมจำไม่ได้ฮะแต่เคยได้ยิน) แล้วเมื่อไรรถมันจะหยุดอ่ะครับ ที่แน่ๆคนนั่งหัวทิ่มแน่นอนตอนลดเกียร์ลงมาดื้อๆ
พอจะนึกตามออกไหมครับ ยิ่งถ้าเราขับลากรอบอยู่ 6000รอบ แล้วจะเบรคโดยการเปลี่ยนเกียร์ลงมา รอบมันกระชากทะลุไป 7000 แน่ๆ ไม่เครื่องก็เกียร์อ่ะครับที่กลับเยอร์มัน เหอๆๆ
แล้วทำไมเขาลดเกียร์ลงเวลาเข้าโค้ง... เหตุผลเดียวคือเพื่อ เตรียมรอบเครื่องให้อยู่ในช่วง แรงบิดสูงสุดเพื่อเร่งออกจากโค้ง ครับ อ่า... งง ป่าวเอ่ย... ลองดูง่ายๆฮะ ขับรถปรกติเลี้ยว เข้าปากซอยบ้าน สมมุติว่า ขับมา 80 พอจะเลี้ยวเราจะลดเกียร์ลงมาสักเกียร์ 3-2 เพื่อ ขับในซอยใช่ไหมครับ (มันทำไปโดยอัตโนมัติไปอยู่แล้ว) คราวนี้ลอง ไม่ต้องลดเกียร์ ดูครับแล้วจะรู้ว่า มันเร่งไม่ขึ้นเป็นยังไง ;D
ผมเองก็ลืมไปเหมือนกันครับ มาจำได้อีกที ตอนที่ พี่ตั๋ง(โปรที่มาอบรม) บอกว่าผมลดเกียร์เร็วไป ให้ปรับจังหวะลดเกียร์ช้ากว่านี้อีกหน่อยผมจึงจำความได้ :shock: แล้วยิ่ง ได้นั่งรถของนิชิฮาร่า ในสนามยิ่ง รู้เลยว่า เขาเบรคก่อนแล้วค่อยลดเกียร์ลงมาเพื่อเร่งออกจากโค้ง แต่ว่าทุกอย่างทำเร็วมากจะมองไม่ค่อยทัน
ฉะนั้น คนที่ไม่เชื่อของให้ลองดูครับ คนที่เชื่อผมก็ขอให้ลองดูครับ แต่ว่าหาลานโล่งๆ ถนนโล่งๆหน่อยนะครับมันอันตรายฮะ :ตาปิ้ง:
เราจะได้ปุพื้นฐานที่ถูกต้องในการขับรถกันนะครับ ตรงตาม เหตุผลที่พวกเราทีมงานได้จัดการอบรมนี้ขึ้นมาครับ :)
ลองปรับเปลี่ยนวิธีการขับกันดูนะครับเพื่อความปลอดภัยฮะ...
มาเรื่องการเลี้ยวกันบ้าง...(หัวข้อแรกล่อซะยาวโคตรๆเลย :shock: )
เวลาที่เลี้ยว ให้มองก่อนครับว่าโค้งนั้นๆ ทางออกโค้งเป็นอย่างไร แล้วใช้ พท. ให้เต็ม (ในสนามขับคนเดียว) แต่ถ้าเป็นบนถนน ก็ให้ ดูชาวบ้านดีๆนะครับ เดี๋ยวซัดกันกลางถนนซะก่อนแฮะๆๆ :จุก:
เวลาเข้าให้ค่อยๆเข้าครับ ถ้าไม่เคยขับเส้นทางนี้ให้เข้าเป็นกลางไว้ก่อน แต่ถ้าจำได้ว่า เอเปคอยู่ตรงไหนก็ยัดเข้าไปเลยครับ ระวังน้ำ-น้ำมัน-ทราย ด้วยนะครับ แล้วค่อยๆบานออกพร้อมกดคันเร่งเพิ่ม พร้อมกับเตรียมตัวนำรถเข้าสู่โค้งต่อไป...
แฮะๆๆ สั้นซะจนน่ากลัวว่ามันทำไมไม่มีอะไรเลย... คือว่า ผมเองก็ต้องให้ลองนั้งรถที่ผมขับแล้วทำให้ดูครับ เพื่อเปรียบเทียบ... หลายๆคนที่ได้นั่งรถผมในสนามที่ผมขับให้นั่ง 3-4 รอบเพื่อดูอาการรถแบบต่างๆน่าจะพอเข้าใจบ้างฮะ ไว้มีโอกาสหน้า ผมจะให้ลองนั่งกันอีกนะครับอธิบายง่ายกว่าเมื่อมันเห็นของจริงครับ ใช้เวลา คนละ 5 นาทีเอง อิอิ ถ้าไม่อ๊วกซะก่อน.. 8) 8) 8)
ออมีแีกเรื่องฝากไว้ครับว่า...
ไม่ควรเหยียบคลัชแช่ไว้หรือปล่อยเกียร์ว่างขณะเข้าโค้งนะครับ เพราะว่า รถจะสูญเสียความสามารถในการยึดเกาะถนน ครับแรงจากเครื่องมันจะไม่ไปปั่นล้อเพื่อเลี้ยวเข้าโค้ง... จะรู้สึกว่ารถลอยๆฮะ... :)
สงสัยอะไรถามมาได้ฮะ จะได้ช่วยกัน อธิบายครับ :)
-
การใช้คันเร่งและเบรคในการขับแบบต่างๆ(เอาแบบที่ใช้ในชีวิตประจำวันก็พอเนาะครับ)
-
นั่งรออ่านต่อด้วยความตั้งใจ (จริงๆนะ) ขาวยาวๆครับ :D
-
ว๊าว!! ปูเสื่อรอชมด้วยคน
เสียดายมากๆ ที่วันนั้นป่วย เลยไม่ได้ไป
ขอบคุณคับ
-
ต้นแก สเป็คสีหัวข้อด้วยสี เขาจะได้อ่านกันเป็นหัวข้อๆ ได้ง่ายๆ
-
นั่งรออ่านต่อด้วยความตั้งใจ (จริงๆนะ) ขาวยาวๆครับ :D
หมายถึงขาวสูงป่ะคับ นี่เค้ากระทู้เทคนิคการขับนะครับไม่ใช่การขี่ ;D ;D ;D
-
นั่งรออ่านต่อด้วยความตั้งใจ (จริงๆนะ) ขาวยาวๆครับ :D
หมายถึงขาวสูงป่ะคับ นี่เค้ากระทู้เทคนิคการขับนะครับไม่ใช่การขี่ ;D ;D ;D
กำ........พิมพ์ผิด :-X
-
อัพเดทแย้วนะครับพี่น้อง... ;)
-
มีคลิิฟมาให้ดูฮะ....
http://www.youtube.com/watch?v=Q3hrpkHoyrM
ดูที่มุมขวาล่างนะครับ...
สีเขียวคือ นน.คันเร่ง
สีแดงคือ นน.เบรค ครับ...
รอบแรกให้ดูผ่านๆให้จบก่อนนะครับ...
รอบที่ 2 ให้ลองสังเกตุดูจังหวะการลดเกียร์ และความเร็วก่อนเข้าโค้งครับ... จะเห็นว่า.. เขาเหยียบเบรคก่อนเสมอ ครับ (มีทิวแอนด์โทเป็นระยะๆเวลาลดเกียร์เร็วๆ)
:please: เมพขิงๆ :ตาปิ้ง: :please:
-
:-* :D ได้ความรู้ดีมากเลยครับ ขอบคุณครับ
-
สงสัยอ่ะ ปรกติเวลาเราทำฮีลแอนด์โทเนี่ยหลังจากทำแล้วเราจำเป็นต้องเบรคอีกเหรอ :มั้ง:
-
สงสัยอ่ะ ปรกติเวลาเราทำฮีลแอนด์โทเนี่ยหลังจากทำแล้วเราจำเป็นต้องเบรคอีกเหรอ :มั้ง:
มันเบรคมาก่อนแล้วครับ แล้วถ้าความเร็วที่จะเข้าโค้งเราคิดว่าสูงไป.. ก็ให้กดต่ออีกนิดก่อนเลี้ยวครับ พอเลี้ยวให้ใช้วิธีกรอคันเร่งแต่งอาการไปเรื่อยๆฮะ :)
-
ไม่มีเทคนิคสำหรับเกียร์ออโต้บ้างเหรอ มีแต่เบรคกับเลี้ยงคันเร่งแล้วกดให้สุดเมื่อออกโค้ง
-
ไม่มีเทคนิคสำหรับเกียร์ออโต้บ้างเหรอ มีแต่เบรคกับเลี้ยงคันเร่งแล้วกดให้สุดเมื่อออกโค้ง
กดเกียร์ช่วยครับ แต่งเบรคดีๆครับ แล้วก็แต่งคันเร่งเข้า ห้ามกดเต็มนะครับ เลี้ยงๆเอา...
เมื่อก่อน มีช่วงนึง วีออสคลับเดย์ มีคนเอารถเกียร์ออโต้ วิ่งชนะเกียรธรรมดานะครับ...
ตอนนี้ก็ยังมีอยู่คันนึงครับ วิ่งสนามแต่เกียร์ออโต้ แรงมาก... ;D :D
-
เอาของต้นมาแก้ไขใหม่นะครับ
http://www.youtube.com/watch/v/Q3hrpkHoyrM&hl=en&fs=1
อันนี้เอามาเสริมให้อีกนิดครับ
http://www.youtube.com/watch/v/pLRZp5sT3AA&hl=en&fs=1
-
:เครียด:
http://www.youtube.com/watch?v=Cwvlr37vSzM
ทำไม่เป็นอ่ะ... :ไม่:
เอาเป็นว่าฝากแก้ด้วยฮะ...
อันนี้เปรียบเทียบดูนะครับ รถ NA (ไม่มีเทอร์โบ) และรถเทอร์โบ วิธีในการแต่งรถเข้าโค้งต่างกันมากครับ... RX 7 กดนิดนึงตูดออกๆ S2000 วิ่งเนียนเลย...
-
อันนี้เอามาเสริมให้อีกนิดครับ
http://www.youtube.com/watch/v/pLRZp5sT3AA&hl=en&fs=1
หมุนพวงมาลัยเร็วโคตร
-
มาแก้ไขให้ต้นนะ คลิปนี้เคยดูนานแล้วอ่ะ ตอนนั้นใน AG น๊อตจะเอาเครื่องโรตารีมาติดแก๊สอ่ะ ;D ;D ;D เล่นเอาพี่บอยเครียดเลย
http://www.youtube.com/watch/v/Cwvlr37vSzM&hl=en&fs=1
-
เออ ใช่ๆ เห็นใน AG นี่เอง... :)
-
อันนี้การวิ่งในเซอร์กิตการใช้ฮีลแอนด์โทมาช่วยช่วงเข้าโค้ง
http://www.youtube.com/watch/v/20WYwKzscp4&hl=en&fs=1
อันนี้การดูการใช้เบรคมือ แล้วแต่งคันเร่ง บางอย่างมันมีประโยชน์ช่วยเราได้ยามคับขัน แต่ไอ้ทำเท่ห์ๆโชว์สาว เห็นมิดมาเยอะแล้วอ่ะ :red: :red:
http://www.youtube.com/watch/v/UyG0mWtcp6Y&hl=en&fs=1
อันนี้ไปเอาลองชมครับ แต่อย่าไปหัดทำในที่สาธารณะนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมจะสมน้ำหน้าก่อน ถ้าจะหัดขอเป็นพื้นที่โล่งส่วนตัวครับ >:( >:(
http://www.youtube.com/watch/v/xD8__J88LnI&hl=en&fs=1
-
;D ;D ;D
มีสติและทักษะถูกต้องนะครับ....ทุกๆทั่น :)
-
ดีครับได้ความรู้เยอะเลย ;) ต้องแปลง corsa เป็นขับหลังซะแล้ว อิ อิ 8) 8) 8) 8)
-
ดีครับได้ความรู้เยอะเลย ;) ต้องแปลง corsa เป็นขับหลังซะแล้ว อิ อิ 8) 8) 8) 8)
ขับ 4 พี่ แหร่ม ออกกระโดด