OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
Opel in Talks => FAQ and Articles => Topic started by: pung on 30 Dec 2009, 18:23
-
omega เวลาเลี้ยว ทั้ง ซ้าย และ ขวา จะมีเสียง เอี้ยด ๆ เสียงเหมือนเหล็กสีกัน น่าจะเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง หมุนพวงมาลัย ตอนจอด ไม่มีเสียง
-
น่าจะเป็นเสียงช่วงล่างร้องเรียกกระมัง
-
นม.พาวเวอร์ปรกติดีมั้ย? ถ้ายังอยู่ดี ก็น่าจะมีอะไรผิดปรกติที่คันส่งหรือลูกหมาก..
-
นม.พาวเวอร์ปรกติดีมั้ย? ถ้ายังอยู่ดี ก็น่าจะมีอะไรผิดปรกติที่คันส่งหรือลูกหมาก..
เพิ่มเติม น้ำมันพาวเวอร์ พึ่งเปลี่ยนใหม่ เปลี่ยนกล้องยา คันส่งกลางมาแล้ว ครับ
-
งั้นเวลาเลี้ยวก็ไม่ได้รู้สึกหนัก หรือเบาผิดปรกติใช่มั้ยครับ..?
เพราะปรกติดี แล้วเสียงมาจากไหน? :มั้ง: :มั้ง:
-
งั้นเวลาเลี้ยวก็ไม่ได้รู้สึกหนัก หรือเบาผิดปรกติใช่มั้ยครับ..?
เพราะปรกติดี แล้วเสียงมาจากไหน? :มั้ง: :มั้ง:
ก็ งง อยู่เหมือนกัน บางครั้งเวลาเลี้ยวก็ไม่ดัง แต่ส่วนใหญ่จะดังมากกว่าไม่ดัง ไม่รู้จะเกี่ยวกับ เหล็กเส้น ที่ค้ำระหว่างเบ้าโช๊ค หรือปล่าว เห็นยางกันฝุ่น เริ่มขาด แต่ลองเอามือขยัยดู ก็ไม่โยก
-
ชี้จุดมาอย่างนี้ก็น่าจะเป็น ยางเบ้าโช๊คอ๊ะครับ
-
ชี้จุดมาอย่างนี้ก็น่าจะเป็น ยางเบ้าโช๊คอ๊ะครับ
ครับ เดียวค่อยลองถอดดู
-
น่า จะเป็นเหล็ก กัน โครง หรึเปล่าครับ
-
รถผมก็เป็นครับ โอเมก้า เอ แวน ครับ จะมีเสียงเวลาวิ่งไปแล้วสักพัก มี Kenny แนะนำว่า อาจจะเป็นที่ลูกปืนที่อยู่ในยางเบ้าโช๊คครับ แต่ผมยังไม่ได้เช็คดู
เดี๋ยวช่วงกลางเดือนจะเอาเข้าอู่เช็คช่วงล่างดูครับ
-
สาเหตุที่เลี้ยวแล้วมีเสียงดังบ้าง ไม่ดังบ้าง อาจจะมาจากกล้องยา เพราะกล้องยาที่พึ่งเปลี่ยนไป ไม่ถึงเดือน เปลี่ยนที่กระบี่ โดยเปลี่ยนเฉพะบูทตัวใน (ราคา 600 บาท) ด้วยความปราถดีของช่าง ไม่อยากให้จ่ายเงินเยอะ :) ซึ่งบูทตัวใน มีขนาดเล็กกว่า แกนของกล้องยา เลยส่งโรงกลึง ให้กลึงให้แน่น
ที่ตั้งข้อสงเกตุนี้ได้เพราะ วันนี้ วันเด็ก จึงขับรถจากกระบี่ ไปเที่ยวภูเก็ต พาลูกไปเที่ยว เลยถือโอกาส เข้าศูนย์ Chevrolet ภูเก็ตสาขาในเมือง (ศูนย์โอเปิ้ล เก่า) พอไปถึง เลิกกิจการแล้ว 555 เลยไปศูนย์ Chevrolet ถนนบายพาส ให้เปลี่ยนกรองเบ็นซิล และเช็กช่วงล่าง พบว่ากล้องยาเริ่มหลวม ขยับได้นิดหน่อย และที่ศูนย์ไม่อะไหล่ ต้องสั่ง 4600 บาท ก้อเลยได้เปลี่ยนเฉพาะ กรองเบ็นซิลอย่างเดียว เลยขับไปหาโกเตี้ย (หัวหน้าช่าง ศูนย์ Chevrolet ภูเก็ตสาขาในเมือง ศูนย์โอเปิ้ล เก่า) ตอนนี้มาเปิดอู่เอง ให้สั่งกล้องยาให้ แล้ววันเสาร์ ที่ 16 ม.ค. 53 จะไปเปลี่ยน เพราะเบื่อศูนย์เหลือเกิน ไปถึง 12.50 น. ได้ออกจากศูนย์ 14.45 น. 555
-
เสียงยังไม่หาย เลย ดังเป็นบางครั้ง ช่วงล่างหน้าเปลี่ยนใหม่เกือบหมดแล้ว ที่ยังไม่เปลี่ยน คือ คันชักคันส่ง ข้างซ้าย และขวา และยางรองเบ้าโช๊ค
ถ้าตัวปั่นพาวเวอร์เสีย จะมีอาการแบบไหนบ้าง
แล้วถ้าลูกปืนล้อ เสีย จะมีเสียงหรือปล่าว
-
พาวเวอร์เสีย เลี้ยวที พวงมาลัยหนักอ่าาา
ลูกปืนล้อเสีย เวลาเลี้ยงเสียงดังรำคาญหูน่าดู เหมือนๆกับ เพลาสึก..
-
พาวเวอร์เสีย เลี้ยวที พวงมาลัยหนักอ่าาา
ลูกปืนล้อเสีย เวลาเลี้ยงเสียงดังรำคาญหูน่าดู เหมือนๆกับ เพลาสึก..
ขอบคุณครับ แล้ววิธีตรวจสอบว่าลูกปืนล้อเสีย ทำอย่างงัย และสังเกตุอย่างไร
-
พาวเวอร์เสีย เลี้ยวที พวงมาลัยหนักอ่าาา
ลูกปืนล้อเสีย เวลาเลี้ยงเสียงดังรำคาญหูน่าดู เหมือนๆกับ เพลาสึก..
ขอบคุณครับ แล้ววิธีตรวจสอบว่าลูกปืนล้อเสีย ทำอย่างงัย และสังเกตุอย่างไร
มันจะมีเสียงดัง วองๆๆๆ เวลารถวิ่งครับ.... :)
-
พาวเวอร์เสีย เลี้ยวที พวงมาลัยหนักอ่าาา
ลูกปืนล้อเสีย เวลาเลี้ยงเสียงดังรำคาญหูน่าดู เหมือนๆกับ เพลาสึก..
ขอบคุณครับ แล้ววิธีตรวจสอบว่าลูกปืนล้อเสีย ทำอย่างรัย และสังเกตุอย่าง (แบบที่ยังไม่ถอดออกดู)
-
ก็เวลาเลี้ยวแระ เสียงจะดังแกร็กกก ๆ ๆ ๆ
ส่วนหัวเพลาสึก เวลาออกตัว กับเวลาเลี้ยว มันก็จะดังแกร๊กกกก ๆ ๆ ๆ แต่วิ่งเร็วๆไม่เป็นไร
-
แล้ววิธีตรวจสอบว่าลูกปืนล้อเสีย ทำอย่างรัย และสังเกตุอย่าง (แบบที่ยังไม่ถอดออกดู)
ขึ้นแม่แรง ให้ล้อลอย โยก ขวา-ซ้าย บน-ล่าง
ถ้าหลวมคลอนทั้งสองทิศทาง ฟันธง ลูกปืนล้อ และ อาจมีคันส่งแถมมาด้วย
แต่ถ้าหลวมคลอนแค่ ขวา-ซ้าย บูสคันส่ง
ตามนั้นครับ :)
-
แล้ววิธีตรวจสอบว่าลูกปืนล้อเสีย ทำอย่างรัย และสังเกตุอย่าง (แบบที่ยังไม่ถอดออกดู)
ขึ้นแม่แรง ให้ล้อลอย โยก ขวา-ซ้าย บน-ล่าง
ถ้าหลวมคลอนทั้งสองทิศทาง ฟันธง ลูกปืนล้อ และ อาจมีคันส่งแถมมาด้วย
แต่ถ้าหลวมคลอนแค่ ขวา-ซ้าย บูสคันส่ง
ตามนั้นครับ :)
ถ้าตามที่พี่หนานว่า ทุกอย่างปกติดี แน่นปึก
-
เมื่อตอนเย็นลองขึ้นแม่แรงตรวจดู ล้อยังแน่นปึก ดูยางรองเบ้าโช๊ค สภาพยังดี ไม่ฉีกขาด
จำเลยตัวสุดท้ายน่าจะเป็นตัวปั่นพาวเวอร์ หรือปล่าวเนี้ย และจะดังตอนเลี้ยวขวามากที่สุด พวงมาลัยตรง ๆ หรือ เลี้ยวซ้าย ดังนิดหน่อย
แต่ตอนจอดอยู่กับที่ หมุนพวงมาลัย กับไม่ดัง งง ???
ภาพยางรองเป้าโช๊ค แต่ไม่รู้ยี่ห้ออะไร
-
ตามมาดู เพราะผมก้อเป็นครับ
-
แล้วมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่มีการกลึงแกนบูชกล้องยา
เพราะ
ครั้งที่ 1 เอาแกนบูชกล้องยา ไปเชื่อมพอก แล้วกลึงให้ขนาด เท่ากับบูชกล้องยาเทียบ
ครั้งที่ 2 ได้บูชกล้องยา ของแท้มา ต้องเอาแกนที่สวมบูชกล้องยา ไปกลึงออก
มันจึงเกินการเสียดสี หรือปล่าว (คิดไปเอง)
เพราะตอนได้รถมาใหม่ ๆ ถึงบูชกล้องยามันเสีย แต่ก็ไม่ดังขนาดนี้
-
เมื่อตอนเย็นลองขึ้นแม่แรงตรวจดู ล้อยังแน่นปึก ดูยางรองเบ้าโช๊ค สภาพยังดี ไม่ฉีกขาด
จำเลยตัวสุดท้ายน่าจะเป็นตัวปั่นพาวเวอร์ หรือปล่าวเนี้ย และจะดังตอนเลี้ยวขวามากที่สุด พวงมาลัยตรง ๆ หรือ เลี้ยวซ้าย ดังนิดหน่อย
แต่ตอนจอดอยู่กับที่ หมุนพวงมาลัย กับไม่ดัง งง ???
ภาพยางรองเป้าโช๊ค แต่ไม่รู้ยี่ห้ออะไร
อ่าาาา :มั้ง: ในความคิดของผมอะนะ ตอนจอดเครื่องมันมีโหลดน้อย แต่ตอนวิ่งอ่ะโหลดมันเยอะ
ตัวที่ดังก้อคือ สายพานตัวนอกครับ.... :) ลองหาโซเนคฯมาฉีดดูครับ ... :)
-
ครับ เดียวพรุ่งเช้าลองฉีดดู ก่อนวิ่งไปอู่ เช็คอีกรอบ (สายพานก้อพึ่งเปลี่ยนไม่นาน)
-
ครับ เดียวพรุ่งเช้าลองฉีดดู ก่อนวิ่งไปอู่ เช็คอีกรอบ (สายพานก้อพึ่งเปลี่ยนไม่นาน)
ผมเคยเปลี่ยนนะพี่ ของ มิตซูโบชิ ต้องมีรันอิน สักระยะหนึ่ง ถึงจะเงียบครับ... :)
แต่ผมก้อยังสงสัยเจ้าสายพานหน้าเครื่องอยู่ดี.... :สำนึก:
-
พี่ฮะ... ลองดูที่ท่อไอเสียครับ ว่ามัน ไปเคาะโดนตัวถังหรือเปล่า... รถผมเคยเป็น หาตั้งนาน... :เครียด:
-
ขอบคุณครับ เดียวพรุ่งนี้จะมารายงานใหม่ ต้องหาสาเหตุให้ได้ ท่อไอเสียเดินใหม่ทั้งเส้น พร้อมหม้อพัก 2 ใบ ทำที่ กทม. หลังจากรับรถมาจากเจ้าของเดิม
-
เอ้ากำ ไมมาผิดที่ได้ล่ะเนีี่ย :omg:
-
ไปอู่มา เริ่มลงมือ ตั้งแต่เวลา 9.00 เสณ้จเกือบ 19.30 น. เหนื่อยทั้งช่างทั้งเจ้าของ
เริ่มแรกพาช่างนั่งไปด้วย เพื่อฟังเสียง วิ่งทางตรง ถ้ากระเทือน ได้ยินเสียงนิดหน่อย ถ้าเสียวขวาจะดังมาก กับถึงอู่ เอารถขึ้นลิฟท์
1. เห็นเหล็กกันความร้อน กล้องยา เป็นรอยเสียดสี กับท้องไอเสีย คิดว่าน่าใช่ ถอนมาปรับมุมใหม่ แล้วไปลองวิ่งใหม่ ยังไม่หาย
2. กลับมาขึ้นลิฟท์ ติดเครื่อง เข้าเกียร์ หมุนพวงมาลัย เช็คช่างล่างต่าง เสียงเงียบดี
3. ถอนเหล็กกันความร้อนกล้องยาออก เอาไปวิ่งใหม่ ก็ยังดังอีก เลยใส่กับไปตำแหน่งเดิม
4. เริ่มถอด เหล็กกันความร้อน ระบบ ABS เอาไปวิ่ง ก็ยังดังอีก
5. ถอด เหล็กกันความร้อน ท่อเฮดเดอร์ เอาไปวิ่ง ก็ยังดังอีก ความนี้เอางัยดีหว่า เริ่มท้อทั้งทั้งช่าง และเจ้าของ
6. ถอดสายพานตัวปั่นพาวเวอร์ เอาไปวิ่ง ก็ยังดังอีก
7. เมื่อเห็นว่าทุกอย่างปกติกลับมาประกอบกับเข้าที่เดิม พร้อมกับความมึน ???
8. นั่งอยู่สักพัก ไม่รู้ช่างนึกยังงัย ไปรื้อลิ้นชักเก็บของออก แล้วไปลองวิ่ง โอ้แม่เจ้า
ที่มาของเสียง คือ บริเวณตัวพัดลมแอร์ ช่างเลยคิดว่าอาจมีขยะ เข้าไปอยู่ จัดการรื้อออก เริ่มผิดหวัง เนื่องจากไม่มีขยะอยู่เลย มีแต่คราบฝุ่นเล็กน้อย เนื่องมาจากเจ้าของเดิม คงให้ช่างเอากระดาษแข็ง ไปปิดบริเวณลิ้นอากาศภายนอกเข้าในรถ แต่เมื่อมาแล้วก้อลองเป่าฝุ่นออก และฉีดโซแน็ค ไปที่ท้ายตัวมอร์เตอร์ ประกอบกับ แต่ยังไม่ใส่ลิ้นชัก ลองวิ่ง ไม่น่าเชื่อ ว่าไม่มีเสียงดังแล้วโว้ย :D
กลับมาประกอบตามเดิม คิดค่าแรง 400 บาท ทิปให้ 500 ในความพยาม
-
;)
กว่าจะจบ.... :เครียด:
ยินดีด้วยครับ ;)
-
บางสิ่งบางอยากเกิความความคาดหมาย เหมือนกระทู้นี้
http://www.opel.in.th/index.php/topic,3339.0.html
หาสาเหตุอยู่นาน เปลี่ยนช่วงล่างเกือบทุกชิ้น กว่าจะหาตัวต้นเหตุเจอ เล่นเอาเหนื่อย 8O
เดี๊ยวนะท่านdpung ....... ที่ว่า ตามนี้ :)
omega เวลาเลี้ยว ทั้ง ซ้าย และ ขวา จะมีเสียง เอี้ยด ๆ เสียงเหมือนเหล็กสีกัน น่าจะเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง หมุนพวงมาลัย ตอนจอด ไม่มีเสียง
แล้วก็ สรุปว่า ..... :)
ที่มาของเสียง คือ บริเวณตัวพัดลมแอร์ ช่างเลยคิดว่าอาจมีขยะ เข้าไปอยู่ จัดการรื้อออก เริ่มผิดหวัง เนื่องจากไม่มีขยะอยู่เลย มีแต่คราบฝุ่นเล็กน้อย เนื่องมาจากเจ้าของเดิม คงให้ช่างเอากระดาษแข็ง ไปปิดบริเวณลิ้นอากาศภายนอกเข้าในรถ แต่เมื่อมาแล้วก้อลองเป่าฝุ่นออก และฉีดโซแน็ค ไปที่ท้ายตัวมอร์เตอร์
คริคริ แล้วเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา มันจะเกิดเสียงขึ้นมาได้ยังงัย เป็นงงไม๊อ่ะท่าน คริคริ :) :) แต่ถ้าตามประสบการณ์ผม อีกสักพัก เมื่อโซแน็ค มันแห้ง เสียงมันก็จะกลับมาหาท่านdpungอีกครั้ง คริคริ เพราะว่า เจ้าหวีที่ประคองพัดลมของโบเวอร์มันทรุด พัดลมโบวเวอร์มันก็เลยไปเสียดสีกะด้านข้าง แกร๊กๆๆ งัย(พอท่านเลี้ยว โมเมนตั้ม มันก็เลยทำให้พัดลมมันเฉไปโดนด้านข้าง โป๊ะเช๊ะไม๊ท่านdpung คริคริ งานนี้ กระดาษแข็งไม่เกี่ยวนา แฮ่ๆๆ ) ท่านdpung ต้องให้ช่างแอร์แกะตัวมอเตอร์ มาดัดหวีที่เป็นแกนยึดพัดลมออก แต่ทำได้โค-ตะ-ระ ยากเลยแหละ เพราะต้องใช้ความพยายามในการแกะถอดสลักออกมา โดยเอาน้ำมันเบรคค่อยๆหยด ค่อยๆๆกระเทาะออกมา อ้อ เตรียมจาระบีโอเมก้าชนิดพิเศษไว้ด้วยนะ ใส่ตามจุดที่หมุนได้ต่างๆๆ เนี้ย จะเข้าปีที่ 7 แหละ ที่มันไม่มีปัญหาใดๆกะผม ตามนั้นนะท่านdpung 8) :)
-
บางสิ่งบางอยากเกิความความคาดหมาย เหมือนกระทู้นี้
http://www.opel.in.th/index.php/topic,3339.0.html
หาสาเหตุอยู่นาน เปลี่ยนช่วงล่างเกือบทุกชิ้น กว่าจะหาตัวต้นเหตุเจอ เล่นเอาเหนื่อย 8O
เดี๊ยวนะท่านdpung ....... ที่ว่า ตามนี้ :)
omega เวลาเลี้ยว ทั้ง ซ้าย และ ขวา จะมีเสียง เอี้ยด ๆ เสียงเหมือนเหล็กสีกัน น่าจะเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง หมุนพวงมาลัย ตอนจอด ไม่มีเสียง
แล้วก็ สรุปว่า ..... :)
ที่มาของเสียง คือ บริเวณตัวพัดลมแอร์ ช่างเลยคิดว่าอาจมีขยะ เข้าไปอยู่ จัดการรื้อออก เริ่มผิดหวัง เนื่องจากไม่มีขยะอยู่เลย มีแต่คราบฝุ่นเล็กน้อย เนื่องมาจากเจ้าของเดิม คงให้ช่างเอากระดาษแข็ง ไปปิดบริเวณลิ้นอากาศภายนอกเข้าในรถ แต่เมื่อมาแล้วก้อลองเป่าฝุ่นออก และฉีดโซแน็ค ไปที่ท้ายตัวมอร์เตอร์
คริคริ แล้วเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา มันจะเกิดเสียงขึ้นมาได้ยังงัย เป็นงงไม๊อ่ะท่าน คริคริ :) :) แต่ถ้าตามประสบการณ์ผม อีกสักพัก เมื่อโซแน็ค มันแห้ง เสียงมันก็จะกลับมาหาท่านdpungอีกครั้ง คริคริ เพราะว่า เจ้าหวีที่ประคองพัดลมของโบเวอร์มันทรุด พัดลมโบวเวอร์มันก็เลยไปเสียดสีกะด้านข้าง แกร๊กๆๆ งัย(พอท่านเลี้ยว โมเมนตั้ม มันก็เลยทำให้พัดลมมันเฉไปโดนด้านข้าง โป๊ะเช๊ะไม๊ท่านdpung คริคริ งานนี้ กระดาษแข็งไม่เกี่ยวนา แฮ่ๆๆ ) ท่านdpung ต้องให้ช่างแอร์แกะตัวมอเตอร์ มาดัดหวีที่เป็นแกนยึดพัดลมออก แต่ทำได้โค-ตะ-ระ ยากเลยแหละ เพราะต้องใช้ความพยายามในการแกะถอดสลักออกมา โดยเอาน้ำมันเบรคค่อยๆหยด ค่อยๆๆกระเทาะออกมา อ้อ เตรียมจาระบีโอเมก้าชนิดพิเศษไว้ด้วยนะ ใส่ตามจุดที่หมุนได้ต่างๆๆ เนี้ย จะเข้าปีที่ 7 แหละ ที่มันไม่มีปัญหาใดๆกะผม ตามนั้นนะท่านdpung 8) :)
ขอบคุณครับ คริคริ ถ้าเกิดมีเสียงไม่พึงประสงค์อีก จะทำตามที่ท่านบอก คริคริ
ถ้าไม่รื้อลิ้นชักออก เสียงที่ได้ยิน ใคร ๆ ก้อคงนึกแต่เรื่องช่วงล่าง เพราะได้ยินมาจากใต้ท้องรถด้านหน้า ไปมาหลายอู่ ช่างที่ศูนย์เชพ ภูเก็ต ก้อหาไม่เจอ :shock:
-
ขอขอบคุณ คุณ nuchavee และทุก ๆ ท่าน อีกครั้งสำหรับประสบการณ์ในการไขปัญหา เพื่อให้คนอื่นได้ใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาในโอกาศต่อไป
ปัญหาบางปัญหาไม่เคยเจอ ถ้าคนที่เจอและแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ และนำมาเผยแพร่ให้คนอื่นได้รับทราบ เป็นเรื่องที่น่ายกย่อง เป็นอย่างยิ่ง :D
-
:D ผมโคตรชอบบรรยากาศแบบนี้เลยครับเหอะๆ นี่ซิเวปรถเหอะๆ
-
วันนี้มันกลับมาดังอีกแล้ว คงต้องแก้ไขตาม nuchavee ซะแล้ว
-
ไม่รู้ว่า อาการของท่านจะเหมือน ของผมหรือป่าว
ของผม คอซ่า 5 ประตู้ ออโต้ ครับ เวลาเลี้ยวมีเสียงเหมือนเหล็กมันกระทบกัน ครับ ดัง แก๊กๆๆๆ ให้ศูนย์เช็ค ไล่ตั้งแต่หัวเพลา เลย ครับ เช็คช่วงล่างเผื่อว่า มีเหล็กอะไรไปกระทบ
สรุป สาเหตุ ที่ ช่างเจอ คือ
ตัวยึด ไดสตาร์ท มันหัก ครับ พอหักแล้ว ไดสตาร์ท มันถึงมาไม่สุด พอไม่สุด ทำให้ เฟื่องที่ มัน ทำงาน ไม่สมบูรณ์ ครับ คือ คล้ายกับว่า มันตกร่อง ครับ
ก้อ เลย เป็นที่มาของเสียง ครับ
ลองเช็คดู ครับ เผื่อ เป็นอาการเดียวกัน
-
มาอัพครับ อาการหายรึยังครับ
-
ยังดังเป็นบางครั้ง เปิดพัดลมเบอร์ 1 ไม่มีเสียงดังเลย เปิดพัดลม เบอร์ 2 ได้ยินเสียงดัง ชัดเจน เวลาเลี้ยว และจะเป็นเฉพาะเวลาเลี้ยวขวา เลี้ยวซ้ายไม่ดัง เปิดพัดลมเบอร์ 3 และ 4 ไม่ได้ยิน เพราะได้ยินแต่เสียงลม ๆ เป่าแรงมาก
ยังไม่ได้แก้ไขตาม คุณ nuchavee ใช้ไปก่อน ถ้าใช้พัดลมเบอร์ 2 ก้อเปิดเพลงฟัง 8)
-
เมื่อตอนเย็นลองขึ้นแม่แรงตรวจดู ล้อยังแน่นปึก ดูยางรองเบ้าโช๊ค สภาพยังดี ไม่ฉีกขาด
จำเลยตัวสุดท้ายน่าจะเป็นตัวปั่นพาวเวอร์ หรือปล่าวเนี้ย และจะดังตอนเลี้ยวขวามากที่สุด พวงมาลัยตรง ๆ หรือ เลี้ยวซ้าย ดังนิดหน่อย
แต่ตอนจอดอยู่กับที่ หมุนพวงมาลัย กับไม่ดัง งง ???
ภาพยางรองเป้าโช๊ค แต่ไม่รู้ยี่ห้ออะไร
(http://www.opel.in.th/index.php?action=dlattach;topic=3339.0;attach=15300;image)
ทำไหมรถผมไม่มียางกันฝุ่นที่โช้คแบบนี้ ต้องหาซื้อมาใส่ใช่ไหมครับ มีขายทั่วไปหรือไม่ หรืออ ว่าต้องซื้อโช้ค มาเป็นชุดอะไรประมาณนั้นอ่ะครับ
-
มันมีขายทั่วไปนะครับ :)
จะเอาไหมเดี๋ยวเช็คราคาแล้วสั่งให้ ;D
-
เมื่อตอนเย็นลองขึ้นแม่แรงตรวจดู ล้อยังแน่นปึก ดูยางรองเบ้าโช๊ค สภาพยังดี ไม่ฉีกขาด
จำเลยตัวสุดท้ายน่าจะเป็นตัวปั่นพาวเวอร์ หรือปล่าวเนี้ย และจะดังตอนเลี้ยวขวามากที่สุด พวงมาลัยตรง ๆ หรือ เลี้ยวซ้าย ดังนิดหน่อย
แต่ตอนจอดอยู่กับที่ หมุนพวงมาลัย กับไม่ดัง งง ???
ภาพยางรองเป้าโช๊ค แต่ไม่รู้ยี่ห้ออะไร
(http://www.opel.in.th/index.php?action=dlattach;topic=3339.0;attach=15300;image)
ทำไหมรถผมไม่มียางกันฝุ่นที่โช้คแบบนี้ ต้องหาซื้อมาใส่ใช่ไหมครับ มีขายทั่วไปหรือไม่ หรืออ ว่าต้องซื้อโช้ค มาเป็นชุดอะไรประมาณนั้นอ่ะครับ
ตัวนี้ ยางรองหัวโช๊ค :มั้ง: จะมียางกันฝุ่น สีดำครอบข้างนอกอีกอัน