OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
Opel in Talks => Off Topic => Topic started by: bassoat on 30 May 2010, 23:39
-
รถสตาร์ทไม่ติด T_T อีกแล้ว....ครับ หลังจากที่จอดทิ้งไว้ 3 วัน สตาร์ทแล้วไม่มีแรงเลยครับ
ผมไปดูที่แบต พบว่าเป็นตาแมวไปแล้วครับ (เป็นวงๆสีขาว) พึ่งเปลี่ยนมาเมื่อหลังสงการนต์เองครับ
ผมเลยมีคำถามอยากจะถามชาวโอเปิ้ลดังนี้ครับ
1.แบ็ตของผมปกติไหมครับ เพราะผมจอดรถทิ้งไว้ประมาณ 3 วัน แบ็ตมันก็เป็นไปอย่างอาการที่ผมบอก :please:
2.เวลาสตาร์ทไม่ติดนี่ชาวโอเปิ้ลทำไงกันครับ :ไม่:
3.หรือว่ามันจะเป็นไปด้วยอาการอย่างอื่น T_T :shock:
ขอบคุณครับ
สงสารรถก็สงสารแต่เจ้านายมันต้องไปทำงานสรุปเจ้าซ่าโดนด่าอีกตามเคย T_T
-
รถผมจอดทิ้งไว้ 7-8 วันก็ติดนะ แต่ถ้าจอดนาน เสียงเวลาสตาร์ทมันจะเหมือนไม่มีแรง
ผมว่าตรวจดูว่า
-ไฟรั่วหรือเปล่า
- ไดชาร์ต ทำงานปกติหรือเปล่า
- แบตชาร์ตไฟมาปกติหรือเปล่า
ลองดูว่าตอนจอดรถทิ้งไว้สามวัน น้ำกลั่นแบตเป็นไงครับ
หรือคราวหน้า ถ้าต้องจอดนานๆอีก ลองถอดขั้วแบตขั้วลบออกดู เวลากลับมาใช้ค่อยใส่กลับเข้าไปใหม่ ถ้ามันติด ก็แปลว่าไฟรั่วแน่ๆ (หรือมีอุปกรณ์อะไรแอบใช้ไฟอย่างเงียบๆ) แต่ถ้าไม่ติด เอาแบตไปเครมได้เลยครับ
-
อาการเหล่านี้เช็คได้อย่างไรบ้างครับ
1.- ไฟรั่วหรือเปล่า
2.- ไดชาร์ต ทำงานปกติหรือเปล่า
3.- แบตชาร์ตไฟมาปกติหรือเปล่า
4.- ลองดูว่าตอนจอดรถทิ้งไว้สามวัน น้ำกลั่นแบตเป็นไงครับ
ตอนนี้ผมเช็คข้อ 4 ได้อย่างเดียว คือ ตอนนี้ระดับอยู่ที่ LOW พอดีครับ ผมก็เลยเติมน้ำกลั่นเข้าไปแล้วครับ
-
อาจมีไฟรั่วออกจากแบตครับ ลองดูอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ พวกวิทยุ เพาเวอร์แอม ที่ไปต่อเพิ่มให้กับรถ
-
ตอนนี้หารถมาจั๊มก่อนครับ
1.ไฟรั่วอันนี้ต้องวัดดูตอนดับเครื่องว่าไฟตกไหม แล้วค่อยไล่หาว่ามาจากไหน
2.ถ้าไดชารต์ อาการบอกคือไฟรูปแบต จะเรื่องลอง เปิดไฟ เปิด แอร์ ใช้ทุกๆๆอย่างที่กินไฟดูครับ ต้องตรวจเช็คอีกทีว่าแปลงถ่าย เสีย หรือเป็นที่อะไร
3.อันนี้ดูโดยติดเครื่องทิ้งไว้ วัดไฟดูว่ามันตกหรือไม่
น้ำกลั่น เช็ค 7 วันทีก็ดีครับ
-
รถผมจอดทิ้งไว้ 7-8 วันก็ติดนะ แต่ถ้าจอดนาน เสียงเวลาสตาร์ทมันจะเหมือนไม่มีแรง
ผมว่าตรวจดูว่า
-ไฟรั่วหรือเปล่า
- ไดชาร์ต ทำงานปกติหรือเปล่า
- แบตชาร์ตไฟมาปกติหรือเปล่า
ลองดูว่าตอนจอดรถทิ้งไว้สามวัน น้ำกลั่นแบตเป็นไงครับ
หรือคราวหน้า ถ้าต้องจอดนานๆอีก ลองถอดขั้วแบตขั้วลบออกดู เวลากลับมาใช้ค่อยใส่กลับเข้าไปใหม่ ถ้ามันติด ก็แปลว่าไฟรั่วแน่ๆ (หรือมีอุปกรณ์อะไรแอบใช้ไฟอย่างเงียบๆ) แต่ถ้าไม่ติด เอาแบตไปเครมได้เลยครับ
พี่จอด2เดือนเต็มยังติดชึ่งๆเรยนะ...
ตอบคุณเจ้าของกาทู้...
1.ไปร้านแบตวัดความถ่วงจำเพาะว่าปรกติดีหรือไม่...ต้องใช้เครื่องมือครับ...
2.เรียกเพื่อนชาวโอเปิ้ลด้วยกันครับ...
3.มันเป็นอาการชะนี้นะครับ...
3.1.เช็คไฟชาร์ตถ้าต่ำกว่า12โวลก้อแปลว่าไดเน่าแล้วครับ...
3.2ไฟอาจรั่วตามชุดเชื่อมต่างๆ...
-
รูปแบตนี่ก็มีน่ะครับ แต่พอสตาร์ทติดเขาก็จะดับไปครับ
พรุ่งนี้ผมว่าจะโทรหาร้านแบ็ตมาช่วยดูให้ก่อน ^^ ไม่รู้ว่าเขาจะมาให้ไหม ถ้าไม่มาก็คง จส 100 ละ ฮิฮิ.........
จากนั้นก็คง สินโอโต้...เพื่อเช็คระบบไฟฟ้า+ได ไปด้วยเลย
เสียเงิน แล้ว เจ้าซ่าเขาคงจะสบายใจ กำ :-X
-
หาซื้อมิเตอร์วัดไฟอันเล็กๆ ตามอมรมาเช็คดูได้ครับ อันละ 2-3 ร้อย
ถ้าไฟยังเกิน 12.6 ก็ถือได้ว่า ไดมีปัญหา หรือก็ไล่ระบบน้ำมัน
-
ม่ายมีใครผ่านมาแถวรัชดาเลยหรอครับ
มาม๊ะ มาจั้มส์กัน.......................... :-[
-
แถวๆรัชดา ก็พี่หมองัย โทรหลอกมาได้เลย.. :)
-
มาอัฟเดทความคืบหน้าครับ
พอดีข้างๆหอมีอู่ผมก็เลยให้เขามาจัมส์แบ็ตให้จากนั้นก็รีบเอาไปอู่สินทันที
ถึงแล้วลองดับเครื่อง สตารท์ เจ้าซ่าไม่ติดครับ หมดแรง
ตอนนี้สันนิฐานได้ว่า ไดชารท์ไม่ดีแล้ว............. ^^ ตอนนี้ก็เลยฝากที่อู่สินไว้ครับ
-
ได้ความยังไง รายงานความคืบหน้าด้วยครับ :)
-
อัฟเดทรายการความคืบหน้าครับ
หลังจากที่เอาไปจอดไว้ที่อู่สินเป็นเวลา 1 วันครึ่ง ช่างได้เช็ครถแล้วติดต่อมาดังนี้ :สำนึก:
1.แตรไม่ดัง (เปลี่ยนสวิทต์ที่คอ???)
2.ระบบไฟ สายไฟแมน สายไฟต่างๆ เช่น ต่อเข้าไดชาทต์ ต่อเข้าไฟ ฯลฯ (เปลี่ยนใหม่+บิวใหม่???)
3.สวิทต์ไฟฉุกเฉิน (ใส่เพิ่ม เพราะของเดิมไม่มีหลุดไปไหนไม่รู้???)
4.อาการไฟเครื่องติดได้เองและหายได้เอง (เปลี่ยนเซ็นเซอร์อะไรสักตัว???)
5.ตัวฉีดน้ำฝนไม่มีแรง (มอเตอร์ หรือเปล่า???)
6.ถอดสัญญาณกันขโมย + ตัวล็อคเกียร์
พนักงานโทรมาบอก 5 พันกว่าบาทครับ ???
งานนี้บาดเจ็บเลย อื้ม..........สดชื่นตั้งแต่ต้นเดือน :shock:
ไม่ทราบว่าประมาณนี้ราคาแรงไปไหมครับ.......... :-\
:'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'(
-
ต้อง ขอดูรายการซ่อมฮะ... :)
-
อัพเดทอาการล่าสุดครับ
หัวฉีดรั่ว...... ตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นครับก็ดลยให้ช่างเช็คดู
อาการนี้ซ่อมอย่างไรครับ T_T ค่าใช้จ่ายเท่าไรครับ
ตอนนี้เตลิด 5 พันแล้ว......... :omg:
-
เหอะๆ ใจเย็นๆครับถามเขาว่า ช่วยอะไรได้บ้าง ไม่มีตัง แค่นี้เองครับ เดี๋ยวเขาก็ช่วยคิดหาวิธี ประหยัดให้เรานะครับ การทำรถ เราคิดอะไรอยู่บากเขาให้หมดนะครับ
คิดคนเดียวไม่มีประโยชน์ครับ เขามีหน้าที่ช่วยเราแก้ปัญหา แต่เราก็ต้องช่วยบอกปัญหาเงื่อนไขของเราด้วยครับ แนะนำนะครับ
1. มีอะไรที่ยังไม่จำเป็นต้องทำบาง
2.อันไหนสำคัญ อันตราย ควรทำบ้าง
3.ของอันไหน ลดได้ขอลด
4.อันไหนเราใช้ไม่คุ้มก็ไม่ต้องทำ
อันนี้ผมแนะนำเฉยๆนะครับเหอะๆ ธรรมดาครับ
-
มาอัฟเดทรายการซ่อมครับ
รายการเปลี่ยนดังนี้ครับ
1.สวิทย์ไฟฉุกเฉิน 400
2.สายไฟแบ็ตขั้วลบ 300
3.สายไฟไดร์ชาจร์ 300
4.MAPSENSER 1000
5.สายไฟกราวด์กล่องเครื่อง 1000
6.หัวฉีด 1000
ส่วนรายการต่อไปนี้ฟรี
1.สายไฟหน้าขาด
2.ถอดสัญญาณกันขโมย
3.ถอดล็อคเกียร์
4.แก้สายไฟแตร
5.สติ๊กเกอร์อู่ และบริการทาถูแว๊กซด้านใน
ราคาร่วมค่าแรงทั้งหมด 4000 บาทถ้วนครับ :-X เลยแอบเครียดตั้งแต่ตั้นเดือนเล็กน้อย
หลังจากเอารถออกจากอู่พบว่า
1.อัตราเร่งดีขึ้นนิดนึง
2.เครื่องเดินเรียบขั้น เสียแปลกที่นานๆมาทีหายไป
3.อาการรอบตกเล็กน้อยเวลาเข้าเกียร์ N หายไป
4.จากเดิมถ้าเปิดแอร์และเข้า N ไว้รอบจะอยู่ที่ประมาณ 900 แต่ตอนนี้ถ้าเปิดแอร์และเข้า N ไว้รอบจะอยู่ที่ประมาณ 1100
5.ความร้อนขึ้นถึง 100 เพราะรถติดมาก........
แต่เวลาเปลี่ยนเกียร์จาก N ไป D พบว่ารถมีอาการกระตุก แต่หลังจากเปลี่ยนเกียร์แล้วปกติครับ(อาการนี้เขาเป็นอะไรครับ)