OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
Opel in Talks => General Discussion => Topic started by: ntping on 03 Jun 2010, 22:22
-
ตอนนี้งงไปหมดแล้ว......ผู้มีความรู้ช่วยหน่อย :ไม่: :ไม่:
ที่มาคือจะไปเอารถแล้วจะให้ร้านเคลือบสีให้ด้วยแต่ช่างบอกว่าให้เอา karshine teflon แต่ไปอ่านของ car lac 66 (เข้าใจที่car lack เชียร์สินค้าที่ตัวเองขาย แต่อยาได้ข้อเท็จจริงครับ) ที่ได้เปรียบเทียบสารเคมีแต่ละตัว...ซึ่งเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ดังนี้ครับ
ที่มา : Car Lack 66 http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=grizzlybear&group=19&month=07-2009&date=17
การเปรียบเทียบคุณสมบัติของน้ำยาเคลือบสีตามกลุ่มของเคมีภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์เคลือบสีรถยนต์ในปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อครับ แต่ละยี่ห้อก็มีส่วนผสมที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น Wax, Canuba, Teflon, Silicon, Rasin หรือ Polymer
น้ำยาทุกตัวเป็นน้ำยาเคลือบเงาที่ดีครับ แต่อาจจะมีคุณสมบัติในการคงทนแตกต่างกันครับ
การที่เราจะทราบถึงความแตกต่างในผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาสีรถยนต์
เราจำเป็นต้องศึกษาอย่างจริงจังเพื่อจะทราบว่าเคมีภัณฑ์ที่นำมาเคลือบบนผิวสีรถยนต์นั้น มีความแตกต่างกันอย่างไรครับ
เริ่มจาก...
Wax
wax หรือ canuba wax นั้น จะมีจุดเด่นในเรื่องความเงาครับ เคลือบปุ๊บ เงาปั๊บ แต่ความคงทนจะต่ำ เพราะ wax ก็คือขี้ผึ้ง หรือไขมัน นั้นก็คือ น้ำมัน นั้นเอง สังเกตว่า จะต้องเคลือบสี เมื่อรถเย็น และต้องเคลือบในร่มเท่านั้น ห้ามเคลือบกลางแดด (เพราะน้ำยาจะแปรสภาพ)
ขี้ผึ้ง จะมีจุดหลอมเหลวต่ำ ทนความร้อนได้แค่ประมาณ 40-70 องศาเซลเซียส นั้นก็คือ เมื่อเคลือบแล้ว มันจะติดอยู่กับรถได้ไม่นานเท่าไหร่ ล้างรถครั้ง สองครั้งก็หายหมดแล้ว ซึ่งเราก็จะต้องเคลือบกันบ่อยๆ จะได้แค่ความเงาเพียงอย่างเดียว คุณสมบัติในการปกป้องสีรถ ก็จะลดน้อยลง
นอกจากนี้ เมื่อ Wax โดนความร้อนจากแสงแดด จะละลาย เหนียว ฝุ่นเกาะง่ายสีรถจะมองดูเป็นคลื่น หรือเงาเป็นชั้นๆ ไม่สม่ำเสมอ มองเห็นเป็นรอยขนแมว หรือรอยคล้ายใยแมงมุมบนผิวสีรถ อีกทั้ง ยังมีโอกาสที่ผิวสีรถ จะขึ้นฝ้าหรือมองดูหมองมัวอีกด้วย ท่านจะสังเกตเห็นสภาพเหล่านี้ เกิดขึ้นกับรถที่วิ่งอยู่บนถนนในช่วงเวลาที่มีแดด หรือในยามค่ำคืนเมื่อรถของท่านส่องไฟไปยังรถที่เคลือบด้วยแว็กซ์
ข้อดี
- มีความมัน เงางาม ใช้งานง่าย
- เคลือบแล้วเช็ดได้เลย เพราะความเงาที่ได้ ได้จากน้ำมัน
- สามารถผลิตในรูปแบบ Hard Wax ได้
- ต้นทุนต่ำ
ข้อเสีย
- ทนความร้อนได้เพียง 45’C-70’c ดังนั้นความคงทนจะต่ำ
- แผ่นฟิล์มไม่แข็งแรง ไม่ทน ต้องเคลือบบ่อยๆ
- มีส่วนผสมของ Petroleum Base
- ตั้งในที่เย็นมากจะเป็นไข หรือแยกชั้นน้ำยา
- ไม่สามารถเคลือบกลางแดด หรือในที่มีอุณหภูมิสูง เพราะเมื่อโดนความร้อน สีจะดูเป็นปื้นๆ
- เช็ดออกยากถ้าทิ้งไว้นานๆ
- ไม่สามารถนำไปเคลือบกระจกได้ เพราะมีส่วนผสมของน้ำมัน
หมายเหตุ:
1. ถ้าเป็นน้ำยาเคลือบสีที่ผลิตจาก CURNUBAR WAX แท้ๆ
คุณภาพจะดีมาก ซึ่งต้นทุนสูง หายากมาก ผลิตได้จากไขสัตว์ : ไขปลาวาฬ ปัจจุบันได้เลิกแล้วเพราะถูกกลุ่มอนุรักษ์นิยม Green Peace ยับยั้ง
ปัจจุบันสกัดได้จากไขของพืช ซึ่งมีความคงทนสูง มีความมันเงา
2. คุณสมบัติข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างเทียบเคียง มิได้หมายถึงเคมีเดียวกันทั้งหมด
และมิได้ยกตัวอย่างเพื่อให้เกิดความสับสน เป็นเพียงการอุปมา อุปไมยให้เห็นภาพเท่านั้น
Teflon
ตัวอย่าง: กระทะเทฟลอน
น้ำยาเคลือบสีที่มีส่วนผสมของ Teflon เป็นน้ำยาที่เคลือบเงาที่ดีครับ ให้ความลื่น เงางาม แต่ความคงทนต่ำครับ ต้องอาศัยการเคลือบบ่อยๆ ครับ
และถ้าให้พูดถึง Teflon เฉยๆ เราคงนึกถึงกระทะ Teflon ใช่มั๊ยครับ กระทะ Teflon เคยเป็นที่นิยมในสมัยหนึ่ง ที่สามารถใช้ทอดของได้โดยไม่ต้องใช้น้ำมัน เพราะอะไรครับ เพราะ Teflon เป็นส่วนผสมหนึ่งในปิโตรเลียม ผิวกระทะ Teflon ถึงลื่น แต่ไม่คงทน จึงต้องใช้ตะหลิวที่เป็นพลาสติค
ลองคิดดูครับ ว่าถ้าเราเอาสาร Teflon มาเคลือบรถเราแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นครับ น้ำมันเปรียบเสมือนเชื้อเพลิง ที่จะช่วยเร่งการเผาไหม้ของสีให้เร็วยิ่งขึ้นครับ
พิสูจน์ง่ายๆ ครับ ลองเผาน้ำยาที่มีส่วนผสมของ Teflon ดูครับ แทบจะไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงช่วย เมื่อเผาแล้ว น้ำยาจะสลายไปหมด แต่ยังติดไฟอยู่ นั้นเพราะคุณสมบัติของน้ำมันครับ
หรือวิธีง่ายๆ เทน้ำยา แล้วตั้งทิ้งไว้ จะพบว่ามีการแยกชั้นอย่างชัดเจน ระหว่างน้ำ กับน้ำมัน (ดังนั้น ก่อนใช้ จะต้องเขย่าขวดก่อน)
สุดท้ายนะครับ ขอยกเรื่องกระทะ Teflon ต่อ เคยได้ยินข่าวว่า Teflon เป็นสารก่อมะเร็งมั๊ยครับ ข่าวนี้ ทำให้กระทะ Teflon เงียบหายไป และในขณะนี้ ยังไม่มีงานวิจัยใดๆ ที่รับรองความปลอดภัยของผู้ใช้สาร Teflon เลยครับ
นั้นเป็นเหตุผลที่หลายๆ บริษัทที่ใช้ Teflon เป็นส่วนผสม พยายามเปลี่ยนชื่อว่าเป็น Rasin Wax บ้าง หรือบางบริษัทไม่พยายามบอกถึงส่วนผสมครับ
ข้อดี
- มีผิวที่ลื่น
- มีความเงางามสูง
- ใช้ง่าย
ข้อเสีย
- ไม่ทนต่อการขูดขีด
- ในต่างประเทศเคยรณรงค์ที่จะเลิกใช้สารเทฟลอนที่มีอาจมีอันตรายต่อผู้ใช้ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
- มีส่วนผสมของ Petroleum Base
- ทนต่อความร้อนได้จำกัด
- ต้องเคลือบอยู่บ่อยครั้ง
- ตั้งทิ้งไว้นานๆ น้ำยาจะแยกชั้น
- ไม่สามารถนำไปเคลือบกับกระจกได้
หมายเหตุ:
1. คุณสมบัติข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างเทียบเคียง มิได้หมายถึงเคมีเดียวกันทั้งหมด
และมิได้ยกตัวอย่างเพื่อให้เกิดความสับสน เป็นเพียงการอุปมา อุปไมยให้เห็นภาพเท่านั้น
Resin
ตัวอย่าง: กรอบรูปวิทยาศาสตร์ ทำจากเรซิ่น
ข้อดี
- มีความแข็งแรงกว่า Wax, Silicone
- มีความเงางามใส
- เป็น Liquid Base
ข้อเสีย
- มีส่วนผสมของ Petroleum
- มีการแยกชั้น ถ้าทิ้งไว้ในที่เย็นนานๆ
- ไม่สามารถเคลือบกลางแดดได้
- ถ้าเคลือบทิ้งไว้นานๆ เช็ดออกยากมาก
- ไม่ทนต่อความร้อน
- ไม่สามารถนำไปเคลือบกระจกได้ เพราะมีน้ำมัน
- ต้องเคลือบอยู่บ่อยครั้ง
หมายเหตุ:
1. คุณสมบัติข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างเทียบเคียง มิได้หมายถึงเคมีเดียวกันทั้งหมด
และมิได้ยกตัวอย่างเพื่อให้เกิดความสับสน เป็นเพียงการอุปมา อุปไมยให้เห็นภาพเท่านั้น
Polymer
ข้อดี
- สารเคลือบแข็ง
- มีความเงางาม
- เป็น Liquid Base
- ให้ความคงทนมากกว่าสารที่เป็น WAX, RASIN
ข้อเสีย
- เป็น Petroleum Base
- ตั้งทิ้งไว้นานๆ น้ำยาอาจแยกชั้น
- ไม่สามารถนำไปเคลือบกับกระจกได้
Acrylic
ตัวอย่าง: สีอะครีลิค, แผ่นอะครีลิค
ข้อดี
- ให้ความเงางาม
- ให้ความใส
- สามารถนำไปเคลือบกระจกได้
ข้อเสีย
- ต้องใช้อุณหภูมิที่สูงในการผลิต
- มีต้นทุนการผลิตสูง
หมายเหตุ:
1. คุณสมบัติข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างเทียบเคียง มิได้หมายถึงเคมีเดียวกันทั้งหมด
และมิได้ยกตัวอย่างเพื่อให้เกิดความสับสน เป็นเพียงการอุปมา อุปไมยให้เห็นภาพเท่านั้น
Polyethylene
ตัวอย่าง: ถุงร้อนใส่อาหาร
ข้อดี
- ความคงทนต่ออุณหภูมิที่สูงถึง 320 ‘F หรือ 160’C
- มีแผ่นฟิลม์ที่บางใส
- มีความแข็งแกร่งและทนทาน
- สามารถนำไปเคลือบกระจกได้
- สามารถผสมกับน้ำได้
ข้อเสีย
- ยากในการผลิต ต้องใช้ความร้อนที่สูง
- มีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเคมีภัณฑ์ทั่วไป
หมายเหตุ:
1. คุณสมบัติข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างเทียบเคียง มิได้หมายถึงเคมีเดียวกันทั้งหมด
และมิได้ยกตัวอย่างเพื่อให้เกิดความสับสน เป็นเพียงการอุปมา อุปไมยให้เห็นภาพเท่านั้น
-
เยอะ หน่อยนะครับ ??? ข้อมูลเพิ่มเติม(http://carlack68kaset-navamin.tarad.com/article?id=8175&lang=th )
1 สารโพลีเอทธีลีน Polythyiene-Concentrate
2 สารอะครีลิต Acrylic
3 สารป้องปันรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต UV Protective
4 สารทำความสะอาดผิวสี Cleaning Agents
ซึ่งสารเคมีหลักๆ คือ Polyethylene และ Acrylic จะมีส่วนช่วยสร้างความแข็งแรง และความคงทนให้กับแผ่นฟิลม์ โดยแฝงไปด้วยความเงางาม สารโลีเอทธีลีนเป็นสารที่สกัดได้จากส่วนที่เป็น PE หรือ พลาสติก แต่ Polythylene จะมีความเด่นตรงที่เป็นสารเคลือบแข็ง ที่ทนต่อความร้อนสูงมากๆ สังเกตได้จากถุงร้อน ที่นำมาใส่ก๋วยเตี๋ยว หรือน้ำแกงร้อนๆ กว่า 100 องศาเซลเซียส ลองคิดดูสิว่าชั้นผิว หรือ Layer ของถุงนั้นมีความหนาเท่าใด กี่มิลลิเซน บางทีอาจเรียกว่าบางกว่าที่เราจะไปวัดได้ แต่เพราะเหตุใดผิวที่บางขนาดนั้นจึงสามารถทนต่ออุณหภูมิที่ถูกเทผ่านน้ำลงไป และทำให้ถุงไม่ขาด ทั้งๆ ที่ถ้านำน้ำร้อนไปเทใส่วัสดุอื่นเช่น กระดาษ หนัง ก็คงเปื่อยทะลุเป็นแน่ นั่นคือความโดดเด่นของสารเคมีประเภท Polyethylene ที่มีความแข็งแกร่ง และมีความคงทนต่ออุณหภูมิที่สูงถึง 320 องศาฟาเรนไฮท์ หรือ 160 องศาเซลเซียส สูงกว่าจุดเดือด ส่วน Acrylic เป็นสารเคมีที่ให้ความเงางามสูง ท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินคนพูดว่า รถคันนี้พ่นสีคะคริลคิล สีเมทเทลลิค เป็นต้น ซึ่งคุณสมบัติหลักของ อะคริลลิค คือความใส ความเงางามสูง ซึ่งสารเคมีนี้เองถูกหลอมรวมอยู่ในน้ำยาเคลือบสีรถยนต์ คาร์แลค 68 สรุปคือ
POLYETHYLENE คุณสมบัติมีความแข็งแรง ทนต่อความร้อนได้สูงถึง 320 ํF หรือ 160 ํC
+
ACRYLIC คุณสมบัติมีความเงางามสูง
=
CAR-LACK 68 เคมีภัณฑ์ที่ได้รับการยกย่องเป็นสุดยอดน้ำยาเคลือบสีรถในทวีปยุโรปหรือรางวัล
"The Fold Medal Award for International Trophy for Technology 1986"
-
ซึ่งตรงกับที่ร้านWAC Car Detailing ( http://www.waccardetailing.com/forum/index.php?topic=312.0 )
แสดงว่า Teflon ไม่ดีเท่าสารโพลีเอทธีลีน ใช่ป่าว :มั้ง: งั้นของCar-lack ก็ดีกว่าใช่หรือเปล่าครับ..... ???
รบกวนขอความรู้จากท่านผู้รู้ด้วยครับ ขอบคุณครับ :)
-
เสียดาย พี่ถามช้าไป..อาทิตย์ที่แล้ว (31 พค.) แก็งค์โอเมะ(รุ่นพี่ๆ บ้านเลิฟ) เขาไปเที่ยวปราจีนกัน
ซึ่งเป็นบ้านของคุณเอิร์ท คาร์โค้ท.. ถ้าพี่ได้ไป รับรองใสปิ๊งกลับมาแน่นอน
-
:please: :please:
วันนี้จะไปซื้อ Car lack nano มาใช้แล้วครับ..... งงอยู่เหมือนกันว่าต้องใช้อันไหนก็เลยเลือก nano ไว้ก่อน ??? ??? แล้วจะแจ้งผลให้ทราบ....
-
ไม่รู้อ่ะค่ะ ใช้ของแอมเวย์อยู่ อิอิ
-
- ที่บ้านผมใช้แต่แชมพูพี่บัติครับ เท่านั้นเอง ล้างเสร็จเช็ดให้แห้ง (เปิดประตูและฝากระโปรงเช็ดตามขอบด้านในด้วย) เป็นอันจบพิธี
- เป็นความรู้ดีครับที่ท่านแจกแจงข้อดีข้อเสีย แต่ส่วนตัวผมไม่ซีเรียสเรื่องภาพลักษณ์ ความสวยงามภายนอกเท่าไหร่ เน้นสมรรถนะและความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์กับช่วงล่างเป็นสำคัญครับ
- ว่าจะไปอุดหนุนคุณเอิร์ธให้เคลือบ hard coat ก็ยังสองจิตสองใจ (ค่าบริการไม่ใช่ปัญหา) แต่มันดูเงาปิ๊งเกินไป ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเลย มันบ้างด้านบ้าง ผมว่าได้อารมณ์ดี ชีวิตมันก็ต้องมีบาดแผลกันมาบ้าง (เกี่ยวกันไม๊เนี่ย)
- เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะว่า hard coat เนี่ย มันคือการเคลือบถาวร เคลือบตายลงไปเลย หมายความว่า สีรถยนต์จะไม่มีโอกาสที่จะขยายหรือหดตัวได้เลยเมื่ออยู่ในอากาศร้อนหรือเย็น เห็นเขาว่า ไม่ต้องลง Wax อีกเลย เพราะไม่มีประโยชน์ Wax จะไม่สามารถซึมผ่านชั้นเคลือบแข็งไปถึงเนื้อสีได้อีก แสดงว่ามันแข็งมาก ๆ เลย ผมรู้สึกว่ามันขาดความยืดหยุ่นที่พื้นผิวสัมผัสไปนะครับ หรืออาจเป็นว่าได้อย่างเสียอย่าง และมันดูหลอก ๆ ตายังไงก็ไม่รุ (สำหรับผมเองนะ)
-
ลองแม็กไกว์มั้ยครับ เช็ดออกง่ายดีนะครับ
ผมใช้เบอร์ 21 แล้วก็ Ultimate Quick Detailer ฉีดๆ
บอกไว้เผื่อจะทำเองอ่ะนะครับ