OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
Opel in Talks => General Discussion => Topic started by: KunFroggy on 25 Jul 2010, 14:35
-
อยากรู้ครับว่ายากมากไหม
1. ต้องแปลงจุดไหนยังไงบ้างครับ
2. ขนาดลูกใหญ่กว่าของเก่ามากไหม
มีรูปประกอบด้วยจะขอบใจมาก ๆ ครับ
หรือลงเบอร์โทรไว้หน่อยครับ จะโทรไป ปรึกษาหน่อยครับ ด่วนนะจ๊ะ
ขอบใจล่วงหน้าครับ
ถามเพิ่มอีก 1 เรื่องครับ
รถผม Corsa 3D วางเครื่อง 4E FTE ติดแก๊สระบบมิกซ์ ตอนนี้น้ำมันใช้ไหมได้
ถ้าผมจะไม่ซ่อมปั๊มติ๊กแล้ว ใช้แต่แก๊สล้วน ๆ ยาวเลย จะดีไหมครับ แนะนำทีครับ
หรือว่า เปลื่อนปั๊มติ๊ก อยากน้อยก็จะมีน้ำมันในถังสำรองเผื่อแก๊สหมดดีครับ
-
ปั๊มติ๊กเครื่อง j อย่าใส่เลยครับ กินน้ำมันมากๆ หาเทียบที่แรงดันน้ำมันใกล้ๆ กับ corsa จะดีกว่า
-
ปั๊มติ๊กเครื่อง j อย่าใส่เลยครับ กินน้ำมันมากๆ หาเทียบที่แรงดันน้ำมันใกล้ๆ กับ corsa จะดีกว่า
พี่หน่าครับ รบกวนช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยครับเรื่องปั๊มติ๊กอ่ะครับ ผมได้ยินมาเยอะเหมือนกันครับ ว่าเปลี่ยนเป็นJ boแล้วกินน้ำมันอ่ะครับ
คือ ตามความเข้าใจของผม(อาจจะเข้าใจแบบผิดๆ) ปั๊ม j นั้นแรงดันมันเยอะกว่าเดิมแน่นอน แต่มันจะทำให้เปลืองได้ด้วยหรอครับ
เพราะการกินน้ำมันมันต้องมาจากการจ่ายจากหัวฉีดซึ่งคำนวนมาจากกล่องไม่ใช่หรอครับ แล้วอีกประเด็นคือ แรงดันนั้น มันคุมด้วย เรกกูเรตเดิมที่รางหัวฉีดไม่ใช่หรอครับ
เช่น เรคกูเรตเดิม2บาร์ น้ำมันมาเท่าไหร่มันก็ต้องคุมให้เป็น2บาร์ไม่ใช่หรอครับ ถ้าอยากให้แรงดันเพิ่มก็ต้องเปลี่ยน เรคกูเลตที่สามารถปรับได้ แล้วส่วนเกินก็ไหลกลับเข้าถังอ่ะครับ
ผมเข้าใจมาแบบนี้ตลอดเลยอ่ะครับ ใครก็ได้ ช่วยอธิบายหน่อยอ่ะครับ ผมจะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้อ่ะครับ...ขอบคุณคร๊าปปป :ตาปิ้ง:
-
พี่ก็ได้ยินมาอย่างกุ้งอะ ปั๊มแค่ช่วยให้แรงดันน้ำมันเพิ่มขึ้นนะครับ แต่ลองเปลี่ยนแล้วของ J Bo อาการที่เป็นก็ไม่หายอะครับ โดนไป 1500
-
ตอบพี่กบ อีกทีนะครับ ว่า พี่ถามกระทู้ที่แล้วค่อนข้างละเอียดแล้วอ่ะครับ แต่พี่มาเปิดกระทู้นี้อีกครั้งในประเด็นเดิม
ผมรู้สึกไม่ดีเลยอ่ะครับ หรือผมไม่น่าเชื่อถือครับ และเครื่องที่พี่ใช้อยู่ ผมก็ใช้อยู่เช่นกัน ผ่านการยำมาสารพัด แต่คำตอบก้ไม่ได้ช่วยอารัยเลย
ต่อไปคงแค่มาดูแล้วผ่านเหมือนที่เคยเป็นดีกว่าครับ
...ขอบคุณครับ
ถ้าทำให้รู้สึกไม่ดีขอโทษด้วยนะครับ
ผมแค่อยากได้รูป อ่ะครับ
ที่มาโพทย์เพราะอยากเป็นรูป มาก ๆ เลยอ่ะครับ
ตอนนี้ จับต้นชนปลายไม่ถูก ถึงเรื่องลักษณะเจ้าตัวปั๊มติ๊กน่ะครับ
แล้วเจ้าติ๊กเดิม ของCorsa เวลาถอดออกมาแล้วเป็นยังไง
แล้วเจ้าตัวใหม่ใส่ไป จะเป็นยังไงแค่นั้นครับ
ไม่ได้มีเจตนาอะไรมากมายหรอกครับ
ตอนนี้ กล้า ๆ กลัว ๆ ใน ตอนถอดน่ะครับ
แบบว่า ช่างมือใหม่อ่ะครับ
-
ตอบพี่กบ อีกทีนะครับ ว่า พี่ถามกระทู้ที่แล้วค่อนข้างละเอียดแล้วอ่ะครับ แต่พี่มาเปิดกระทู้นี้อีกครั้งในประเด็นเดิม
ผมรู้สึกไม่ดีเลยอ่ะครับ หรือผมไม่น่าเชื่อถือครับ และเครื่องที่พี่ใช้อยู่ ผมก็ใช้อยู่เช่นกัน ผ่านการยำมาสารพัด แต่คำตอบก้ไม่ได้ช่วยอารัยเลย
ต่อไปคงแค่มาดูแล้วผ่านเหมือนที่เคยเป็นดีกว่าครับ
...ขอบคุณครับ
ถ้าทำให้รู้สึกไม่ดีขอโทษด้วยนะครับ
ผมแค่อยากได้รูป อ่ะครับ
ที่มาโพทย์เพราะอยากเป็นรูป มาก ๆ เลยอ่ะครับ
ตอนนี้ จับต้นชนปลายไม่ถูก ถึงเรื่องลักษณะเจ้าตัวปั๊มติ๊กน่ะครับ
แล้วเจ้าติ๊กเดิม ของCorsa เวลาถอดออกมาแล้วเป็นยังไง
แล้วเจ้าตัวใหม่ใส่ไป จะเป็นยังไงแค่นั้นครับ
ไม่ได้มีเจตนาอะไรมากมายหรอกครับ
ตอนนี้ กล้า ๆ กลัว ๆ ใน ตอนถอดน่ะครับ
แบบว่า ช่างมือใหม่อ่ะครับ
ได้คุยกับพี่กบแล้วครับ ผมขอโทษพี่กบด้วยครับ ที่แรงไปอ่ะครับ ผมแค่หวังดีไม่อยากให้พี่ทำรถแล้วเกิดปัญหาในภายหลังเท่านั้นอ่ะครับ เลยจริงจังไปหน่อยครับผม
ตอนนี้ Happy Happy กันแล้วครับป๋ม :-* :-* :-*
-
พี่ก็ได้ยินมาอย่างกุ้งอะ ปั๊มแค่ช่วยให้แรงดันน้ำมันเพิ่มขึ้นนะครับ แต่ลองเปลี่ยนแล้วของ J Bo อาการที่เป็นก็ไม่หายอะครับ โดนไป 1500
ผมก็คิดแบบนี้จิงๆอ่ะพี่ซิ้น เพราะถ้าคิดง่ายๆนะ ถ้าเปลี่ยนแค่ติ๊กแล้วได้น้ำมันเพิ่ม ก็ไม่จำเป็นต้องใส่กล่องพ่วง หรือฝังหัวฉีดเพิ่มอ่ะครับ จิงไม๊พี่
ผมเลยคิดว่า คิ๊กมันเป็นตัวช่วยแรงดัน ให้มันดูดน้ำมันไปที่หน้ารถให้ไวขึ้นแรงขึ้น เพื่อไปจ่ายน้ำมันให้ทันกับหัวฉีดเท่านั้นเองอ่ะครับ
อ่อ แล้วเครื่อง 4E bo มันจำเป็นต้องมีแรงดันที่ราง อย่างน้อย3บาร์อ่ะครับ ไม่งั้น ลากรอบไม่ได้อ่ะครับ
-
ปั๊มติ๊กที่แรงดันสูงขึ้น น่าจะทำให้อัตราการจ่ายน้ำมันจากปั๊มมากขึ้นด้วยครับ เมื่อน้ำมันปริมาณมากขึ้น แรงดันสูงขึ้นผ่าน regulator ก็จะทำให้แรงดันน้ำมันเป็นไปตามต้องการ ส่วนน้ำมันที่มีอัตราจ่ายมากขึ้นซึ่งเกินมานั้นก็จะไหลเข้าสู่ท่อน้ำมันกลับถัง นั่นแสดงว่าปริมาณน้ำมันไหลเวียรในระบบท่อน้ำมันมากขึ้น
ที่นี้น้ำมันหายไปไหน ทำให้กินน้ำมันมากขึ้นทั้งที่หัวฉีดก็จ่ายน้ำมันเท่าเดิม ก็น่าจะสมมติฐานว่าอาจเกิดการระเหยในระบบท่อส่ง และท่อกลับของน้ำมันนะครับ
เรื่องนี้ตัวผมเองก็ยังไม่ได้พิสูจน์จากการทดลองจริง เป็นเพียงข้อสังเกตส่วนตัวครับ จริงแล้วลองพิจารณาเรื่องนี้กันจริงๆ จังๆ กันซักทีก็ดีครับ
ปั๊มติ๊กที่ดีน่าจะมีสเปกใกล้เคียงกับของเดิม ซึ่งก็คือ แรงดัน และ อัตราการสูบและจ่ายน้ำมันครับ ใน astra ของผม ผมพบโดยบังเอิญว่าของ Nissan Cefiro ดีและประหยัดกว่า
ส่วนคุณหนานมา ใช้ของมิซซู ถ้าจำไม่ผิดครับ
ส่วนจุก ใช้ของ honda CRV กับ corsa ครับ
ส่วนเรื่องรูป ลองหาดูกระทู้คุณหนานมา ใน FAQ ก็ได้ครับเห็นมีหลายกระทู้
-
ปั๊มติ๊กที่แรงดันสูงขึ้น น่าจะทำให้อัตราการจ่ายน้ำมันจากปั๊มมากขึ้นด้วยครับ เมื่อน้ำมันปริมาณมากขึ้น แรงดันสูงขึ้นผ่าน regulator ก็จะทำให้แรงดันน้ำมันเป็นไปตามต้องการ ส่วนน้ำมันที่มีอัตราจ่ายมากขึ้นซึ่งเกินมานั้นก็จะไหลเข้าสู่ท่อน้ำมันกลับถัง นั่นแสดงว่าปริมาณน้ำมันไหลเวียรในระบบท่อน้ำมันมากขึ้น
ที่นี้น้ำมันหายไปไหน ทำให้กินน้ำมันมากขึ้นทั้งที่หัวฉีดก็จ่ายน้ำมันเท่าเดิม ก็น่าจะสมมติฐานว่าอาจเกิดการระเหยในระบบท่อส่ง และท่อกลับของน้ำมันนะครับ
เรื่องนี้ตัวผมเองก็ยังไม่ได้พิสูจน์จากการทดลองจริง เป็นเพียงข้อสังเกตส่วนตัวครับ จริงแล้วลองพิจารณาเรื่องนี้กันจริงๆ จังๆ กันซักทีก็ดีครับ
ปั๊มติ๊กที่ดีน่าจะมีสเปกใกล้เคียงกับของเดิม ซึ่งก็คือ แรงดัน และ อัตราการสูบและจ่ายน้ำมันครับ ใน astra ของผม ผมพบโดยบังเอิญว่าของ Nissan Cefiro ดีและประหยัดกว่า
ส่วนคุณหนานมา ใช้ของมิซซู ถ้าจำไม่ผิดครับ
ส่วนจุก ใช้ของ honda CRV กับ corsa ครับ
ส่วนเรื่องรูป ลองหาดูกระทู้คุณหนานมา ใน FAQ ก็ได้ครับเห็นมีหลายกระทู้
ขอบคุณครับ จำไว้ใส่คราวหน้า อิอิ
-
:มั้ง: การใช้ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีการสร้างแรงดันน้ำมันสูงกว่าของเดิมมาก มีผลให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่าเก่า
น่าจะเกิดจากสาเหตุนี้ครับ....
ถึงแม้ว่า...ในระบบการส่งน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีเรคกูเลเตอร์ก้อตาม แต่ว่ามันก้อทำงานได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
มันจึงทำให้เกิดแรงดันน้ำมันในระบบมากกว่าปกติ
เพราะฉนั้นในขณะที่หัวฉีดยกเวลาเท่ากันกับปั๊มเดิมๆ จึงทำให้มีการจ่ายน้ำมันมากกว่ากัน
ส่วนที่ว่าแล้วทำไมโอทูไม่แสดงอาการฟ้อง...ผมคิดว่า...มันยังอยู่ในขอบเขตที่ยังพอยอมรับได้
เพียงแต่มันอยู่เกือบๆหลุดขอบ และเราน่าจะได้กลิ่นเบนซิลหน่อยๆเวลาติดเครื่องน่ะครับ...
ลองดมๆดู
-
ปั๊มติ๊กที่แรงดันสูงขึ้น น่าจะทำให้อัตราการจ่ายน้ำมันจากปั๊มมากขึ้นด้วยครับ เมื่อน้ำมันปริมาณมากขึ้น แรงดันสูงขึ้นผ่าน regulator ก็จะทำให้แรงดันน้ำมันเป็นไปตามต้องการ ส่วนน้ำมันที่มีอัตราจ่ายมากขึ้นซึ่งเกินมานั้นก็จะไหลเข้าสู่ท่อน้ำมันกลับถัง นั่นแสดงว่าปริมาณน้ำมันไหลเวียรในระบบท่อน้ำมันมากขึ้น
ที่นี้น้ำมันหายไปไหน ทำให้กินน้ำมันมากขึ้นทั้งที่หัวฉีดก็จ่ายน้ำมันเท่าเดิม ก็น่าจะสมมติฐานว่าอาจเกิดการระเหยในระบบท่อส่ง และท่อกลับของน้ำมันนะครับ
เรื่องนี้ตัวผมเองก็ยังไม่ได้พิสูจน์จากการทดลองจริง เป็นเพียงข้อสังเกตส่วนตัวครับ จริงแล้วลองพิจารณาเรื่องนี้กันจริงๆ จังๆ กันซักทีก็ดีครับ
ปั๊มติ๊กที่ดีน่าจะมีสเปกใกล้เคียงกับของเดิม ซึ่งก็คือ แรงดัน และ อัตราการสูบและจ่ายน้ำมันครับ ใน astra ของผม ผมพบโดยบังเอิญว่าของ Nissan Cefiro ดีและประหยัดกว่า
ส่วนคุณหนานมา ใช้ของมิซซู ถ้าจำไม่ผิดครับ
ส่วนจุก ใช้ของ honda CRV กับ corsa ครับ
ส่วนเรื่องรูป ลองหาดูกระทู้คุณหนานมา ใน FAQ ก็ได้ครับเห็นมีหลายกระทู้
ขอบคุณครับ จำไว้ใส่คราวหน้า อิอิ
อย่างของเสี่ยพี่ออซคงม่ะต้องสนใจจำหรอกมั๊งครับ ทุนหนาซะขนาดนี้เข้าอู่เปลี่ยนตามใจช่างโลด 8) 8) 8)
-
:มั้ง: การใช้ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีการสร้างแรงดันน้ำมันสูงกว่าของเดิมมาก มีผลให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่าเก่า
น่าจะเกิดจากสาเหตุนี้ครับ....
ถึงแม้ว่า...ในระบบการส่งน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีเรคกูเลเตอร์ก้อตาม แต่ว่ามันก้อทำงานได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
มันจึงทำให้เกิดแรงดันน้ำมันในระบบมากกว่าปกติ
เพราะฉนั้นในขณะที่หัวฉีดยกเวลาเท่ากันกับปั๊มเดิมๆ จึงทำให้มีการจ่ายน้ำมันมากกว่ากัน
ส่วนที่ว่าแล้วทำไมโอทูไม่แสดงอาการฟ้อง...ผมคิดว่า...มันยังอยู่ในขอบเขตที่ยังพอยอมรับได้
เพียงแต่มันอยู่เกือบๆหลุดขอบ และเราน่าจะได้กลิ่นเบนซิลหน่อยๆเวลาติดเครื่องน่ะครับ...
ลองดมๆดู
ก็มีส่วนครับ กรณีผมหาข้อสรุปไม่ได้เพราะตอนนั้นระบบน้ำมันผมมันไม่สมบรูรณ์
-
ขอบคุณครับ จำไว้ใส่คราวหน้า อิอิ
[/quote]
อย่างของเสี่ยพี่ออซคงม่ะต้องสนใจจำหรอกมั๊งครับ ทุนหนาซะขนาดนี้เข้าอู่เปลี่ยนตามใจช่างโลด 8) 8) 8)
[/quote]
เดี๋ยวนี้เค้าพัฒนาแล้ว อะไรที่ใช้ได้ คุณภาพใกล้เคียง เราก็ไม่เห็นจะต้องจ่ายแพง ชิมิ 8) 8) 8)
-
ต้องหาคำตอบให้ได้ อยากรู้เจงๆ เดี๋ยวต้องเข้าไปถามกูรูซักวันละ ได้ผลเช่นไรจะมาบอกเล่าครับผม
-
ใช้ตัวนี้อยู่ค่ะ ใน corsa 4efte อัตราสิ้นเปลือง 12 โล/ลิตร อัตราเร่ง 100-140 (ที่สำคัญต้องวายริ่งสายไฟให้สมบุรณ์ค่ะ )
:) :) :)
-
Regulator เดิมๆ มันเอาอยู่แค่ระดับนึงครับ
เช่นของเดิมปั้มสร้างแรงดันได้ 3 บาร์ เร็กลดเหลือ 2 บาร์ >> ออกแบบมาแบบนี้
เปลี่ยนปั้มใหม่ 5 บาร์ เร็กเดิมปวดตับ ลดเหลือ 2 บาร์ แต่ลดได้อยู่เดือนกว่าๆ ก็ลาโลกไป คราวนี้เ้ข้า 5 บาร์เต็มๆเท้า
หัวฉีดใช้เวลายกเท่าเดิม 2 บาร์กับ 5 บาร์ ปริมาณน้ำมันต่างกันครับ
O2 ตรวจพบ สั่งหัวฉีดลดเวลายก แต่ต่อให้เร็วขึ้นแค่ไหน แต่แรงดันมันเปลี่ยนไปมากครับ ลดเวลายังไงมันก็ยังหนาอยู่ดี
ผลเปลืองน้ำมัน ...
-
ลองเช็คง่ายๆดูครับ จากท่อน้ำมันใหลกลับหาขวดเปล่าๆมารองไว้แล้วบิดสวิทกุญแจถ้าเสียน้ำมันใหลกลับจะใหลออกน้อยมากหรือแทบไม่ออกเลย ถ้าไม่เสียจะใหลปรกติ
ค่อนข้างแรงแล้วแต่ติ้ก ส่วนใช้ติ้กอะไรนั้นขอให้ใกล้เคียงกับของเก่าเช่นฮอนด้า มิตซุ j bo jธรรมดา ช่างชอบใช้เพราะแปลงง่ายและแรงดี วิ่งดี ลูกค้าชอบ
ส่วนกินกว่าเดิมใหม อันนี้ขอเรียบเรียงคำพูดก่อนเพราะค่อนข้างยาว มันเกี่ยวกับ ส่วนต่างของregulateและแรงดันของติ้กครับ :มั้ง: :มั้ง:
-
Regulator เดิมๆ มันเอาอยู่แค่ระดับนึงครับ
เช่นของเดิมปั้มสร้างแรงดันได้ 3 บาร์ เร็กลดเหลือ 2 บาร์ >> ออกแบบมาแบบนี้
เปลี่ยนปั้มใหม่ 5 บาร์ เร็กเดิมปวดตับ ลดเหลือ 2 บาร์ แต่ลดได้อยู่เดือนกว่าๆ ก็ลาโลกไป คราวนี้เ้ข้า 5 บาร์เต็มๆเท้า
หัวฉีดใช้เวลายกเท่าเดิม 2 บาร์กับ 5 บาร์ ปริมาณน้ำมันต่างกันครับ
O2 ตรวจพบ สั่งหัวฉีดลดเวลายก แต่ต่อให้เร็วขึ้นแค่ไหน แต่แรงดันมันเปลี่ยนไปมากครับ ลดเวลายังไงมันก็ยังหนาอยู่ดี
ผลเปลืองน้ำมัน ...
อันนี้ก็มีเหตุผลครับ กินมากกว่าหรือน้อยกว่า คงต้องดูที่น้ำมันไหลกลับถังแล้วหละแบบที่จับเวลาแล้วตวงปริมาตรน้ำมันเอา
แต่ที่แน่ๆ regulator และหัวฉีดผมก็พังครับ
แต่ไม่รู้ว่าเป็นที่น้ำมัน E20 ที่ทดลองเติมปีกว่าๆ หรือว่าปั๊ม j ที่เพิ่งเปลี่ยนหลังจากปั๊มติ๊กเดิมพัง
อย่างที่บอกครับกรณีผมมันวิเคราะห์อะไรไม่ได้เพราะมันพังทั้งระบบ ระบบท่อส่งและกลับของน้ำมันผมก็แตกลายงาครับตอนนั้น เลยสงสัยก่อนว่ามันระเหยจากระบบท่อ
-
ง่า ใช้มาตั้งนานไม่เคยสังเกตุเลยแฮะ ได้รถมาก็รื้อกระจายไปแว้ว by พี่เอ
อ่อ ผมมีปั้มเหลือของ 2j bo 1 ตัวนะครับ ถ้ายังไม่ได้ซื๊อใหม่ เสนอราคามาโลด
เนื่องจากตอนนั้น นึกว่าปั้มพังเลยไปซื้อไว้ แล้วไม่ได้ใช้
-
เท่าที่ผมเข้าใจนะ...
เคยได้ยินพวกรถ NA บางคันบอกว่า เปลี่ยน ติ๊ก J bo แล้ว รถพุ่งขึ้น.....
น่าจะเป็นเรื่อง ตามที่บอมบ์ว่ามาฮะ แรงดันในระบบมันมากขึ้น เพราะว่า เรคมันเอาไม่อยู่ นึกถึง ลมยางก้ได้ครับ เวลาที่ แรงดันลมยางอ่อนๆ กด มันก็มีลมออกมา ฟิ๊ดเดียว แต่ถ้าแรงดันลมยางเยอะๆ มันออกมาโคตรแรงเลย... มันก็ได้ในระดับนึงครับ ดีกว่าเดิมไม่ก็อาจจะเป็นเพราะว่า ป้มเดิมม้นใกล้เน่าแล้ว พอเปลี่ยนของดีๆ มันเลยดีขึ้นแบบเห็นได้ชัด
แต่ไม่ใช่ว่า เปลี่ยนไปอย่างเดียวแล้วมันจะแรงนะครับ
อีกสมมุติฐานนึงของผม... สงสัยว่าตอนที่น้ำมันมันไหลกลับถัง มันไหลแรงมาก ทำให้น้ำมันกลายเป็นไอมาก ระเหยง่าย.... หรือเปล่าไม่รู้.... ตอนก่อนหน้านี้ ผมก็ใช้ปั้ม เดนโซ่ จากรถอะไรไม่รู้ ราคา 300 บาท...
แล้วก็ของพี่กบ... ทำได้เลยพี่... ถ้าพี่มี คีมปากเล็ก ไขควง อะไรพวกนั้นพร้อมนะครับ... ไม่ยากครับ ผมเองก็เคยรื้อมาเล่นๆ ;D ;D ;D
ของผมก็พังแบบเดียวกับ อ.หน่าเลย... หัวฉีดรั่ว... ท่อละลาย ปั้มรวน... ยกชุด.. :น้ำร้อน: :ไม่:
-
ตามที่อ.หน่า นายบอมบ์ นายต้นว่ามาแระ..
อัดดีไม่มีสะดุด แต่น้ำมันหายเร็วขึ้น
Gsi ของผม ยัดปั๊ม J ขับไปต่างจังหวัดเห็นชัดเลย ถึงขีดแดงเร็วกว่าเดิม
สมมุติว่าเติม 25 ลิตร มันวิ่งได้แค่ 350 กมเอง...
จากเดิม ใช้ของตรงรุ่น เป็น Bosch วิ่งต่างจังหวัด 25 ลิตรวิ่งได้ 400 กว่ากม.
ลองคิดดูดิ ถ้าวิ่งในกทม. ปรกติ 25 มันทำได้แตะ 250 กม.
แต่ปั๊ม J ซัดเหลือแค่ 170-180 กม.เอง
ผมว่าจะปรับเท้าตัวเองแล้ว แต่ทำไม่ได้..
ตอนนี้ก็เลย ไม่สนแล้ว กินแก๊สแล้ว..
ถ้าจะข้ามไปเล่นของยี่ปุ่น ผมว่า หาของ Corola หรือ Lancer ดีกว่า..
แปลงเหมือนกัน ราคาถูกกว่ากันเยอะ (ก็หลักร้อยแระ) แต่เซฟกว่า
ส่วนการแปลง ปั๊ม J มันจะอ้วนสั้นกว่านิดหน่อย ก็แปลงแค่สายไฟครับ
ส่วนกรองใช้ของเดิม ..
-
ใช่ครับ ใช้กรอง ปั้มเดิมเราฮะ เปลี่ยนแต่ปั้ม....
ถ้า จะทำให้มันแรงขึ้น ก็ใส่ j b0 ครับ(ค่าน้ำมันก็ตามที่เล่าๆกันมา) ถ้าเอาวิ่งปรกติ ก็ เอาตัวอื่น
ตอนนี้เราคงได้ข้อมูลพื้นฐานมาก่อนว่า เปลี่ยนใส่ J bo แล้ว น้ำมันมันหมดเร็วขึ้น แต่ยังหาสาเหตุชวร์ๆไม่ได้เท่านั้นเองครับ :ไม่:
-
แต่พี่ว่า ระวังๆกันก่อนก็ดี ก็ลองใช้ของ Corolla ดูก่อน เพราะเครื่องมันสูสีกัน 1400-1500 อ่ะนะ
-
โอววว ความเห็นน่าสนใจได้ความรู้เยอะเลยครับ แต่อย่างว่าอ่ะครับ เอาเฉพาะกรณ๊รถของพี่กบเท่านั้นนะครับ
คือยังงัยผมก็แนะนำ ฟันธง ในใส่ J Bo เพราะ พี่เค้าใช้เน้นแก๊สสสส น้ำมันแค่สตาร์ทเท่านั้น
แต่ถ้าอยากสนุกในบางอารมณ์กับเครื่อง 4E-FTE แล้วเล่นน้ำมันล่ะก็ ติ๊กรถบ้านไม่ทันไม่แน่นอนครับ ซัดถึง5000รอบก็ออกอาการแล้ว หมดสนุกแน่นอน
ห้ามไม่ได้หรอกครับ ว่าจะไม่เหยียบในเมื่อเครื่องมันมีแรงบิดมันวิ่งได้ถึง200 จริงไม๊ครับ สาวก4Eทั้งหลาย
ติ๊ก J กับเครื่อง4E ผมว่ามันเกิดมาคู่กันนะ(สำหรับคนงบน้อยอย่างผม) รถ4Eเกือบทั้งประเทศเค้าก็ใช้แบบนี้อ่ะครับ เงินเหลือหน่อยเค้าก้ไป walbro หรือBosch กันอ่ะครับ
... แต่ถ้าเครื่องทั่วๆไปแล้วล่ะก็ ติ๊กกะโหลกกะลาอารัยก็ใส่ไปเถอะครับ ได้หมดแหล่ะขอให้มันใกล้เคียงกับของเดิมก็เป็นพอแล้วครับ
ส่วนไอ้เรื่องกินน้ำมันมากขึ้น ก็คงต้องยอมรับครับ แต่ยังงัยผมก็ยังรับได้นะกับการที่มันได้อัตราเร่งที่ดีกว่าเดิม และคงไม่ไ่ด้กินเป็นเทน้ำเทท่าอย่างที่หลายท่านเข้าใจ
ส่วนตัวคิดว่ามันไม่น่าเกิน10%ด้วยซ้ำครับ ผมใช้มาตั้งนานแล้ว ยังงัยก็12-14กิโล/ลิตร แค่นี้ผมก็Happy กับอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของเครื่องเทอร์โบแล้วครับ
-
คงตามที่พี่นุ่นว่ามาครับ...
ถ้าวางเครื่อง 4e fte มาแล้ว... ใส่ติ๊ก j bo ได้เลยครับ... เหลือนิดหน่อยดีกว่าขาด :)
แต่ว่า ถ้าเป้นรถบ้านเครื่องเดิม... อย่าไปคิดว่ามันจะดีกว่าเดิมครับ... อาจจะได้ทำระบบน้ำมันใหม่จริงๆ :o
-
ของผมเคยใส่ครับ(ของผม1.4 c14nz 8v.ครับ...เดิมๆ :-[ )เคยลองมาใส่เนื่องจากปั้มเก่าสิ้นใจคาถัง
ใส่่แรกๆก็มันส์ขึ้นนิดหน่อย แต่กินน้ำมันแบบว่า" เครื่อง13Bแทบอาย "ก็เลยถอดออกครับ
ปัจจุบันใช้ของ 3SGE อยู่ครับกำลังดี3บาร์เท่าเดิมแต่รู้สึกว่า ลิตร/นาที จะมากกว่าซึ่งหมายความว่าจะกินน้ำมันมากกว่าของเดิมครับ(แต่ก็ขับสนุกกว่าเดิมด้วยนิดหน่อยครับ :))
-
ของผมเคยใส่ครับ(ของผม1.4 c14nz 8v.ครับ...เดิมๆ :-[ )เคยลองมาใส่เนื่องจากปั้มเก่าสิ้นใจคาถัง
ใส่่แรกๆก็มันส์ขึ้นนิดหน่อย แต่กินน้ำมันแบบว่า" เครื่อง13Bแทบอาย "ก็เลยถอดออกครับ
ปัจจุบันใช้ของ 3SGE อยู่ครับกำลังดี3บาร์เท่าเดิมแต่รู้สึกว่า ลิตร/นาที จะมากกว่าซึ่งหมายความว่าจะกินน้ำมันมากกว่าของเดิมครับ(แต่ก็ขับสนุกกว่าเดิมด้วยนิดหน่อยครับ :))
เครื่อง C14NZ ตามข้อมูลที่มี มันบอกว่า
แรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงในระบบโดยไม่มีแวคคั่ม ประมาณ 0.7 bar
เพราะฉนั้นคิดว่า ใช้ปั๊มที่สร้างแรงดันสัก 1 - 2 bar ก้อน่าจะเพียงพออ่ะครับ... :มั้ง: :มั้ง: :มั้ง:
-
หาของ Corola แระ ถูกที่สุด หรือไม่ก็ลองสอบถามดูของ Daewoo..
หรือ ถ้า Aveo มีของถูกๆ พันกว่าบาท ก็ลองเอามาใช้ดู
-
ผมดู http://www.v6calibra.net/V6_Calibra_Guide.htm
ตรงที่
V6 Injectors
Bosch, Type 0-280-150-428
Flow = 196 to 220 cc/min @ 3 bar (100% duty cycle)
Impedance = 16 ohm
BHP rating (each inj) = 26-34 bhp (42 peak)
6 injectors combined flow rate : 70 to 79 ltrs/hr
เนี้ยครับ ของเครื่องv6
รถบ้านๆ ไม่แน่ใจว่าจะหา ค่าจ่ายแรงดันได้ต้องการหรือไม่..
เอาเป็นว่า เอาของ เดิมไปเทียบขนาดเอาแล้วกันครับ ฮอนด้า เดนโซ่ มิซู อะไรก็ได้ครับที่มาจากรถ cc ไม่เกิน 2000 na ครับ :)
-
มาเสริมครับ จริงๆใส่ของ J Bo ก็ได้ครับ มันถูกดีแต่ว่า ... ผมแนะนำให้เปลี่ยนเร็กด้วยครับ
หาเร็กซิ่งมาใส่ มันจะได้ลาโลกยากขึ้น แล้วก็ปรับแรงดันได้ด้วยครับ จะเอาสองบาร์ สามบาร์ จัดไป
คราวนี้ ทั้งแรง ทั้งประหยัด ฟันเฟริม !!! (แต่ไม่ประหยัดตอนซื้อเร็กนี่แหละ)
สำหรับเครื่องเดิมๆ ถ้าเอาติ๊ก J Bo ยัดเข้าไป ไม่นานครับ เร็กจะลาโลกไปอย่างรวดเร็ว หรือว่าคันไหนใส่ติ๊ก J BO แล้วพบว่ากินน้ำมันเหมือนเททิ้่ง ตรวจสอบเร็กก่อนเลยครับ เอาเร็กซิ่งใส่ ประหยัดเหมือนเดิม