OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
Opel in Talks => General Discussion => Topic started by: aor on 17 Aug 2010, 18:30
-
เขาสร้างตัว prototype ของ Opel Ampera ออกมาแล้ว เห็นว่าสิ้นปี 2011 จะเริ่มผลิต
-
พลังงานไฟฟ้าหรอครับ เห็นรูปแรกเหมือนจะเสียบปลั๊ก
-
พลังงานไฟฟ้าหรอครับ เห็นรูปแรกเหมือนจะเสียบปลั๊ก
- Opel Ampera ขับเคลื่อนโดยใช้กระแสไฟฟ้าครับ แต่เมื่อแบตเตอรี่ใกล้จะหมด generator (เครื่องปั่นไฟ-ใช้น้ำมัน) จะทำงาน
เพื่อชาร์ทไฟเข้าแบตฯ ต่อไป เขาว่าแล่นได้ประมาณ 500 กม. จนกว่าจะไปเสียบปลั๊กชาร์ทไฟใหม่ครั้งใหม่ ไฟบ้านเลยครับ
- ถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งคนเยอรมันโดยทั่วไปจะขับรถเฉลี่ยกันวันละไม่เกิน 50 กม. ใช้แบตฯ แบบ lithium-ion กว่า 200 ยูนิต ค่าใช้จ่าย (ความประหยัด) คิดเป็น 1 ใน 6 ของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง เครื่องยนต์ให้กำลัง 150 แรงม้า
อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 161 กม./ชม.
-
ราคาแบตฯจะลูกเท่าไรอ่ะครับ แล้วแบตสามารถใช้งานได้กี่ปี เค้ามีบอกไว้ป่ะครับพี่อ้อ
กอล์ฟ กลัวแบบแคมรี่ ไฮบริดอ่ะครับ ราคาหนาวเลย
-
ไม่ต้องกลัวครับกอล์ฟ ของมันแน่นอนอยู่แล้ว
รอเซลล์แบ็ตของจีนสำเร็จก่อน.. แต่ยังงัยๆ ก็ไม่น่าไว้ใจอีกแระ
-
นี่...น่าจะเปน concept สังเกตุที่ ตา.. :D :D :D
-
ไม่ต้องกลัวครับกอล์ฟ ของมันแน่นอนอยู่แล้ว
รอเซลล์แบ็ตของจีนสำเร็จก่อน.. แต่ยังงัยๆ ก็ไม่น่าไว้ใจอีกแระ
พี่ชายกอล์ฟตอนแรกไปจอง เจอราคาแบตฯเข้าไป ยกเลิกจองเลย ตอนนี้ไปเอาเทียน่า V6 2500 มาแทน
-
เท่ โค_ตระ :จุก: :จุก: :จุก:
-
รวยเมื่อไหร่จะเอามาขับแบบไม่คิดเลย 555
-
- ต้องเข้าใจก่อนว่า Ampera ไม่ใช่รถยนต์ประเภท Hybrid (ที่ยังคงวิ่งด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน) แต่เขาระบุว่าเป็น E-REV (extened range electric vehicle) ซึ่งขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ไฟฟ้า แต่ก็ต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าทั่ว ๆ ไป เพราะ Ampera
มีเครื่องปั่นไฟพ่วงเข้ามาด้วย เพื่อชาร์ทแบตฯ เพิ่มเติม ทำให้วิ่งได้ระยะทางมากขึ้น (หาก Ampera วิ่งภายในระยะทาง 60 กม.
ก็ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงแต่อย่างใด กินแต่ไฟฟ้าเท่านั้น)
- Ampera น่าจะเป็น trend ของรถยนต์ในอนาคตที่ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมโลกได้อย่างดี และลดการใช้เชื้อเพลิงประเภทฟอสซิล
ค่าตัวรถอาจแพงกว่าปกติ แต่ก็หมายความว่าเงินที่เสียไปช่วยให้สภาพแวดล้อมดีขึ้น มันเป็นความหมายในทาง public conscience
ซึ่งฝรั่งเริ่มตื่นตัวกันมากขึ้น (และหวังว่าคนไทยจะเริ่มคิดกันบ้าง)
- ถ้าจะเทียบต้นทุนกันแล้ว ก็แน่นอนว่าต้นทุนรถยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงก็ยังถูกกว่า แต่ประเด็นก็น่าจะเป็น environment awareness ลองดูอย่างเรื่องโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่ประเทศไทยมีแผนจะก่อสร้างแน่นอนภายในอีก 10 ปีข้างหน้า ด้วยคำนึงถึงเพียงต้นทุนเป็นหลัก แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าเทียบกับแหล่งกำเนิดพลังงงานอย่างอื่น อาทิ น้ำ แล้ว ปรากฏว่าเงินหมุนเวียนอยู่ภายในประเทศมากกว่า แต่ถ้าเป็นโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ เงิน 80% ออกไปนอกประเทศครับ แล้วไหนจะเรื่องความปลอดภัยและการกักเก็บกากกัมมันตภาพรังสีที่อันตรายร้ายแรง (ทำลายไม่ได้) อีก เท่าที่ทราบพลังงานจากลมมีต้นทุนที่สูงสุดต่อหน่วย แต่สะอาดและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ส่วนเรื่อง Ampera สำหรับเรา ๆ ท่าน ๆ ในประเทศไทย ก็คงได้ขับแต่เพียงในฝันเท่านั้นมังครับ