OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
Opel in Talks => Alternative Fuel Discussion (LPG & CNG) => Topic started by: youth on 14 Sep 2010, 18:07
-
esavecar เทคโนโลยีประหยัด มาให้วินิจฉัยกันอีกอันครับ ตามลิ้งค์ครับ
http://www.esavecar.com/index.html
-
ยังไม่เข็ดอีกหรอครับ ความวัวไม่ทันหาย ความควายจะมาแทรกเอานะครับพี่ 8) 8) 8)
-
ทาง อีแซ่บคาร์ มีเบอร์โทร ของน้าหมอหรือยังครับ :มั้ง: ถ้ายังไม่มีช่วยจัดให้ปะ .......
-
8) 8) 8) ก็อยากรู้ว่ามันจะมีของที่ใช้ได้แล้วมีประโยชน์จริงมั่งมั๊ย 8) 8) 8) 8) 8)
-
เดี๋ยวผมเอาเบอร์พี่น้าหมอให้เค้าไปเลยดีกว่า 8) 8) 8) 8)
-
จ่ายน้ำมันน้อยลงแล้วมันจะพอต่อความต้องการของเครื่องยนต์มั้ยครับเนี่ย
-
ม่ะเอาแย้ว....เข็ดแย้วอ่ะ :สำนึก: :สำนึก: :สำนึก:
-
เท่าที่ผมเข้าไปอ่านหลักการทำงานคร่าวๆของอุปกรณ์เหมือนว่า อุปกรณ์ตัวนี้เข้าไปทำให้ECU คำนวณการจ่ายน้ำมันน้อยลง
เมื่อน้ำมันน้อยลงแต่อากาศเท่าเดิม Air/Fuel ratio มันก็จะบาง
ซึ่งถ้ามันบางเกินไปมันก็น่าจะส่งผลในระยะยาวต่อเครื่องยนต์
สงสัยคงต้องรอให้น้าหมอมาตอบอีก ;D ;D ;D
-
เห็นสีของ เวบแล้ว.... ไม่ต้องดูระบบการทำงานแล้วฮะ...
เหมือนเดิมอีกล่ะ... :P
-
เท่าที่ผมเข้าไปอ่านหลักการทำงานคร่าวๆของอุปกรณ์เหมือนว่า อุปกรณ์ตัวนี้เข้าไปทำให้ECU คำนวณการจ่ายน้ำมันน้อยลง
เมื่อน้ำมันน้อยลงแต่อากาศเท่าเดิม Air/Fuel ratio มันก็จะบาง
ซึ่งถ้ามันบางเกินไปมันก็น่าจะส่งผลในระยะยาวต่อเครื่องยนต์
สงสัยคงต้องรอให้น้าหมอมาตอบอีก ;D ;D ;D
ไม่ยาวครับ . . .. . ถ้าเป็นเครื่องเทอโบอย่างรถผมอ่ะ ลูกสูบแตกครับ
-
ส่วนผสมบาง ก็แค่ ...
- ความร้อนในห้องเผาไหม้สูงกว่าปกติ
- เครื่องพังเร็วขึ้น เพราะอุปกรณ์ในห้องเผาใหม้พังเร็วขึ้นจากสาเหตุข้อแรก
- น้ำมันเครื่องพังเร็วขึ้น เพราะสาเหตุจากข้อแรก
- กำลังเครื่องลดลง เพราะจ่ายน้ำมันน้อยกว่าที่เครื่องยนต์ต้องการ
- จากข้อที่แล้ว ทำให้ต้องเหยียบคันเริ่งเพิ่มขึ้น ถ้าต้องการจะให้ได้ความเร็วเท่าเดิม ผลคือจ่ายน้ำมันมากกว่าเดิม หักลบกลบหนี้กันแล้ว อาจไม่แตกต่าง แต่จะได้ข้อดีข้ออื่นๆที่ผมกล่าวมาเป็นของแถม
นับข้อดีได้ห้าข้อแล้ว "ลอง" เลยครับ ที่ผมพูดมาคือทฤษฎี ปฎิบัติยังรอการพิสูจน์ครับ
-
ส่วนผสมบาง ก็แค่ ...
- ความร้อนในห้องเผาไหม้สูงกว่าปกติ
- เครื่องพังเร็วขึ้น เพราะอุปกรณ์ในห้องเผาใหม้พังเร็วขึ้นจากสาเหตุข้อแรก
- น้ำมันเครื่องพังเร็วขึ้น เพราะสาเหตุจากข้อแรก
- กำลังเครื่องลดลง เพราะจ่ายน้ำมันน้อยกว่าที่เครื่องยนต์ต้องการ
- จากข้อที่แล้ว ทำให้ต้องเหยียบคันเริ่งเพิ่มขึ้น ถ้าต้องการจะให้ได้ความเร็วเท่าเดิม ผลคือจ่ายน้ำมันมากกว่าเดิม หักลบกลบหนี้กันแล้ว อาจไม่แตกต่าง แต่จะได้ข้อดีข้ออื่นๆที่ผมกล่าวมาเป็นของแถม
นับข้อดีได้ห้าข้อแล้ว "ลอง" เลยครับ ที่ผมพูดมาคือทฤษฎี ปฎิบัติยังรอการพิสูจน์ครับ
อย่างกรณีของผมน่าจะคล้ายกับที่คุณ ZeaBiscuit บอกนะครับ
toyota คันที่ผมใช้หลักๆติดแก๊สเมื่อประมาณ3ปีที่แล้ว ระบบดูด
ที่นี้ช่างเค้าก็จูนมาก็พอใช้ได้แล้ว ผมอยากลองว่าเราก็ไม่ได้ขับเร็วก็ปรับวาว์ลให้
มันจ่ายน้อยลงเห็นว่ามันก็ประหยัดแก๊สดีนะต่ำกว่า กิโลเมตรละบาทอีก (แอบได้ใจ :-*)
ก็ปรับไปปรับมาจน เหลือซัก กิโลเมตรละ 80-90 สตางค์ได้ แต่ว่าความเร็วปลายขับได้เต็มที่แค่100-120นะ
ใช้ได้อยู่ 2 ปีเศษเกือบๆ 80000 โลครับ เครื่องกินน้ำมันเครื่องมากขึ้นเรื่อยๆ จาก 5000 กิโลเมตร ไม่ต้องเติม ก็เพิ่มเป็น 1/2 ลิตร ,1 ลิตร,2ลิตร ตามลำดับ
จนมาวันนึงเครื่อง ควันท่วมเลยครับ วัดกำลังอัดตกไป 1 สูบ เหลือ 50 psi เปิดฝามาเหมือนว่าแหวนลูกสูบมันตาย :dead: ขูดกระบอกเป็นรอย
ก็เลยวางเครื่องใหม่ 4E-FE ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน(จริงๆก็หักค่าติดแก๊ส+ค่าเครื่องใหม่+ค่าวางแล้วยังกำไรค่าแก๊สอยู่ร่วม 3 หมื่นกว่านะครับจดค่าแก๊สตั้งแต่ติด ซึ่งจริงๆแล้วผมว่าอายุเครื่องควรจะใช้ได้นาน
กว่านี้นะถ้าผมไม่ปรับซะบางเกินไป)
ทุกวันนี้ผมก็เลยปรับแก๊สแบบว่าลองวิ่งความเร็วสูงสุด 160-170 แต่เราวิ่งใช้งานจริง 100-130
อย่างนี้ได้ไหมครับ :มั้ง:
แล้วก็ astra ที่ผมกำลังจะเอาไปติดก็คงให้เค้าจูนปกติแล้วล่ะครับ
-
ลืมบอกไปว่าเครื่องตัวเก่าผมเป็น 2E-12valve 1300 CC. คาบู :)
-
ระบบเชื้อเพลิงมันควรที่จะพอกินพอใช้ครับ... :)
-
แล้วที่ผมปรับแก๊สแบบว่าลองวิ่งความเร็วสูงสุด 160-170 แต่เราวิ่งใช้งานจริง 100-130
ใช้ได้ไหมครับ?
กลัวเครื่องกลับบ้านเก่าอีก :dead:
-
เอาเป็นว่า ลอง จูน ดูให้มัน วิ่งต่างกับน้ำมันน้อยที่สุดฮะ... :)
แต่ถ้าวิ่งได้แบบนั้นก็คงโอเคแล้วมั้งครับ :)
-
จ่ายหนาเกินไปก็ใช่ว่าจะดีนะครับ แม้ว่าจะบบการจ่ายเชื้อเพลิงของ ECU จะสั่งจ่ายหนาก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องจ่ายหนาตลอดเวลา มันสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ อีกอย่าง คือ เคยเจอกับเครื่อง K20A ฝาดำใน CR-V Gen2 อ่ะ ติดแก๊สหัวฉีด แต่ลูกสูบไหม้ แหวนตาย เพราะ อู่จูนหนามาก แล้วที่ตกใจ คือ บนหัวลูกสูบมีรอยคล้ายใยแมงมุม ถ้าพี่บอยไม่บอกว่า คือ คราบขี้แก๊สที่เผาไหม้ไม่หมด พวกผมก็นึกว่าลูกสูบร้าวอ่ะ มันเกาะแน่ เป็นลายขาวๆบนหัวลูกสูบเลย
X16XE ใน Astra 16V. ก็จูนใหม่ 0.81 บาท ครับ ถ้าเครื่องสมบูรณ์ หัวเทียนใหม่ กรองอากาศใหม่ แต่สายหัวเทียนมือสอง กับ คอยต์มือสองของ GM
-
อืม ถ้าถามว่าเท่าไหร่พอดี ผมจะตอบว่าราวๆ 13 กว่าๆ ต่อ 1 ครับ (สำหรับแก๊ส)
หมายถึงใช้ AF Meter วัดนะครับ เรื่องจูนแก๊ส ผมว่าอย่าเดาเลยครับ ขับไปหาร้านที่มี AF ง่ายกว่า 300 บาท ใช้ได้ไปอีกหลายปีเลยครับ
-
อืม ถ้าถามว่าเท่าไหร่พอดี ผมจะตอบว่าราวๆ 13 กว่าๆ ต่อ 1 ครับ (สำหรับแก๊ส)
หมายถึงใช้ AF Meter วัดนะครับ เรื่องจูนแก๊ส ผมว่าอย่าเดาเลยครับ ขับไปหาร้านที่มี AF ง่ายกว่า 300 บาท ใช้ได้ไปอีกหลายปีเลยครับ
แล้วถ้าเป็นแบบ fix mix ควรจะให้ได้ค่า 13 กว่าๆ ต่อ 1 ที่รอบเครื่องเท่าไหร่ดีอ่ะครับ :มั้ง:
-
ไม่ว่าติดแบบไหนแต่ที่รอบเดินเบาหรือช่วงความเร็วคงที่ควรจะได้ซัก 13 กว่าๆ : 1 ครับ (ของน้ำมันจะเป็น 14 กว่า : 1 )
ตอนต้องการกำลังเครื่อง ควรอยู่แถวๆ 11-12 : 1 ครับ
-
A/F Ratio Fuel = 14.7:1 ในช่วงรอบเดินเบา แล้วลดลงไปเรื่อยตามการใช้กำลังเครื่องยนต์ แต่ถ้าต้งการความแรงให้จูนใกล้เคียง 12.5:1
A/F Ratio Gas LPG = 15.4 ตามข้างบนนะครับ เพราะฉนั้น ถ้าเราใช้งานได้จูนได้ 13 กว่าๆ ก็น่าจะโอเค ครับ แต่ต้องใช้ A/F meter trye windbrand นะครับ
-
รับทราบครับ ;)
-
แนะนำว่า ซื้อ thaidriver เล่มล่าสุดมาอ่านครับ รายละเอียดเยอะมาก...
หน้าปกเป็น มาสด้า 3 2 คันนะครับ