OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
Opel in Talks => General Discussion => Topic started by: chaynoi on 08 Apr 2009, 00:10
-
ผลจากการทดลอง คือ นุ่ม หนึบ ได้ดั้งใจแล้วครับ
ความเร็ว 170 + ข้างหลังยังกระโดดนิดหน่อย ทำให้ปัด
เพราะข้างหลังยังเป็น ของเดิมอยู่ครับ แต่ใช้เป็นของ AL KO
คาดว่าอีกสัก สองเดือน มีงบประมาณพอสมควร :สำนึก: :สำนึก:จะเปลี่ยนเป็น
TEIN ทั้ง set ครับ ;D ;D
(ต้องขอบคุณที่ วินเรวดี ที่ modify ให้จนจบครับ)
ก่อนทำคิดว่าคงจะได้ใส่ shock ohlin ซะแล้วแต่จบประมาณหมดครับ
-
ผลจากการทดลอง คือ นุ่ม หนึบ ได้ดั้งใจแล้วครับ
ความเร็ว 170 + ข้างหลังยังกระโดดนิดหน่อย ทำให้ปัด
เพราะข้างหลังยังเป็น ของเดิมอยู่ครับ แต่ใช้เป็นของ AL KO
คาดว่าอีกสัก สองเดือน มีงบประมาณพอสมควร :สำนึก: :สำนึก:จะเปลี่ยนเป็น
TEIN ทั้ง set ครับ ;D ;D
(ต้องขอบคุณที่ วินเรวดี ที่ modify ให้จนจบครับ)
ก่อนทำคิดว่าคงจะได้ใส่ shock ohlin ซะแล้วแต่จบประมาณหมดครับ
เวคบี ช่วงล่างเทพมาแว้วววว :D สุดยอดคับพี่น้องคับ
-
:มั้ง: :มั้ง: :มั้ง: มันเป็นยังงัยอ่ะครับเจ้าเนี่ย...tein
ถ้าจะลงในแอสตร้าแวน...ใช้งบประมาณสักเท่าไหร่อ่ะ... :) :)
-
งบเท่าไหร่อ่ะครับ......... ;)กิเลสเกิดทันทีเลย
-
เอาหน้าหลัง โชคพร้อมสปริง ไม่ว่ารุ่นใด ต้องมีในมือ 15000 - 16000 อ่ะครับ ผมถามมาหลายที่ก็ราคานี้
แต่ก่อนทำต้องเข้าใจก่อนนะครับว่ามันไม่ใช่ของตรงรุ่น แต่ร้านเค้าจะเอาลักษณะใกล้เคียงและ ขนาด + ชนิดรถใกล้กันมาแปลงให้
ตอนนี้ผมรอดู Tein คันที่2 อยู่ Corsa นู๋สำลี ของเก๋ กะ พี่กุ้ง & น้อง 9 ที่กะลังจะลงเร้วๆนี้ กับคันแรกของพี่ ชาย คือข้างบนนี้
แล้วก็ พี่หนานครับ รถผมก็ astra van นะ คันที่จะลง Tein กะ MV6 เนี่ย ผมยังชั่งใจอยู่เลยว่า X20XEV หรือ X25XE mv6 ดี
ว่าแต่ พี่ชาย ทำงาน กฟผ. นี่ฝ่ายใหนครับ แฮะๆ
-
พี่หนานครับ รถผมก็ astra van นะ คันที่จะลง Tein กะ MV6 เนี่ย ผมยังชั่งใจอยู่เลยว่า X20XEV หรือ X25XE mv6 ดี
....ไม่รู้ว่าชอบแบบไหนอ่ะ...แบบว่าปรู๊ดปร๊าด....หรือว่าเรื่อยๆ..แรงๆ...
เพราะว่า สองตัวเนี่ย 136hp/100kw ที่ 5600rpm กะ 170 hp/125kw ที่ 5800rpm
แต่เจ้า MV6 น่าจะทำเยอะพอควร แล้วค่าบำรุงที่จะตามก้อน่าดู
ถ้าเป็นพี่...คิดว่า สองพันอีโคฯ ก้อน่าจะเพียงพอ...เหยียบ 0-100 น่าจะใช้เวลาไม่นานนัก... :มั้ง: :มั้ง:
-
นายจี๊ดเอ๋ย อย่างว่า ที่คุยกันไว้ mV6มันก็คือ MV6ถ้ามันอยู๋ในเวคบี ก็อีกแบบนึง แต่ๆๆๆๆๆๆถ้ามาอย่ในแวน แล้วนั้น จะเป็นไงไม่รู้ แล้วก้ ธรรมดาของเครื่องv6ทุกอย่างมันต้องแพงกว่าสี่สูบอยู่แล้ว
-
ขอชี้แจ้งที่ละประเด็นนะครับ
ผมอยู่ฝ่าย บำรุงรักษาเครื่องกล ดูแล steam turbine เป็นหลักครับ คุณ jeedz :) :)
ส่วนงบประมาณสำหรับคู่หน้าผมหมดไป 8000 บาทเบล็ดเสร็จ (ราคาหักคอมาแล้ว)ถ้าไม่หักคอต้องลองไปคุย
แล้วโช็คที่เอามา MO คือ subaru forster ( :ตาปิ้ง:บอกแกให้หาโช็คหลังมาแล้ว :ตาปิ้ง:)
ส่วน shock tein หรือ ohlin (ของแพง)มีข้อดี คือ อุปกรณ์ภายในโช็ค ใช้ของเกรดดี สามารถ ซ่อมโช็คได้
ไม่เหมื่อนกับพวกทั่วไป เช่น sach ที่กระบอกโช็คบาง แล้วบ่าวาล์วยังสึกง่ายจึงไม่เหมาะสำหรับการซ่อม
เพราะซ่อมก็ใช้ได้ไม่นานครับ
ส่วนคนที่ทำให้ผม ส่วนใหญ่จะรู้จักในวงการ แรลลี่ ในเมื่องไทย
และ พี่เค้าจะไม่ค่อยรับซ่อมโซ็คทั่วไป เพราะมันใช้ได้ไม่นาน :หึหึ: :หึหึ:
-
รบกวนถามน่อยคับ
นุ่มหนึบนี่มันเป็นอย่างไงอะคับ ไม่เคยได้สัมผัสเลย :-X
มันดีกว่าของเดิมอย่างไงอะคับ มันนุ่่มกว่าของเดิมๆมากปะคับ
แล้วอาการหนึบนี่มันเป็นอย่างไงคับ
อธิบายให้ฟังหน่อยคับ ไม่รู้จริงๆครับ :มั้ง: :มั้ง:
-
รบกวนถามน่อยคับ
นุ่มหนึบนี่มันเป็นอย่างไงอะคับ ไม่เคยได้สัมผัสเลย :-X
มันดีกว่าของเดิมอย่างไงอะคับ มันนุ่่มกว่าของเดิมๆมากปะคับ
แล้วอาการหนึบนี่มันเป็นอย่างไงคับ
อธิบายให้ฟังหน่อยคับ ไม่รู้จริงๆครับ :มั้ง: :มั้ง:
ผมว่า เวคบีเดิมๆนั้น โช๊คเน้นความนุ่มนวลอารมณ์ประมาณผู้ใหญ่อ่ะครับ
แต่ในความคิดผมที่จะเปลี่ยนคือ เวลาขึ้นลูกระนาด ความเร็วประมาณ20-30km ถ้าชะลอรถไม่ทัน
หน้ารถบริเวณกันชนรถ มันจะกระเด้งจนหน้าไปโขกกับพื้นอ่ะครับ(อันนี้ลองมาหลายทีแล้ว)
และเมื่อขับในความเร็วสูง โช๊คแบบเดิมจะไม่ค่อยมั่นใจ (ความเร็วประมาณ90-120km ถนนเกษตร-นวมินท์)
ถ้าจะให้ดีมันจะต้องใช้โช๊คแบบ racing อ่ะครับ แต่ข้อเสียของโช๊คประเภทนี้จะให้ความกระด้างกว่าต่อเมื่อเจอลูกระนาดแต่จะให้ความมั่นใจในการขับความเร็วสูง
โช๊ค TEIN น่าจะเป็นแบบที่ค้นหากันอยู่คือ ไม่กระด้างไปในความเร็วต่ำแต่เกาะถนนในการขับความเร็วสูงได้
และน่าจะปรับระดับตามที่เราต้องการได้......
ปล.ความนุ่มและกระด้างนั้นเกี่ยวกับประเภทยางที่เราใช้ด้วยนะครับ
อะไรประมาณนั้น นอกนั้นรอเซียนคนอื่นมาตอบต่อไปครับ...........
-
โดยทั่วไปช่วงล่างที่เป็น sport จะแข็ง และ หนึบ ครับ รถจะไม่ให้ตัวมาก ทำให้เราควบคุมมันง่ายครับ
แต่ช่วงล่างดีๆ จะมีความนุ่มนวลด้วยในช่วงความเร็วต่ำๆ ไม่กระแทกรุนแรง นั่งสบาย แต่ย่านความเร็วสูงๆก็ไม่ให้ตัวมาก ทำให้ควบคุมง่ายครับ
-
ใครอยากได้รุ่นไหน ไปดูกันเอาเอง http://www.tein.co.jp/e/products/index.html
:หึหึ:
-
ระบบ โช้ค ผมจะแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ ครับ
1. Home use
เน้นการใช้งานชีวิตประจำวัน ให้ผู่ใหญ่นั่ง แล้วไม่บ่น ลูกเมียนั้งแล้วไม่ทะเลาะกัน นุ่มๆ เหมาะกับผู้ที่ไปเรื่อยๆ ไม่รีบ ไม่มุดบ่อยๆ ไม่ได้ขับเร็วเกิน 150 บ่อยๆ คำจำกัดความง่ายๆว่า เน้น สบายครับ
2. sport use
การทำงาน จะเริ่ม แข็ง ขึ้นการตอบสนองของ ตัวรถกับพื้นถนน และยาง จะตอบสนองชัดเจนมากขึ้น เวลาที่ขับเร็วๆ ขับมุดๆ จะโคลงตัวน้อยลง ความสนุกในการขับมากขึ้น แต่จะต้องแลกกับความสบายที่เงินที่จ่ายเท่ากัน งง ไหมครับ ผมหมายความว่า มีเงิน 10000 เท่ากัน สามารถเลือกได้ว่าจะเอาสบายหรือสนุก โดยเป็นตัวแปรผันกันโดยตรง... :)
แต่.... ถ้าอยากได้สบายด้วย สนุกด้วย ต้องจ่ายเงินมากขึ้นครับ (ต้องเที่ยบที่ราคามือ 1 ทั้งคู่ นะครับ) บ้านเราโชคดีที่ มีของมือ 2 ราคาถูกๆมาให้เลือกใช้โดย สภาพเหมาะสมกับราคาที่จ่าย ทำให้ ได้ของดีราคาถูก(เมื่อเที่ยบกับของแต่งตรงรุ่น) อยู่บ่อยๆ แต่... อย่าลืมว่า รถแต่ละคัน น้ำหนักต่างกัน เวลาที่ได้โช้คมา จะมาแปลงใส่ ต้อง หาสปริง+ปรับแต่งน้ำมัน ค่าแอบซอป-รีบาวนท์ ให้่เหมาะสมกับรถด้วยนะครับ ถ้าโช้คตัวที่ได้มาเป็นสปริงหลอด(สตัท) ต้องเข้าใจขั้นต้นว่า นิสัยของมันคือกระด้าง(มันถึงได้มีการแก้ปัญหาโดยการใช้สปริง 2 ชุดทำงานที่ช่วงโหลดต่างกัน) แต่อย่างไรเราก็สามารถเลือก สปริงที่ ค่า k เหมาะสมได้ง่ายครับผม :)
มาถึงตรงนี้คงเคยได้ยินคำว่าโช้คเทพ ;D มันคือประเภทที่ จ่ายเงิน 3-60000 สำหรับโช้ค 4 ต้นพร้อมสปริงที่เป็นของแต่งจากสำนักตรงรุ่น แล้วใช้งานได้ 4 ปี ครับ แต่ มันมีคำนึงครับที่เป็นจริง... คือ ช่วงล่างรถถนนเทพๆ ก็ยังไม่พอใช้ในสนามแข่งครับ
3. raceing use
ออกแบบมาเพื่อการ ตอบสนองที่ ดีที่สุดโดยต้องลืม ความสบายทิ้งไปได้เลยครับ มันทำออกมาเพื่อวิ่งในสนามเท่านั้น สามารถปรับแต่งได้ ค่อนข้างกว้าง เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในสนามต่างๆที่ทำการแข่งขันครับ ถ้าได้ลองขับบนถนน จะบอกได้เลยว่า ถนนไทยมันเหี้ย ขนาดไหน เด้งเป็นกบ ก็เพราะว่า มันออกแบบมาให้วิ่งในสนามครับ ในสนามถนนมันเรียบ ไม่ได้มีฝาท่อ ไม่ได้มีลูกระนาด การจับความรู้สึกในการใช้งานในสนามมันจะ จับได้ชัดมาก ว่า ขับผ่าน อะไรบ้าง... แต่ถ้าเอามาขับบนถนน มันจะ จับความรู้สึกได้มากเกินไปจนน่ารำคาญ หลายๆคันถ้าไม่ติดคำว่า โช้คสนามแท้ๆ ค้ำคออยู่ ก็คงถอดลงเอาโช้คบ้านมาใส่ดีกว่าครับ สบายกว่าเยอะ ยิ่งเวลาขับทางเขา ลงเนินมา เจอ คลื่นลอนๆของพื้นถนน รถมันจะล้อลอย ไม่เกาะถนน เบรคไม่อยู่เพราะล้ออยู่บนอากาศ รถจะปัดไปปัดมา แทบถอดทิ้ง :ไม่:
แต่บ้านเรา สนามที่ วิ่งๆกันอยู่ มันมีไม่กี่สนาม ระยะทางก็ไม่ยาว เป็นสนามที่ เน้น โค้งต่อโค้ง ทั้งนั้น ไม่ว่าจะ นครชัยศรี brc พีระ ช่วงล่างเลยทำง่ายๆได้ด้วยการ เอาของเดิมไปอัด+สปริงแต่งค่าk สูงๆ ก็ วิ่งได้ดี พอควร รถเครื่อง 1500 วิ่ง พีระ ช่วงล่างลูกทุ่ง เวลาต่ำกว่า 1.20.00 ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ แตถ้าจะกดลงไปมากกว่านื้ มันต้องใช้ช่วงล่างสนามเทพๆ แทนล่ะครับ จะได้ปรับแต่งค่าต่างๆได้ดีขึ้น :)
มาต่อเรื่อง รถของพวกเราบ้าง
ช่วงล่าง tein ในopel ผมเห็นมีของ อู๋ corsa 4e-fte ใช้ของ r32 มาทำ ปรับแข็งอ่อนได้ ส่วนตัวยังไม่เคยนั่ง แต่เห็นว่า ดีนะครับ มีแต่ข้างหน้า รู้สึกจะจบที่ไม่ถึง 10000 มั้งครับ มีของพี่ที่ อยู่เชียงกงบางนา ใส่บอลจ้อยด้วยอีกคันนึง
ช่วงล่าง ตรงรุ่นมีบอมบ์(สปริง ไอบัค โช้คแก๊สไรเดอร์) พี่กุ้ง(กำลังจะลงtein) โค้ช(ไอบัคบิลสไตล์+โช้คอัดน้ำมันร้านพรเทพ) ผมเอง (สไตทเมท4ตัวพร้อมสปริง แต่กำลังถอดลองแบบอื่นอยู่) พี่ลักษณ์ (สปริงH&R โช้คแก๊สไรเดอร์) เป้ย (สปริงไอบัคพี่เอ้ให้ โช้ค น้าขาวให้)
แต่ละคนก็ใช้กันตามลักษณะการใช้งานครับ ถ้าให้ผมเชียร์ ว่าตัวไหนช่วงการปรับแต่งกว้าง การดูแลอายุโอเค ผมว่า tein มือ2มาแปลง ครับ เลือกสปริงค่า k ตามต้องการได้ บางตัวปรับ ความหนืดได้ เสียก็ไปซ่อมที่ 0 ของพี่อั้น ได้ คุ้มค่าเงินที่สุดครับ พวกช่วงล่าง เทพๆ ตรงรุ่นตัวอื่น เวลาพัง... มัน ต้องโยนทิ้ง... ทำอะไรไม่ได้เลย :dead: บิวสไตล์ ก เจริญ มันยังไม่ซ่อมเลยครับ เวรมาก มี โอลิน อีกตัวนึง แต่... แพงกว่า tein
ที่เหลือลองดูกับตัวเอง ครับ ถ้าต้องการข้อมูลลองโทรมา นัดกินข้าวกันบ่่อยๆ ฮะ :)