OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand

Opel in Talks => General Discussion => Topic started by: RevelCat on 07 Nov 2010, 17:58

Title: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 07 Nov 2010, 17:58
ก่อนอื่นเลย ผมว่าจะไปตั้งที่ swap engine แต่ผมหาที่ตั้งไม่เจอ ถ้าสมควรย้ายไปหรือย่างไร วานท่านแอดมินช่วยย้ายด้วยนะครับ

อันนี้ต้องขอบอกว่า มีพี่นุ่น Peesard เป็น ชนวนครับ คือระหว่างที่ผมศึกษาข้อมูลนุ่นนี่นั่นอยู่ ผมก็เจอเรื่องการวางเครื่องดีเซลมั่ง โดยเฉพาะ จะได้เห็นข้อมูลจากพี่นุ่นว่า ทน ถูก ประหยัดดี ดูแลง่าย อะไหล่พอหาได้(คืออันนี้โดยทั่วไปพี่แกจะพูดถึงเครื่อง VW TD1600 หรือ 1900 เป็นส่วนใหญ่) รวมทั้งพี่นุ่นเองก็มีรถวางดีเซลอยู่ด้วยหนึ่งคัน

ผมเองก็กะลังหาหนทางประหยัดแบบไม่ LPGอยู่ด้วย ก็ไปสดุดที่ เห็นความเห็นของพี่นุ่นว่า เครื่อง TD1600 หรือ 1900 นี่ ถ้าปกติดี วิ่ง ตจว. ทีี120 มีโอกาศ ประหยัดได้มากกว่า 20-22โล/ลิตร อาจได้มากถึง 30โล/ลิตร :วิญญาณ:...ถูกใจแท้ๆ แน่นอนว่ามันโดนใจผมมากๆ แต่ก็สังเกตอยู่ว่าทำไมไม่มีคนเล่น

ข้อดีทั่วไป ของเครื่องดีเซลที่ผมรู้คือ ให้กำลังสูง(ไม่แน่ใจว่าความหมายเดียวกับแรงบิดสูงรึปล่าว)ลุย ทน ถูก ดูแลง่าย ไม่จุกจิก แต่อันนี้น่าจะหมายถึงเครื่องปิคอัพทั่วไป ผมไม่รู้ว่ามันจะเหมือนกับตัวที่จะเอามาใช้กับเก๋งมั๊ย

ผมเลยอยากจะขอเชิญ ทุกท่านร่วมเสวนา ว่าด้วยการวางเครื่อง Diesel

ตัวอย่างแรก อย่างที่ผมคิดไว้ตอนนี้ คือ ผมอาจจะหา Astra 5D (เครื่องเน่าโครงดีหรือซาก)หรือ Vanเดิมของผม วางเครื่องดีเซล เพื่อจุดประสงค์หลักๆดังนี้

- ต้องการประหยัดเชื้อเพลิง โดยไม่ใช้ LPG และต้องการเครื่องที่ ทน ถูก ดูแลง่าย ไม่จุกจิก อะไหล่พอหาได้
- เน้นขับขี่ใช้งานทั่วไปไม่เร็วนัก แต่มีกำลังพอเมื่อแบกน้ำหนัก ถ้าเดินทางไกล ปกติ 110-120 ให้ได้อัตราบริโภคที่ เฉลี่ย 25-27โล/ลิตร หรือมากกว่านี้ 30จะแจ่มมาก ;)

ถ้าจะได้ผลพลอยได้อื่นๆอย่างเช่นๆ ถ้านึกสนุก ขนของไม่มาก ให้กดได้ซัก 140-160 ก็ดีครับ เอาเร็วแค่นี้ก็เหลือเฟือแล้วครับเ้พราะเน้นใช้งานทั่วไป กับประหยัดมากกว่า

ถ้าแบบนี้ พอจะเป็นไปได้มั๊ยครับ งบประมาณจะซักเท่าไหร่ มีตรงไหนที่น่าเป็นห่วงมากครับ

แล้วก็อยากทราบสาเหตุที่ไม่ค่อยเล่นกัน เป็นเพราะอะไรมั่งครับ

ลองรวบรวมข้อมูลกันดูครับ เผื่อจะเป็นอีกทางเลือกในการข้ามพันธ์เมื่อเครื่องเดิมมีปัญหา ผมคิดว่าน่าจะมีหลายคนต้องการแบบผม...มั๊ง ;D

ปล. การอ้างอิงใดๆ หากไม่ถูกต้องหรือไม่สมควร ทั้ง ของพี่นุ่นและ อื่นๆที่ผมอาจจะไม่ทราบ ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะครับ
ปล.2 ขอใช้สีซอฟๆ ตัวโตๆ หน่อยนะครับ พี่นุ่นชอบบ่นปวดตา อิอิ เผื่อท่านอื่นๆจะปวดตาด้วยด้วย
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: ZeaBiscuit on 07 Nov 2010, 18:39
1. เครื่องดีเซล แพงมากครับ ค่าดูแลต่ำจริง แต่ราคาเครื่องแพงมากกกกกกก

2. ไอ้ที่ว่าวิ่ง 110-120 แล้วได้ เกือบ 30 โลลิตร ฟันธงไปได้เลยครับว่า "ไม่จริง" เอาง่ายๆครับ Ford Focus ตัว TDCi เครื่อง 2000 โบ Commonrail ยังได้แค่ 22 โลลิตร ขนาดใช้เกียร์ Dual Clutch นะครับ เกียร์ MT ไม่ต้องพูดถึง ยังไงก็สู้ Dual Clutch ไม่ได้ , BMW 320d ก็ได้ราวๆ 20 โลลิตรครับ ที่ความเร็ว 100-110 ซึ่งพวกนี้เป็น Commonrail รุ่นหลังๆทั้งนั้นครับ เครื่องเก่าๆ อย่าพูดถึงเลย

3. อะไหล่ของดีเซล ราคาอ้วกเหมือนกันครับ มันไม่ค่อยเสียจริง ผมไม่เถียง แต่ถ้าเสียทีมีจุกครับ (หัวฉีดเครื่อง 1KD ของวีโก้เบิกศูนย์ ราคาเกินหมื่นครับ มีสี่หัว ก็คูณเข้าไป)

ดีเซลถ้าจะเล่น ต้องเป็น Commonrail เท่านั้นครับ ณ. เวลานี้

ลองดูใกล้ๆตัวครับ รถตู้ รถขนผัก รถนู่นนี่นั่น ทำไมวิ่งจนเครื่อง(ดีเซล)พังแล้ว(หรือไม่พังก็เอาไปเทิร์น) วางเจ ติดแก๊สกันทั้งนั้น ทำไมไม่ซ่อมเครื่องเดิม ?
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 07 Nov 2010, 19:02
อืม....แค่ท่านแรกก็จุกละ :จุก:

งั้นขอถามต่อหน่อยครับ อย่างพวก Ford Focus ตัว TDCi หรือ BMW 320d  พวกนี้ถ้าเทียบกับรุ่นเดียวกันที่เป็นเบนซิน มันจะมีข้อดีข้อเสียต่างกันยังไงมั่งครับ

เพราะถ้าจำไม่ผิด ตัวเดียวกัน แต่ดีเซลแพงกว่าด้วยซ้ำ อย่างตัว Ford Focus TDCi ก็ 2ล้านกว่า ในขณะที่เบนซิน รู้สึกว่าเริ่มต้นที่ไม่ถึงล้าน แพงกว่าเท่าตัว :shock:
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: ZeaBiscuit on 07 Nov 2010, 19:08
Ford Focus ตัวดีเซล ดีกว่าทุกประตูครับ

ค่าตัวแพงเพราะเครื่องมันแพงครับ ต้นทุนเครื่องดีเซล ยิ่งเป็น Commonrial มันแพงกว่าเบนซิลมาก

Ford Focus TDCi เทียบเป็น บาทต่อกิโลเมตรแล้วคุ้มมากครับ พอๆกันเบนซิลติดแก๊ส แต่อย่างที่บอก หนึ่งคือราคามันสูง สองคือมันซ่อมแพง ก็ต้องเลือกเอาครับ วางเบนซิลติดแก๊ส วิ่งจนพังไปสองเครื่อง ราคาโดยรวมยังถูกกว่าใช้ดีเซลตัวเดียวเลยครับ

ปล. Focus TDCi ล้านกว่าครับ ถ้าสองล้านไม่มีคนซื้อแห๋งๆ
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 07 Nov 2010, 19:11
งั้นกรณีผมคงไม่คุ้ม วิ่งน้อย ไม่ได้ใช้ประจำ ถ้าวิ่งเยอะๆ คงมีสิทธิคุ้มค่าเชื้อเพลิง มั๊ย :o

โอ้.... พึ่งมาเห็นรูปทีหลัง แสดงว่าผมได้ข้อมูลมาผิด งั้นก็น่าสน สำหรับคนซื้อใหม่ งบราวๆนี้ สำหรับผม ผ่่าาานนนน ไปยาววๆๆๆ :please:
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: ZeaBiscuit on 07 Nov 2010, 19:16
อย่างที่บอกครับ

ราคาต่อกิโลเมตร พอๆกัน

แต่ตอนวางเครื่องดีเซลคุณจ่ายหกหลัก

เครื่องเบนซิล รวมติดแก๊ส ผมให้แพงๆหกหมื่น ถ้าเอาแบบแท็กซี่ใช้ก็ไม่เกินสามหมื่น

ทั้งสองตัววิ่งไปซักสองแสนโล สมมุติว่าเครื่องเบนซิลพัง ยกออก วางใหม่ ใช้ระบบแก๊สเดิม ไม่น่าเกินสามถึงสี่หมื่น กับสองแสนโล เครื่องดีเซลก็ต้องซ่อม ตีค่าซ่อมต่ำๆว่าซักสามหมื่นถึงสี่หมื่น

เห็นความต่างยังครับ :)
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 07 Nov 2010, 19:22
 :วิญญาณ:

ที่เหลือ รอพี่นุ่นมาแก้ตัวครับ  8)

แต่ไม่รู้จะแก้ให้ป่าว เพราะจริงๆก็ไม่เคยถามเรื่องนี้กะแกโดยตรง แค่อ่านความเห็นที่แก ลงๆไว้บ้าง แล้วเก้บมาฝันเอาเอง   ;D
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: PeeSard on 07 Nov 2010, 21:12
turbo diesel 1600 ลงใน Golf MK1 เติม 300 บาท วิ่งจาก ปทุม-บุรีรัมย์ มีเหลือ ความเร็ว 100-120
ของเพื่อน turbo diesel 1900 ลงใน Golf Mk3 วิ่งในเมืองกุงเตพ กินอยู่ประมาณ 17 กม/ลิตร ความเร็วอัดได้อัด..
อีกคัน Passat TDi 1900 อยู่ใน Passat Van ปี95 วิ่งไปเชียงใหม่ 100-110 ทำได้ 20-22 กม/ลิตร

ข้อดีของดีเซลโบ คือ แรงบิดดี ขณะที่รอบเท่าเดิม
เอาง่ายๆพื้นๆ มิตซู L200 Cyclone 2500cc ตัวธรรมดา 90 กับตัวโบ 105
ถ้าเอาวิ่งทางไกล 110-120 ตัวธรรมดาจะซดมากกว่าตัวเทอร์โบ ประมาณ 15-20%

แต่ผลต่างๆจะออกมาดีก็ต่อเมื่อ เครื่องก็ต้องสมบูรณ์ด้วยนะครับ
ไม่ใช่อัดตูดดำปี๋ ตลอดเวลา อันนั้น ต้องเช็คปั๊ม เช็คน้ำมันให้มันนิ่งด้วย

ส่วนของ Focus ไม่รู้ว่าทำไมเครื่องออกมาใหม่ซะขนาดนั้น แต่สู้เครื่องของโฟล์คไม่ได้เลย
เทียบจากวิวัฒนการของเครื่องดีเซลของโฟล์ค แต่ก่อนดีเซลของโฟล์คน่าจะใช้เทคโนโลยี่ของอีซุซุ
(เพราะเป็นรางน้ำมัน และรถตระกุลเยอรมันชอบซื้อเทคโนโลยี่ของ Isuzu)
พอมาเป็น TDi ก็เป็นลักษณะเฉพาะของตัวเอง มีทำไปลงในเปอร์โยต์ กับซีตรองด้วย
และเดี๋ยวนี้ ตัวแรงๆสูบเยอะๆ ก็จะเห็นอยู่ใน Audi Bugutti และ Tourage ก็เป็น TDi 8 -12 สูบ
ซึ่งก็จับมาใช้งานนานหลายปีแล้ว
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: PeeSard on 07 Nov 2010, 21:31
เพิ่มเติม (มันไม่มีช่องแก้ไขอ่ะ)

เรื่องเครื่อง กับราคา
TD1600 ตอนนั้นพี่ได้มา เฉพาะเครื่อง 15พัน ชนเกียร์เดิม 4 เกียร์ แล้วไปจับตัว 5 เกียร์มาใส่ อีก 4000
สมัยนี้ ตัวเครื่อง TD1600 อาจจะหายาก เพราะมันเป็นเครื่องยุคปี 8x-95 (ใน Caribian ที่ขายในยุโรปก็ใช้เครื่อง vw diesel)
เช่นกันกับ TD1900 ก็จะอยู่ในยุคปีเดียวกัน ตอนนั้น เพื่อนเอามาลง Golf3 ราคาประมาณ 35-40 พัน
แต่เครื่องตัวนี้ จะหาง่ายกว่า TD1600

ส่วนเด๋วนี้ TDi1900-2500 จะหาง่ายกว่า เพราะว่าเป็นเครื่องใหม่ ราคาก็จะอยู่ที่ 60 พัน+
แต่ข้อเสียก็คือ ต้องมีกล่อง เพราะเป็นระบบไฟฟ้า ไล่ตั้งแต่สายคันเร่งเลยอ่ะ

และข้อเสียของดีเซล ที่เห็นชัดคือ น้ำหนักเครื่องมากกว่าตัวเบนซิล และต้องขยันเช็คน้ำมันเครื่องให้ดี
เพื่อประสิทธิภาพของการใช้งานและอายุเครื่องยนต์ด้วยนะครับ
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 07 Nov 2010, 21:35
turbo diesel 1600 ลงใน Golf MK1 เติม 300 บาท วิ่งจาก ปทุม-บุรีรัมย์ มีเหลือ ความเร็ว 100-120
:วิญญาณ: อันนี้แหล่ะครับพี่ แบบนี้เลย ;) ที่ผมอยากทราบว่า ถ้าลง Astra 5D หรือ Van จะเวิร์คมั๊ย จะหมดซักเท่าไหร่

แล้ว MK1 กดสุดได้เท่าไหร่ครับพี่นุ่น แบกน้ำหนักเยอะแล้วเป็นไงมั่ง แล้วที่บอกมานี่คือ สภาพเครื่องความสมบุรณ์ซักกี่% ครับ



รูปข้างล่างนี่เป็นเส้นทางคร่าวๆนะครับ เส้นทางหรือระยะทางจริงๆ คงต้องถามพี่นุ่นว่า เท่าไหร่ยังไงต้องถามพี่นุ่นว่า
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 07 Nov 2010, 21:43
แล้วมีตัวอื่นๆที่น่าสนใจป่าวครับพี่ ที่จะเอามาลง Astra Van (ถามเผื่อเลย ลงVanได้ 5D คงสบาย)

ถ้าตัว 1n-t ที่เคยเห็นลงในคอร์ซ่า ตัวนี้น่าจะเป็นไงมั่งครับ จำได้ว่าตอนเอารถไปทำ เห็นรถของปู่สันติ ก็ดีเซล แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยไม่ได้ถามรายละเอียดแก

เห็นแล้วมันน่าหมั่นเขี้ยวจริงๆ :หนาว:
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: aor on 07 Nov 2010, 22:43
- เครื่องดีเซลใน VW ที่พี่นุ่นหมายถึงนั่น ผมเข้าใจว่า มันก็เป็นสายพันธุ์เดียวกันอยู่แล้ว คือเครื่องดีเซลของ VW เอง
แต่ถ้าท่านจะเอาเครื่องโตต้า ดีเซล ลงในโอเปิ้ล มันก็คงเป็นไปได้อ่ะนะ แต่ครับแต่ ขนาดแค่เครื่องโตต้า เบนซิน ปกติที่ลง ๆ กัน
หลายคันก็มีปัญหาก็แก้ไขกัน ปวดหัวกันอยู่ หรือท่านอยากเป็นหนูทดลอง ก็เชิญนะครับ คิดให้ดี คิดให้รอบคอบ คิดให้มาก ๆ นะครับ
- เป็นผมนะ เปลี่ยนใส่เครื่องโอเปิ้ลที่แรงขึ้น (1.8 หรือ 2.0) ก็น่าจะโอเค ที่จะฉุดลากตัวถังที่หนักของแอสตร้าแวน และออกตัวได้
เร็วขึ้น ส่วนเรื่องการประหยัดน้ำมัน ควรมองพื้น ๆ ก่อนนะครับ ว่า เครื่องยนต์อยู่ในสภาพสมบูรณ์แค่ไหน และลักษณะการขับขี่เป็น
อย่างไร ลองถาม ๆ เพื่อนสมาชิกที่ใช้แอสตร้าแวนอยู่ ที่เขายกเครื่องใหม่เป็นตัวแรงขึ้น ลองขอขับรถเขาดู
- เครื่องเดิม ๆ จะตัว 8 หรือ 16 วาล์ว มันทนทานโคตร ๆ อยู่แล้ว จะเอาไป overhaul มันก็ยังคุ้มค่า บางที เราอย่าเอาคนอื่นมาเทียบ
กับตัวเราเลยครับ เพราะความต้องการ วัตถุประสงค์การใช้งาน ความรู้ความเข้าใจในเรื่องเครื่องยนต์ของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป
สำหรับผมซึ่งมีความรู้เพียงน้อยนิด ก็ขออิงกับเครื่องตระกูลโอเปิ้ลต่อไปครับ (รถโอเปิ้ล+เครื่องโอเปิ้ล = ผมสบายใจครับ)
- รูปครับรูป ยังไม่เห็นรูปแอสตร้าแวนแบบเต็ม ๆ คันของท่านเลย
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: naxalez on 07 Nov 2010, 23:11
คือมันอย่างนี้คับพี่
ของบางอย่าง มันต้องลงไปคลุกวงใน ศึกษาอย่างจริงจังก่อนคับ ถึงจะตอบได้ว่าอะไรเป็นอะไรคับ

เครื่องโฟล์ค 1900 turbo diesel รหัส AAZ
ใ้ช้งานในกรุงเทพ วิ่งไป-กลับ วิภาวดี-สำโรง
อัตราบริโภคอยู่ที่ 15 กิโล/ลิตรคับเพ่!
เกียร์ธรรมดาครับ..
อันนี้ผู้ใช้จริงบอกผมเลยคับ
น้ำท่วมถนนเส้นปากน้ำบ่อยๆ Golf 3 คันนี้วิ่งลุยน้ำหน้าตาเฉยคับ

ถ้าวิ่ง ตจว. ผมเชื่อว่าได้เห็นตัวเลข 20+โล/ลิตร สบายๆคับ

เอาเฉพาะ Corsa diesel ของตาปู่สันติที่มาฝากผมใช้เนี่ย ขนาดมันเป็นเกียร์ออโต้ที่ขย๊านน ขยันเปลี่ยนเกียร์
มันยังทำได้ 12 โล/ลิตร ในเมืองสบายๆเลยคับ
ยิ่งถ้าสั่งให้ไม่จ่ายน้ำมันเพิ่มตอน turbo boost นะ..มันจะวิ่งได้แถวๆ 20 โล/ลิตรเวลาวิ่งยาวๆเส้นวงแหวนเลยล่ะคับ
แต่มันน่าเบื่อมากกก น้ำมันไม่จ่ายเนี่ยคับ อืดดเลยแหละคับ

สำหรับเคื่อง AAZ 1900TD ของโฟล์ค มันวางใน Golf 3 ที่ห้องเครื่องไม่ได้ใหญ่ไปกว่า corsa/astra สักเท่าไหร่ได้สบายๆคับ
เพราะงั้น ผมเชื่อว่าวางใน  astra ได้ไม่ยากครับ
ราคาเครื่องที่ผมสืบมาล่าสุดอยู่ที่ 35000-40000 คับหาไม่ยากคับ

แต่ถ้าจะแนะนำจริงๆ..ไปซื้อ VW มาเล่นแล้ววาง TD ตรงๆดีกว่าคับ
เดี๋ยวพี่จะเจอเรื่องเซ็งประมาณว่า ซ่อมช่วงล่าง ซ่อมตัวถังรถเข้าอู่นึ่ง ซ่อมเครื่องเข้าอีกอู่นึง..มันน่าเบื่อคับ

เชียร์เลยคับ AAZ TD1900
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: PeeSard on 07 Nov 2010, 23:27
^
แม่นแล้ว..

ถ้าจะเอาดีเซลลงใน Astra พี่ให้มองตัว TD1900 จะดีกว่า เครื่องหาง่ายกว่า
แต่ถ้าจะเอาของ Opel ตรงๆ ก็คงต้องเดินดูที่สิงคโปร์ เพราะ ที่นั่นมี Corsa Combo เยอะมาก
ตัวนี้เป็นเครื่อง ดีเซล1700 มีทั้งโบและ Na อันนี้ไม่ช้ามพันธุ์แน่นอน

แต่ถ้าของรุ่นหน้าตาเหมือน Corsa B ก็จะเป็นเครื่อง 1500 แต่พี่คิดว่าคงหายาก
เพราะที่สิงคโปร์ เห็นมีแต่ Corsa C ขึ้นไปทั้งนั้นครับ

วกกลับมาที่ TD1900 เด๋วจะลองเช็คดูว่า ยังมีคนตัดมาอีกมั้ย? เพราะ
หลังๆมานี่ TDi1900 มีมาเยอะกว่า แต่ถ้าจะเอาก็ต้องเผื่องบเป็นแสน
ซึ่งดูๆแล้ว งบแรงเกิน แต่ตัว TD1900 ก็ใช่ว่าจะถูก ลงจบสมบูรณ์ก็น่าจะอยู่ที่  6 หมื่นขึ้น
แต่จบแล้ว ก็ใช้เหมือนรถบรรทุกทั่วๆไปเลย ลุยน้ำ ลุยฝน อยากแรงเกียร์ 1-3 เอี๊ยดตลอด หรือเอาปลายที่ 190 ก็ได้
 
แต่ขอบอกก่อนนะว่า อยากขับเก่งๆ ให้เข้าไปขับรถร่วมฯหรือรถปอซัก 2 ปี ก็จะเซียนเอง 555
เพราะที่พี่อยู่รอดมาได้ก็ เกิดจากเอารถมิตซูที่บ้านไปอยู่กับร่วม กับสยามมา 2 ปีกว่าแระ อิอิอิ
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 07 Nov 2010, 23:35
@ พี่อ้อ ไม่ถึงขั้นเป็นหนูทดลองเองหรอกครับพี่อ้อ แต่แอบๆเห็นว่าแถวนี้ ก็มีหนูทดลองอยู่แล้ว เลยกะลังเรียบๆเคียงๆถามอยู่ครับ  ;D
ถ้าจะเป็นหนูทดลองเอง คงต้องเงินเหลือใช้ รถเหลือขับแล้วอ่ะครับ เอาแบบใจรักเข้าว่าไปเลย แต่คงอีกนานครับ  :'(
ส่วนสภาพรถผมเอง เวลาอันใกล้นี้คงไม่ได้เปลี่ยนง่ายๆอ่ะครับ ถ้าผมไม่พิเรนทำพังซะก่อน

ส่วนรูปรถนี่ ไม่มีข้อแก้ตัวจริงๆครับ  :P แต่ขอเวลาซักนิดครับ จะรีบจัดให้ดู

@ คุณจุ้ย รถปู่สันติอยู่อยู่ที่คุณจุ้ยเองเหรอครับ เป็นไงมั่วครับการใช้งาน แล้วตัวนั้นเทอร์โบด้วยรึปล่าว

@ พี่นุ่น 1700โบ นี่คือ X17DLT แม่นบ่อ้าย มันจาบ่ยากนำหาอะไหล่ บ่ครับ
อันTDi1900 หนิมันฉีกกระเป๋าคักโพดครับ เอาTD1900 คืออยู่ วางจบจั๋ก60000 หาซากมาซัก บ่เกิน 50000 เป็นตาคืออยู่ครับ

ก็อยากให้ทุกท่านร่วมกัน เสนอทั้งประสพการและความคิดเห็น ทั้งข้อดีข้อเสียมา +- รวมๆกันนี้แหล่ะครับ

ถึงในหลายๆแง่มุม อาจจะดูไม่ดี แต่ผมก็หวังเล็กๆว่ามัน อาจจะมีอะไรดีๆที่เรามองข้ามไปมั่ง

ไม่แน่นะครับ บางที พอเริ่มสนใจกันมากขึ้น มีหลายตาช่วยกันมองหามากขึ้น อาจจะมีอะไหล่อยู่ใกล้ๆตัว ทั้งที่ไม่ทันสังเกตุก็ได้ครับ หาแนวร่วมๆ ;D
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: PeeSard on 07 Nov 2010, 23:40
ราคาเอาไว้หลังไมต์เด้อ...บอกไป เด๋วผู้อื่นสิตื่นกันเบิด...
ส่วนการติดตั้ง ว่่างเมื่อเหิง ก็ไปเอารถอ้ายไปเบิ่ง ต/ย โลด จอดอยู่บ้านศรีเกษ
ห่างจากขอนแก่น 350 กม แระมั้ง

มิ่อนี่ แบ็ตหมดแล่ว ซาลีบก่อนเด้อ....
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 07 Nov 2010, 23:45
ครับอ้าย แต่บ่ต้องฝ่าวหลายดอก บ่ทันได้รีบเปลี่ยนดอกครับ ของเก่ากะยังดีอยู๋

ยามได๋เมือบ้าน สิหาเวลาไปเยือนจั๊กบาดสั่นดอก

ว่าแต่คุยกันบ้านเราเช่นนี้ คนอื่นเค้าจะเข้าใจกับเรามั๊ยครับพี่ :o
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: naxalez on 07 Nov 2010, 23:49

รถเป็นเครื่องเทอร์โบครับ ก็ใช้งานได้ดีคับ
แต่จะขับดีกว่านี้มาก ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาคับ

ความเร็วไปตื้อเอาช่วง 3500 รอบครับ
คือมันไม่ตื้อเท่าไหร่หรอกครับ แต่ได้ยินเสียงเครื่องแล้วสงสารมันคับ

ถ้าจะวางใน astra จิงๆ.. ต้องเล็งๆเรื่ององศาเพลาดีๆคับ..แค่นั้นแหละคับ
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 08 Nov 2010, 00:02

งั้นก็เข้าทางครับ สำหรับผม ถ้าเกียร์ธรรมดาดีกว่า

จริงๆ เกียร์ ออโตก็ยังไม่เคยขับอ่ะครับ แต่ตอนนี้ขับธรรมดาก็สนุกดีอยู่แล้ว ไม่ค่อยนึกอยากได้ ออโต้ซักเท่าไหร่


"ต้องเล็งๆเรื่ององศาเพลาดีๆคับ" อันนี้คือ มันเป็นความเสื่อมสภาพ หรือเป็นลักษณะเฉพาะรุ่นครับ

คือมันเป็นแบบ "เครื่องนี้ใช้งานมาหนักองศาไม่ค่อยดีแล้ว" หรือ "เครื่องรุ่นนี้มีองศาเพลาเท่านี้ เหมาะจะวางกับโครงรถรุ่นนี้"
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: ZeaBiscuit on 08 Nov 2010, 00:33
turbo diesel 1600 ลงใน Golf MK1 เติม 300 บาท วิ่งจาก ปทุม-บุรีรัมย์ มีเหลือ ความเร็ว 100-120
ของเพื่อน turbo diesel 1900 ลงใน Golf Mk3 วิ่งในเมืองกุงเตพ กินอยู่ประมาณ 17 กม/ลิตร ความเร็วอัดได้อัด..
อีกคัน Passat TDi 1900 อยู่ใน Passat Van ปี95 วิ่งไปเชียงใหม่ 100-110 ทำได้ 20-22 กม/ลิตร

มันต้องดูด้วยครับว่าไอ้เจ้า Golf MkI มันน้ำหนักเท่าไหร่ ใส่ยางอะไร ?

Focus น้ำหนักเท่าไหร่ ใส่ยางอะไร ?

Astra Van น้ำหนักเท่าไหร่ ใส่ยางอะไร ?

คอซ่าเครื่องเดิม C14NZ ยาง 13 วิ่งเชียงใหม่กรุงเทพ ผมก็ทำ 18 โลลิตรมาแล้ว

ถ้าอยากได้แบบ " ถ้าเดินทางไกล ปกติ 110-120 ให้ได้อัตราบริโภคที่ เฉลี่ย 25-27โล/ลิตร หรือมากกว่านี้ 30จะแจ่มมาก" แนะนำให้นอนฝันเอาจะง่ายที่สุดครับ เพราะขนาด Nissan March คันเล็กๆยังทำไม่ได้เลยที่ความเร็วขนาดนั้น (March ทำได้เกือบ 30 โลลิตรที่ความเร็วราวๆ 70)

20 กว่าโลลิตร เป็นเรื่องปกติ ผมก็ไม่ได้บอกนะว่ามันเป็นไปไม่ได้ สำหรับเครื่องดีเซล

เอาเถอะครับ ผมแชร์ข้อมูลของผมแล้ว ถ้าอยากลองผมก็สนับสนุนเต็มที่

เพราะผมเองก็เชื่อว่า ถ้ามีเครื่องที่ทั้งแรง ทั้งประหยัด โดยไม่มีข้อเสียอะไรร้ายแรง โรงงานคงผลิตออกมาให้ใช้กันทั่วไปแล้วครับ วิศวกรเป็นร้อยๆคน ไม่น่ามาพลาดเรื่องขี้หมาแบบนี้
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 08 Nov 2010, 00:42
อ้าว โทษครับ กดโมดิไฟแล้วมันขึ้นหน้าใหม่ ว่าจะเปลี่ยนภาพขนาดมันใหญ่เกิน

turbo diesel 1600 ลงใน Golf MK1 เติม 300 บาท วิ่งจาก ปทุม-บุรีรัมย์ มีเหลือ ความเร็ว 100-120
:วิญญาณ: อันนี้แหล่ะครับพี่ แบบนี้เลย ;) ที่ผมอยากทราบว่า ถ้าลง Astra 5D หรือ Van จะเวิร์คมั๊ย จะหมดซักเท่าไหร่

แล้ว MK1 กดสุดได้เท่าไหร่ครับพี่นุ่น แบกน้ำหนักเยอะแล้วเป็นไงมั่ง แล้วที่บอกมานี่คือ สภาพเครื่องความสมบุรณ์ซักกี่% ครับ



รูปข้างล่างนี่เป็นเส้นทางคร่าวๆนะครับ เส้นทางหรือระยะทางจริงๆ คงต้องถามพี่นุ่นว่า เท่าไหร่ยังไงต้องถามพี่นุ่นว่า
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: naxalez on 08 Nov 2010, 01:37
VW Golf 3 เป็นรถที่หนักมากเลยนะพี่  :'(
ไอ้ตัวนี้แหละฮะ..ที่วาง AAZ 1.9 TD วิ่งในเมือง 15โล/ลิตร
ซึ่งปกติชาวบ้านเค้าวาง VR6 2800cc ไม่ก็ GTI 2.0 กันถึงจะวิ่งได้ดี

บางทีวิศวกรเค้าอาจจะผลิตเครื่องออกมาแล้วคับ เคื่องที่ทั้งแรงและประหยัด
แต่ด้วยทัศนคติที่มีต่อเคื่องดีเซลของคนไทย ที่มองว่ามันเป็นเคื่องรถกะบะ รถบรรทุกนั่นแหละคับ เป็นตัวฆ่าเคื่องให้ตายไม่ได้เกิด
เช่นเดียวกับรถ opel แหละคับ
มีแต่คนเคยขับ คนเคยใช้เท่านั้นคับ..ที่จะรู้ว่ามันดีขนาดไหน และดียังไง

และทุกวันนี้ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วคับ ว่าเคื่องดีเซลเป็นเคื่องที่ยอดเยี่ยม
ทั้งในเชิง Emission, Mechanical, Fuel economy
ทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ
ดังจะเห็นได้จากการที่รถยนต์ค่ายหรูๆต่างแข่งกันพัฒนาเคื่องดีเซลกันใหญ่เลย
คอมมอนเลวทั้งหลายนั่นล่ะคับ

แต่สำหรับผม ดีเซลมันต้องฟายๆคับ ปั๊มกลไกฟายๆ โบฟายๆ เคื่องอึดๆแบบฟายๆ ทำงานก็แบบฟายๆ
ลุยน้ำไม่ดับ แบตหมดเข็นสตาร์ทติด ไดชาร์จเน่าก็วิ่งได้จนกว่าจะดับเคื่อง
วิ่งได้จนกว่าจะฝาโก่ง ปะเก็นแล่บ ก้านหัก ข้อแหก ผ้าคลัชหมด พวงมาลัยหลุด
ดีเซลมันต้องแบบนี้ ถึงจะสะจายยยยคับเพ่  :drink:
พวกมีกล่อง มีไฟฟ้า จุกจิกนู่นนี่นั่นโน่น อย่าเล่นมันเลยคับ.. เสียเว เสียอา พังมาไม่คุ้มซ่อม
ขอปั๊มฟายๆตัวเดียวพอ เวลาเสียก็จับเปลี่ยนปั๊มโล่ดดด จบ...วิ่งต่อ
--
เรื่ององศาเพลา ผมหมายถึงตำแหน่งการวางเครื่อง กับเพลาขับน่ะคับ..
เดี๋ยวคงมีพี่ๆมาอธิบายเพิ่มคับ
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: jeabjamiro on 08 Nov 2010, 01:37
เหอะๆ300 นี่ตอนนำ้มันลิตรกี่บาท ต้องดูด้วยนะครับ

ดีเซลอึดครับ......ถ้าใช้ดีๆ แพงแต่ทน แต่ถ้าพัง ก้จบข่าว เหอะๆ
แต่ผมไม่รู้จริงๆว่ามันทนขนาดไหนนะครับ รู้แต่ขับสบาย รอบต่ำๆ เหอะๆ
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: naxalez on 08 Nov 2010, 01:41
ทนขนาด 700000 โลยังวิ่งได้อ่ะพี่..
ปีที่แล้วไปงานแต่งพี่มือกีตาร์อยู่นู่นนน ปราจีน
ขากลับติดรถชาวบ้านออกมา Mitsu L200 เคื่อง 4D56 อายุพอๆกับผม
เลขกิโล 7แสน
เหยียบ 100 สบายๆ 8)
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 08 Nov 2010, 02:03
turbo diesel 1600 ลงใน Golf MK1 เติม 300 บาท วิ่งจาก ปทุม-บุรีรัมย์ มีเหลือ ความเร็ว 100-120
ของเพื่อน turbo diesel 1900 ลงใน Golf Mk3 วิ่งในเมืองกุงเตพ กินอยู่ประมาณ 17 กม/ลิตร ความเร็วอัดได้อัด..
อีกคัน Passat TDi 1900 อยู่ใน Passat Van ปี95 วิ่งไปเชียงใหม่ 100-110 ทำได้ 20-22 กม/ลิตร

มันต้องดูด้วยครับว่าไอ้เจ้า Golf MkI มันน้ำหนักเท่าไหร่ ใส่ยางอะไร ?

Focus น้ำหนักเท่าไหร่ ใส่ยางอะไร ?

Astra Van น้ำหนักเท่าไหร่ ใส่ยางอะไร ?

คอซ่าเครื่องเดิม C14NZ ยาง 13 วิ่งเชียงใหม่กรุงเทพ ผมก็ทำ 18 โลลิตรมาแล้ว

ถ้าอยากได้แบบ " ถ้าเดินทางไกล ปกติ 110-120 ให้ได้อัตราบริโภคที่ เฉลี่ย 25-27โล/ลิตร หรือมากกว่านี้ 30จะแจ่มมาก" แนะนำให้นอนฝันเอาจะง่ายที่สุดครับ เพราะขนาด Nissan March คันเล็กๆยังทำไม่ได้เลยที่ความเร็วขนาดนั้น (March ทำได้เกือบ 30 โลลิตรที่ความเร็วราวๆ 70)

20 กว่าโลลิตร เป็นเรื่องปกติ ผมก็ไม่ได้บอกนะว่ามันเป็นไปไม่ได้ สำหรับเครื่องดีเซล

เอาเถอะครับ ผมแชร์ข้อมูลของผมแล้ว ถ้าอยากลองผมก็สนับสนุนเต็มที่

เพราะผมเองก็เชื่อว่า ถ้ามีเครื่องที่ทั้งแรง ทั้งประหยัด โดยไม่มีข้อเสียอะไรร้ายแรง โรงงานคงผลิตออกมาให้ใช้กันทั่วไปแล้วครับ วิศวกรเป็นร้อยๆคน ไม่น่ามาพลาดเรื่องขี้หมาแบบนี้

ตอนนี้คงต้องหวังไปที่ MK3 แล้วหล่ะครับ น่าจะใกล้เคียงกว่า ถ้าวางกะ Astra 5D   17โล/ลิตร ในเมือง กทม. มันก็น่าลุ้นครับ

เท่าทีผมเห็น วิ่งในเมืองกรุงเทพได้เท่าไหร่ วิ่งทางไกล น่าเซฟได้อีก ไม่ต่ำกว่า 60% จาก17โล/ลิตร ได้อีกซัก 9โล เป็น 26โล/ลิตรขึ้น เป็นอย่างต่ำ ผมว่าก็น่าสนใจแล้วนะ

จากเดิมที่ระบุไว้ในคู่มือ เกียร์ MT ที่120km กิน 14.7โล/ลิตร ถ้ามันได้ เฉลี่ย ไม่ต่ำกว่า25โล/ลิตร ถ้าอยากเซฟมากๆ ผ่อนลงไปที่ 90km น่าจะเซฟได้อีกหลายอัด

ผมว่าความประหยัดมันก็ผ่านละ ถ้าเป็นแวนก็กินกว่านี้อีกเล็กน้อยต่างกันประมาณ 1โล/ลิตร ที่เหลือก็ต้องมานอนฝันเอาว่า การวางเป็นไง วางแล้วมีปัญหาอะไร อะไหล่เป็นไง

อันนี้จริงๆมันก็แค่พึ่งเริ่มนั่นแหล่ะครับ ยังต้องฝันอีกไกล จะเป็นไปได้หรือไม่ ก็ลองเก็บข้อมูลดูอีกทีครับ

ยังคิดอยู่เลยครับว่าดีไม่ดี รวมข้อมูลเบ็ดเสร็จ ใช้ของเดิมดีกว่า  8) 8) 8) แต่ไม่เป็นไรครับ ค่อยๆว่ากันไป ไม่มีไรเสียหาย แต่ถ้าได้ก็จะดี  ;)

ว่าแต่ว่า ทำไม ข้อความมันโมดิไฟได้ครั้งเดียวอ่ะครับ บางข้อความโมดิไฟไม่ได้เลย  :มั้ง:
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: ZeaBiscuit on 08 Nov 2010, 02:11
ลองเลยครับ เอาจริงๆนะ ลองเลยครับ

ผมทราบและเข้าใจดีว่าเครื่องดีเซลดียังไง เพราะทราบดีถึงได้ออกมาพูด ว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น

เจ้าของกระทู้อยากได้ประหยัดๆ แล้วจะให้ผมเอาเครื่องแรงๆ โบควายๆ ปั้มอันเท่าขา ไปแนะนำเขาเหรอครับ ?

เวลานี้ Commonrail อย่างเดียว ดีเซลแบบปั้มตัวไหนว่าเจ๋ง จัดมาเลยครับ มาวัดกับ Commonrail ได้ ตัวต่อตัว ผมถือหาง Commonrail ทั้งความแรงและความประหยัด

สมัยหัวฉีดเข้ามาใหม่ๆ คนสมัยนั้นก็พูดว่าคาร์บูนี่แหละเจ๋ง หัวฉีดมันง่อย นู่นนี่นั่นเยอะแยะไปหมด ... แล้วทุกวันนี้เป็นไงครับ ? เครื่องดีเซลก็ถึงเวลาเปลี่ยนยุคแล้ว เหมือนที่เบนซิลเคยเจอมาเมื่อซัก 20 ปีก่อน

วีโก้ 1KD ทำนู่นนี่นั่น สวนเซฟเจโบยับ ผมก็เห็นมาแล้ว (ทางตรง)

ดีเซลเป็นเครื่องที่ดี ผมไม่เถียง ประหยัดผมไม่เถียง แต่ใช้งานจะเหมาะสมกับเราหรือเปล่า คุณต้องหาคำตอบเอาเอง เพราะคำตอบแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน

เครื่องทุกตัว ทุกแบบ มีข้อดีข้อเสียของมันทั้งนั้น วิศวกรเค้าไม่ลำบากคิดเครื่องง่อยๆออกมาให้เราใช้กันหรอกครับ แต่ดีหรือไม่ดี แต่ล่ะคนมันไม่เหมือนกัน

คุณว่าแท็กซี่อยากประหยัดไหม รถตู้วินล่ะ รถส่งผักล่ะ รถบลา บลา บลา คนพวกนี้อยากประหยัดไหม ? ทำไมเขาใช้เบนซิลติดแก๊สกันทั้งนั้น ทั้งๆที่ดีเซลไม่ต้องขนถังแก๊สเหลือพื้นที่ให้บรรทุกเพิ่ม หาปั้มเติมก็ง่ายกว่า ?

ไม่ต้องตอบผมนะ คำตอบแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน ผมก็มีคำตอบของผม คุณเอาไปคิด แล้ววิเคราะห์ในใจล่ะกันครับ แต่ผมสนับสนุนนะถ้าอยากวางดีเซล ไม่ห้ามไม่อะไรทั้งนั้น ผมแชร์ข้อมูลตามที่มีก็เท่านั้น

ดูลายเซนต์ผมแล้วจะเข้าใจ

ปล. เรื่องการแก้ไขข้อความ มีเวลาให้สามนาทีสำหรับแก้คำผิดครับ ถ้าเกินกว่านั้นระบบจะห้ามแก้ไข
ปล2. ไม่รู้จะเชื่อหรือไม่ ผมเคยขับ Civic EF ที่เลขไมล์หมุนกลับมาเป็น 0 มาแล้ว เครื่องจะดียังไงผมไม่รู้ แต่ผมเชื่อว่าการดูแลรักษาอย่างใส่ใจสำคัญกว่าเครื่องดีหรือไม่ดี
ปล3. อันนี้แชร์กันขำขำ ผมก็เคยขับ Nissan NV ที่เจ้าของไม่เคยเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมาสามปี ผมก็เห็นมันวิ่งได้เกิน 140 นะ
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: jeabjamiro on 08 Nov 2010, 02:11
เรื่องแก้ไม่ได้นะครับ จะแก้ได้ในเวลาที่สั้นลง
คือเดี๋ยวนี้ผู้คนจะ พิมพ์อะไรกันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อยๆ เช่น ด่าไปมาแล้ว ขายของแล้วไม่ขาย ทำอะไรแล้วรู้สึกผิด ก็อีดิสนะครับ เพื่อส่วนร่วมทำแบบนี้ดีกว่าจนกว่า ทุกๆคนจะช่วยๆกันคิดก่อนพิมพ์นะครับ แค่น้้นเองเหอะๆ
***ฉะนั้นต่อไปนี้จะพิมพ์อะไรลงไป สติสำคัญครับ
ก็ช่วยๆกันนะครับแก้ไม่ได้ แต่ถ้าอันไหนที่ต้องแก้ แจ้งเวปมาสเตอร์ ได้ครับ ไม่มีปัญหา เหอะๆ
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: ZeaBiscuit on 08 Nov 2010, 02:27
จากเดิมที่ระบุไว้ในคู่มือ เกียร์ MT ที่120km กิน 14.7โล/ลิตร ถ้ามันได้ เฉลี่ย ไม่ต่ำกว่า25โล/ลิตร ถ้าอยากเซฟมากๆ ผ่อนลงไปที่ 90km น่าจะเซฟได้อีกหลายอัด

ขออีกนิด ว่าจะไม่ตอบล่ะ แต่อดสอดปากไม่ได้

ในคู่มือที่บอกว่า 14.7 km/lite เนี่ย เค้าบอกหรือเปล่าครับว่าตอนทำการทดสอบ Ambient Temperature เท่าไหร่ ? 25 ? ถ้าเจอ 35-40 แบบบ้านเราล่ะ ? Intake Volume มันเปลี่ยนไป มากน้อย เท่าไหร่ ?
แล้วยางที่ใส่ทดสอบ Size อะไร ? Friction ของถนนกับยางเท่าไหร่ ?
รถที่ทดสอบมีน้ำหนักบรรทุกเท่าไหร่ ? ผู้ทดสอบกี่คน หนักเท่าไหร่ ? น้ำมันเชื้อเพลิงในถังกี่ลิตร ?
Clearance ของแหวนลูกสูบกับปลอกสูบเป็นเท่าไหร่ ตอนทดสอบ ? แล้วรถที่ใช้งานมาซัก 10000km ค่า Clearance เป็นเท่าไหร่ ? ถ้า 50000km ล่ะ ?
Compression Ratio ตอนทดสอบกับตอนวิ่งไป 10000km ? 50000km ?
บลา บลา บลา ??

ทุกอย่างคือ Factor ที่แตกต่างจากการใช้งานจริง หรือเปล่า ??
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 08 Nov 2010, 03:32
อ่านคำถามคุณบอมแล้ว :-\ มึนครับ เพราะผมไม่รู้ค่าอะไรซักอย่าง  ???  :-[

แต่ๆๆๆ ยิ่งคุณบอม รู้ข้อมูลพวกนี้ก็จะยิ่งดีครับ ตอนนี้มันเหมือนผมเป็นคนตั้งโจทย์หลัก จากการชี้แนะต่างๆ เลี่ยงไม่ได้ว่า คุณบอมเป็นเหมือนผู้เติมรายละเอียดฝ่ายโจทย์ คือ เป็นฝ่ายตั้งคำถามนะครับไม่ใช่ฝ่ายผู้เสียหาย :o

ส่วนอีกฝ่ายตอนนี้ เท่าที่ดู น่าจะเป็นพี่นุ่นกะคุณจุ้ย ที่น่าจะมีข้อมูลมาเพื่อตอบโจทย์ ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นมา เพราะว่าท่านๆก็มีประสบการณ์ด้านนั้น ส่วนผมเอง เป็นเหมือนลูกค้าที่อยากซื้อของ แต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ คือเป็นพวกที่แบบว่า อยากจะได้แบบนั้น แบบนี้ แต่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ อย่างไร เพราะผมเอง มีความรู้เชิงเทคนิค ของรถน้อยมาากกกก  :-[  ดีแต่รับข้อมูลมา แล้วไปคิดนู่นคิดนี่ต่อครับ จริงๆมันได้หรือไม่ได้ยังไม่รู้ เพราะ งั้นถ้าจะถามข้อมูลเชิงเทคนิค หรือถามค่ากราฟ ค่าแฟคเตอร์ต่างๆ กับผม ก็ขอให้ผ่านไปท่านอื่นได้เลยครับ ผมทำได้แค่งง ???

ยังไงซัก บอกกันตามตรง ต่อให้มันทำได้เลยตอนนี้ ซื้อซากมา 20000 วางเครื่อง 60000 แล้้วจบ ผมก็ไม่มีปัญาทำครับ ถ้าไม่ถูกหวย(จะถูกได้ไงไม่เคยซื้อ 8)) ถ้าจะทำจริงๆก็ต้องเป็น คนที่มีกำลังทรัพย์ มีความรู้ แล้วอยากรู้อยากลอง ได้ทดลองกันครับ เพราะฉนั้นคุณบอม อย่ายุ ผมซะให้ยากครับ ไม่มีปัญญาจริงๆ ตอนนี้  :please: แต่ถ้ามีกำลัง ต่อให้มีกำลังทรัพย์แค่อย่างเดียว คือทำตรงนี้หมดไปแล้ว ได้หรือไม่ได้ ผมไม่เดือดร้อน ถ้าได้แบบนั้นผมก็จะทำ แต่นั่นฝันเอาก่อนครับ 8)

ระหว่างนั้นคุณบอมน่าจะได้เข้ามาช่วยตั้งโจทย์อีกหลายๆรอบครับ แล้วก็น่าจะมีผู้ที่ลองแล้วหรือผู้มีประสบการณ์มาแก้โจทย์ อาจจะเวิร์คมั่ง ไม่เวิร์คมั่ง และก็จะมี คำถามแบบไม่รู้ประสา อย่างน้อยก็จากผม :สำนึก:

ขำๆ เรื่อยๆนะครับ ต่อให้ทำได้จริง ถ้าผมจะทำอย่างเร็วสุดก็ไม่ต่ำกว่า 2ปีจากนี้ครับ หาตังเพิ่ม ระหว่างนี้ยังไม่รู้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายจำเป็นอะไรเพิ่มเติมอีก :'( ยกเว้นถูกหวย(ที่ไม่เคยซื้อ) คือในกรณีที่มันเป็นไปได้ภายใต้เงื่อนไขของผม แต่ก่ิอนหน้านั้นใครจะลองยังไงนี่ ผมคงได้แต่ตามดูอย่างเดียวครับ บงทีอาจเปลี่ยนไปใช้พลังงานทางเลือกอื่นๆกันไปแล้ว  ;D

เรื่องแก้ข้อความนี่รับทราบครับ เข้าใจละ ส่วนใหญ่ผมจะเพิ่มมากกว่าแก้ แต่พอดีรู้แมพที่ลงตอนแรกมันใหญ่เกิน เปิดผ่านแล้วกระตุก ผมเลยว่าจะเปลี่ยนเอาที่ขนาดของภาพมันเล็กลง เลยกลายเป็ยตั้งใหม่ซะงั้น ตอนนี้เข้าใจละ

ตอนนี้(อ้างเวลาที่กะลังจะโพส) ผมจะชวนคุณบอมไปหลับนอนแล้วครับ  8) อย่าพึ่งมีคำถามสวนกลับมาเยอะนะครับ เดี๋ยวผมมีเรื่องสงสัยอีก แล้วอดไม่ได้จะมานั่งถามอีก เอาแค่นี้ก่อน รอบรับทราบข้อมูลจากท่านอื่นๆก่อน เดี๋ยวผมไม่ได้หลับไม่ได้นอน :'(
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: PeeSard on 08 Nov 2010, 10:02
ทนขนาด 700000 โลยังวิ่งได้อ่ะพี่..
ปีที่แล้วไปงานแต่งพี่มือกีตาร์อยู่นู่นนน ปราจีน
ขากลับติดรถชาวบ้านออกมา Mitsu L200 เคื่อง 4D56 อายุพอๆกับผม
เลขกิโล 7แสน
เหยียบ 100 สบายๆ 8)
ตอนนี้  L200(รถปี 91) ที่บ้านก็ยังกระฉูด ขึ้น 130 ได้ง่ายๆเช่นเดิมจ้า มันมาเร็วกว่า นู๋ซ่าออโต้เราอีกแน่ะ

ส่วนเรื่องตัวดีเซล
ของพี่ Mk1 ใช้ล้อ 195-50-15
ของเพื่อน Mk3 ใช้ล้อ 205-45-17
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: aor on 08 Nov 2010, 10:55
- แหมท่าน web master ให้เวลาแก้ไขข้อความแค่ 3 นาทีเองหรือครับ ขอสัก 3 ชม.จะได้ไหม (หรือ 3 วันได้ยิ่งดี 555) เพราะผม
ก็เป็นคนนึงที่ปากไม่ค่อยดี ไม่ค่อยมีสติอ่ะครับ พิมพ์ไปแล้วมาคิดได้ทีหลัง ว่าคนอื่นเขาอาจเข้าใจเจตนาของเราผิดไป แต่ทั้งหมดทั้งปวง
ก็เป็นไปด้วยความปรารถนาดีนะครับ
- ถ้าเปลี่ยนจาก 3 นาทีเป็น 30 นาที หรือ 3 ชม.ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ผมยินดีให้ความร่วมมือครับ
- ต่อไปนี้คงต้องเร่ง upgrade สติให้มาก ๆ หน่อยซะแล้ว ตามคำเตือนของท่านเจี๊ยบ

Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 08 Nov 2010, 11:06
จากเดิมที่ระบุไว้ในคู่มือ เกียร์ MT ที่120km กิน 14.7โล/ลิตร ถ้ามันได้ เฉลี่ย ไม่ต่ำกว่า25โล/ลิตร ถ้าอยากเซฟมากๆ ผ่อนลงไปที่ 90km น่าจะเซฟได้อีกหลายอัด

ขออีกนิด ว่าจะไม่ตอบล่ะ แต่อดสอดปากไม่ได้

ในคู่มือที่บอกว่า 14.7 km/lite เนี่ย เค้าบอกหรือเปล่าครับว่าตอนทำการทดสอบ Ambient Temperature เท่าไหร่ ? 25 ? ถ้าเจอ 35-40 แบบบ้านเราล่ะ ? Intake Volume มันเปลี่ยนไป มากน้อย เท่าไหร่ ?
แล้วยางที่ใส่ทดสอบ Size อะไร ? Friction ของถนนกับยางเท่าไหร่ ?
รถที่ทดสอบมีน้ำหนักบรรทุกเท่าไหร่ ? ผู้ทดสอบกี่คน หนักเท่าไหร่ ? น้ำมันเชื้อเพลิงในถังกี่ลิตร ?
Clearance ของแหวนลูกสูบกับปลอกสูบเป็นเท่าไหร่ ตอนทดสอบ ? แล้วรถที่ใช้งานมาซัก 10000km ค่า Clearance เป็นเท่าไหร่ ? ถ้า 50000km ล่ะ ?
Compression Ratio ตอนทดสอบกับตอนวิ่งไป 10000km ? 50000km ?
บลา บลา บลา ??

ทุกอย่างคือ Factor ที่แตกต่างจากการใช้งานจริง หรือเปล่า ??

สมมุตินะครับสมมุติ สมมุติว่าผมเป็นเด็ก :ใบเหลือง: น้องพลับโตแล้วครับ  8)

คือ สมมุติว่า ถ้าข้าม คำถามต่างๆนาๆ ที่คุณบอมว่ามานี่ ถ้าเอาแบบที่ใช้งานจริงมาเทียบเลย พอที่จะใช้ได้มั๊ยครับ เอาง่ายๆเลย ผมเอาแวนที่ใช้8วาล์ว ล้อ13เดิมๆ ลองแล้วออกมา เฉลี่ยซัก 13-14โล/ลิตร

แบบว่าเทียบแบบว่า เทียบจาก สภาพรถเป็นยังไง จำนวนคน+สำภาระเท่าไหร่ เดินทางสภาพไหน คือส่วนตัวผมว่าน่าจะเทียบจาก ค่าใช้งานจริงคงเพียงพอ เพราะว่าในการใช้งานจริงๆ จะมีใครมานั่งคำนวนค่าพวกนี้รึปล่าวครับ

อาจไม่ต้องพูดถึงเรื่องคำนวน ถามว่าที่ใช้รถกันอยู่ มีกี่คนที่รู้ค่าพวกนี้ ค่าที่ผมตั้งไว้ก็เป็นแค่ค่าประมาณการ ไม่ให้ได้คิดขนาดว่า จะต้องให้มันออกมา เป๊ะๆ แบบต้องได้ 90km ที่ 32.75โล/ลิตร, 120km ที่ 26.22โล/ลิตร

ถ้ามันต่างกัน มากกว่า 10โล/ลิตร ผมว่ามันชัดเจนแล้วเรื่องอัตราการบริโภค นอกนั้นก็คำนวนอย่างอื่นประกอบ ค่าวาง, ค่าปรับแต่ง, ค่าดูแล +-กันดู หรือว่าค่าพวกนี้เป็นค่าที่ต้องรู้ ตอนวางเครื่อง+จูนเครื่องรึปล่าวครับ
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 08 Nov 2010, 11:21
ทราบแล้วจะได้ไหวตัวทันครับพี่ เหอๆ ไม่ได้กลัวไปมีเรื่องกับใครอ่ะครับ คือเรื่องถ้ามันจะมีก็ว่ากันไป ผิด-ถูก ตามเหตุผล ถ้าเปิดใจเปิดกว้างได้ บางคนพูดแรง บางคนพูดตรง ก็ยังพอเข้าใจกันได้

แต่ที่กลัวคือ กลัวปล่อยไก่ แล้วไม่ได้แก้ตัว  :หนาว: :shock:
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: naxalez on 08 Nov 2010, 11:37
ผมไม่ได้จะเถียงนาพี่บอม

เพียงแต่ดีเซลฟายๆมันความชอบผมฮะ

ส่วนสมัยใหม่ คอมมอนเลวมันดีอยู่แล้วพี่

แต่สำหรับผม ถ้าเล่นหัวฉีด มีไฟฟ้าอะไรพวกนี้
ผมเล่นเบนซินติดแก๊สเหมือนเดิมดีก่า
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: ZeaBiscuit on 08 Nov 2010, 12:49
คือใจผมนะ ถ้าอยากลองเพราะอยากรู้หรืออยากทดสอบ ลองไปเลยครับ

แต่ถ้าต้องการเอามาใช้งานจริง ผมอยากให้คิดเยอะๆ มองหลายๆมุม

อย่างที่ผมบอกไปแล้ว ถ้ามันดีแบบไม่มีข้อเสีย ทำไมคนถึงไม่เอามาใช้กัน มันต้องมีอะไรสิ

ทุกวันนี้ผมก็ยังเห็น 4A ติดแก๊ส JZ ติดแก๊ส UZ ติดแก๊ส วิ่งกันเกลื่อน

ลองมาแชร์ข้อมูลกันได้ครับ
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 08 Nov 2010, 13:58
อยากลองก็เพราะอยากรู้ว่า ถ้าเอามาใช้งานแล้วมันจะดีรึปล่าวนั่นแหล่ัะครับ แต่ประเด็นที่ชวนมาถกกันก็คือ

"ถ้ามันดีแบบไม่มีข้อเสีย ทำไมคนถึงไม่เอามาใช้กัน มันต้องมีอะไรสิ"

นี่แหล่ะครับประเด็นหลักที่ผมเองก็ยังสงสัยอยู่ คือมันมีข้อดีหรือข้อเสียอันนี้ผมเข้าใจแหล่ะครับ มันคงไม่มีอะไรดีไปซะทุกอย่าง

ในความคิดผม เอาแค่ ให้มีมันดีคุ้มเสียก็พอแล้วครับ คือดีเสียหักลบกันแล้ว ก็ยังคุ้มอ่ะไรทำนองนี้ ใกล้ๆตัวเลย

ก็เหมือนผมเลือกที่จะแสวงหาโอเปิ้ลทั้งที่มันมีอุปสรรคมากมายและ คนใกล้ตัวส่วนใหญ่ก็จะค้านว่า "มันมีดีอะไร ถ้ามันดีจริงคนเค้าก็ใช้กันเยอะแยะสิ" ซึ่งจริงๆ เค้าอาจจะไม่ได้คลุกคลีหรือรับรู้ว่ามีกลุ่มคนที่ รู้ว่ามันมีอะไรดีเห็นคุณค่าและหาใช้กันอยู่ ทุกวันนี้ คนรอบตัวผมยังถามๆกันอยู่เลยครับ หาอะไหล่ยากไม่ใช่เหรอ? ซ่อมแพงไม่ใช่เหรอ? รถยี่ปุ่นไม่คุ้มกว่าเหรอ? พอผมอธิบายไปก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อกันเลยครับ

คล้ายๆกันกับที่คุณบอมกำลังชี้ให้ผมเห็นและผมเองก็ยังสงสัยอยู่แล้วด้วยว่า "ทำไมคนถึงไม่เอามาใช้กัน มันต้องมีอะไรสิ" เช่นกันครับ ตอนนี้ผมกำลัง สืบค้นข้อมูลเครื่องดีเซล จากทางกลุ่ม VW ซึ่งเท่าทีดูเอาแค่ตัว TD1900 ตัวเก่า ไม่ต้องเป็น TDI เสียงทางนู้นเค้าก็ว่าดีนะครับประเภทที่ว่า ถ้าใครมีแล้วก็ไม่ค่อยอยากปล่อย คล้ายๆกับที่ทางเราก็บอกว่าโอเปิ้ลของเราดี+คุ้ม แต่ประเด็นคือ ทางนู้นเค้าต่อให้วางเครื่องใหม่จากเบ็นซินเป็นดีเซล มันก็ไม่ได้ข้ามพันธ์อะไรมากหมาย MK3 ที่เอามาวาง TD1900 กัน ทางเมืองนอกเค้าก็มีอยู่แล้วแบบเดิมๆจากโรงงาน เลยดูไม่มีปัญหาอะไร แต่แนวคิดผมมันยังถือว่าแหวกแนว อาจจะยังไม่มีใครทำ และอาจจะทำให้มีปัญหาที่ไม่คาดคิด หรือปัญหาที่บางคนเจอบางคนไม่เจอ บางคนรู้บางคนไม่รู้ ตรงนี้แหล่ะ ที่ผม อยากจะขอให้ทุกท่านมาร่วมกัน แบ่งปันข้อมูล

มาถึงตรงนี้ ผมไม่ได้คิดว่าคุณบอมใช้แต่เครื่องเบนซิล แล้วไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องดีเซลนะครับ แต่คิดว่าที่คุณบอมเจอมา อาจจะเป็นแบบ ดีไม่คุ้มเสีย หรือคำนวนแล้ว เบนซินติดแก๊ส คุ้มกว่าถ้าอยากประหยัด

เชื่อว่าคุณบอมมีความรู้ความเข้าใจเรื่องพวกนี้อยู่พอสมควร จากที่ศึกษาดูข้อมูลหลายๆอย่างในเว็บ ตอนนี้ก็ยังนึกขอบคุณอยู่ ที่ได้ไปช่วย ร่วมพิสูจน์ทราบเจ้าสายฟ้า และยังช่วยชี้แจงแนะนำและตอบคำถามจากความสงสัยของผม ยังนึกอยู่เลยครับว่ายังไม่ได้ตอบแทนอะไรเลย ทั้งพี่กุ้งกับคุณณัตด้วย

ต่อไปถ้ายาว ผมว่าผมเปลี่ยนสีเพิ่มไซส์ดีกว่า นึกว่าพี่นุ่นปวดตาอยู่คนเดียว ผมเอง อ่านเยอะๆก็ปวดเหมือนกัน  :ไม่:
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: PeeSard on 08 Nov 2010, 15:01
เปลี่ยนสีแล้วเหมือนกัน..55+

ทำไมคนไม่นิยมเครื่องดีเซลในเก๋ง?
คำตอบ ในบ้านเรามันไม่รู้เป้นเพราะอะไร ไม่นิยมเอาเก๋งดีเซลมา..ทั้งๆที่
แรกๆที่เคยเห็น ก็เป็น 300D ของพ่อเพื่อน สมัยเรียน
ตอนแรกที่เห็นก็เออมันเจ๋งดีว่ะ เบนซ์ปี 8X เป็นเครื่องดีเซล เกิดมาไม่เคยเห็น

แก้ไขเพิ่ม...และในยุโรป ทั้ง Opel Benz Vw เขาก็มีเครื่องดีเซลใช้กันรึ่มๆๆๆ ยกเว้น BMW ที่เพิ่งมารู้สึกทีหลัง

พอเรียนมาเรียนใน กทม. ก็อยู่กับเพื่อนบ้าเต่า แล้วก็คลุกกันไปเรื่อยๆจนมาทำงาน
ก็เปลี่ยนจากเต่ามาเล่น Type อื่นๆ ก็มีทั้ง T1 หน้าวี Golf และ Tranporter
จุดตรงนี้แระ ที่มันเป็นจุดของการแสวงหาตังเจ๋งๆ แต่ GTi หายาก ก็มีตัวให้เล่นเป็น TurboDiesel (เหมือนกับเราเล่น Corsa / Astra ก็ต้องหา GSi)
จากจุดนี้แหละ ไปได้ตัว Golf กระบะหลังทึบ เครื่องดีเซลโบ 1900 เดิมๆ ซึ่งไม่ใช่วาง VR6 แบบพวกอยากแรงข้ามขั้น
ก็อยู่สัมผัสมันมานานหลายปี เพราะมันเป็นรุ่นปี 93
ช่วงที่ขลุกอยู่กับโฟล์คตอนนั้น ก็ดูจากหนังสือ VW Performance แล้ว Golf1-2 มันมีตัวเครื่อง TD1600 ด้วยแฮะ
ดูหน้าตามันก็แบบเดียวกันที่อยู่ใน Transporter ปี88-93 เออ..เอาดิ
หาเครื่อง Transporter มาลงกอล์ฟเลย... ก็ประจวบกับมีคนยกเครื่องลง เปลี่ยนเครื่องใหม่ ก็เลยสอยมาลง MK1 ซะเลย

ฉะนั้น เครื่องแค่นี้ มันไปอยู่ในรถตู้ของโฟล์ค มันไม่เด็กๆแล้ว ถือว่า แรงบิดดีมากเลย
และพอจับมามาอยู่ใน Golf ที่น้ำหนักมันเบากว่ามาก (คิดว่า เกือบ 500 กก.)
มันก็ยิ่งทำให้รถไม่ต้องแบกน้ำหนักมากมายเหมือนเดิมแล้ว..
ถามว่า ถ้าอยู่ใน Trasporter มันจะกินเท่าไร? .. ผมให้เกิน 15 กม/ลิตร (เด๋วขอสอบถามความชัวร์จากเพื่อนๆน้องๆที่ใช้ T3 Double Cap อีกทีนะ)
แล้วพอมาลงอยู่ในรถเก๋งเบาๆ วิ่งทางไกลระยะเท่านี้.. ทำได้ดีกว่าที่คิดเยอะ

แต่ถ้าเอา ดีเซล NA มาลง โอกาสซดมีมากกว่าแน่นอน เกิน 15-20%
ยกตัวอย่าง Caravelle ตัวแรก ปี 95-96
แต่ก่อนมี V5 2500ดีเซล NA พอช่วงหลังมีคนหา 2500TD มาลง..โอ้ว ประหยัด และแรงดีกว่าเดิมเยอะ
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: kamolwat_t on 10 Nov 2010, 02:27
ผมมาแชร์ ข้อมูลบ้าง...

เอาเท่าที่รู้นะครับ...

ที่บ้านผมก็มีรถกระบะ รุ่นเก่านะ big M พ่อผมก็ เล่น รถดีเซลมาไม่ใช่น้อย หนุ่มๆก็เล่นเรือ2ตอน ตอนย้านมาเชียงใหม่ ก็ทำปั้มน้ำมัน ตอนที่แม่ทำเตนท์รถ ก็เอา ford renger bo มาใช่อยู่พักนึง เกือบๆปี (ความเร็วปลายได้ 180 ครับกดมิดเลย)

สุกท้ายตอนนี้ ใช้ NV ติดแก๊ส 2 คันครับ เอาใช้ในสวน ส่วน big M คันเดิมก็ยังอยู่ แต่ว่าจอดนิ่งๆ อยู่ในสวนครับ ไม่ได้ขับมา 2-3 ปีล่ะมั้ง...

เครื่อง ดีเซลเท่าที่ผมทราบมันมีอยู่ 2 ช่วงหลักๆ

คือช่วงแรก แต่งปั้ม ยัดโบ ควันดำ ถามว่าแรงไหม ก็แรงนะครับ กินน้ำมันใช้ได้เลย (รถพ่อผมไม่ใช่เทอร์โบครับ)

กับช่วงหลังที่เป็น Commonrail ไปแล้ว มีการจ่ายน้ำมันที่ฉลาดขึ้น แรงขึ้นประหยัดขึ้น ช่างสมัยเก่าๆจะทำอะไรก็ำบากแล้ว เจอ กล่องมาคุมนู่นนี่นั้น

สมัยช่วยน้ำมันแพงๆ มีการล้อกันเล่นๆว่า เอารถกระบะเครื่อง ดีเซล ยกลงขาย แล้ววาง 1uz+ติดแก๊ส เจ้าของได้เงินทอนอีกเป็นหมื่นเลย

กลับมาที่ประเด็นของเรา... คือ... เครื่องดีเซลขนาดเล็กที่อยู่ในรถเก๋ง และต้องเป็นเทอร์โบด้วย...

เท่าที่รู้จัก คือ 1nt ที่อยู่ในรถพี่สันติ คันแดง... ผมขับแล้วเจอปัญหา คือ... เกียร์ ไม่ค้างที่รอบที่ต้องการ... พอกดคันเร่งที่ 100 รอบก็มาสัก 2500 พอถอน มันก็ร่วงไป 800 เลย คาดว่าเกิดจากเกียร์ที่ไม่เหมาะสมกันกับเครื่องแรงบิดสุง...

เอาว่ากันที่เกียร์ ก่อนแล้วกันครับ...

เกียร์ที่ออกแบบมาให้ใช้กับรถเบ็นซิล เครื่องที่ มีเรดลายที่ 6000 รอบ กับเครื่องดีเซลที่มีเรดลายที่ 4500 รอบ... มันมีอัตราทดต่างกันครับ ถ้าเอาเกียร์ของเครื่อง เบ็นซินมาชน วิ่ง120 รอบอยู่ที่ 3000 แล้วความเ็ร็วปลายมันจะได้ที่เท่าำไร เหลือรอบอีก 1500 แล้วลากเกียร์ 5 ก็คงไม่ได้ ถึงเรดลายหรอกครับ จริงม่ะ... เปลืองก็เปลืองวิ่งก็ไม่ออก

ทั้งๆที่ แรงบิดยังมีเหลือเฟือ แต่ว่าต้องมาใช้เกียร์ร่วมกับเครื่องที่แรงบิดต่ำ(เครื่องเบนซิน โตโยต้า มีแค่ 10 กว่าๆ เอง นับที่ 4e 5e 5a นะครับ เอาที่มันลงได้)

แปลว่า ถ้าอยากจะให้มันประหยัด ต้องหาเกียร์ที่ รอบ 1800-2000 รถวิ่งได้ที่ความเร็ว 120 ครับ ผมว่าคงไม่ต่ำไปสำหรับเครื่อง ดีเซลเทอร์โบขนาดเล็กเพราะว่ามันมีทรอค์เหลือเฟือ....(ผมจำไม่ได้แล้วว่ามันวิ่งกันเท่าไรนะไม่ได้ขับมานานมาก) อาจจะเปลี่ยนเฟืองท้ายเอาได้มั้งครับ แต่ต้องคำนวนดีๆนะเดี๋ยววิ่งไม่ออก ผมเดาๆเอา อย่าเชื่อผม บอกแล้วว่า เท่าที่รู้มา ปะติดปะต่อกัน แฮะๆๆ

ความสามารถในการบำรุงรักษาของช่าง งานนี้ ต้องดูว่า เครื่องของใครครับ ถ้ามีช่างรู้จักซ่อมได้ก็ชิวเลย... แต่่ถ้าไม่ได้... ท่าจะบาน...จอดทิ้งไว้ปลูกสะระแหน่... แน่นอน...

ราคาเครื่อง แพงกว่า เครื่องเบ็นซินแน่นอนครับ หายากด้วย 1nt เขาเอาไปวางคาริเบี้ยนกันหมด...ไว้เข้าป่า

เครื่องที่มันติดรถ vw อยู่มันคงทนแน่ๆเลยครับ ไม่จุกจิกมั้ง(หรือเปล่าฮะพี่นุ่น) เลยมีแต่คนชอบ มันน่าจะประหยัดกว่า เครื่องเบ็นซิน ในระดับนึง (แต่ว่าคงไม่น่าสู้ เบ็นซินติดแก๊สโง่ๆ กินโลละ0.80 บาทได้นะครับ)

เรื่อง เครื่องดีเซล โมเต็มที่จุ๊ย ว่ามา... ก็แล้วแต่ความชอบครับ คงไม่ว่ากันหรอก... อย่างต้น ให้ขับก็ขับได้ แต่ต้นชอบ ฟิวของเครื่องที่เล่นรอบ สูงๆได้มากกว่า(ตรงกันข้ามกับ c20ne เลย 555)

ไม่แน่นะครับ อาจจะมีเหตุผลแค่ว่า... ขนาดรถตรงรุ่น เขายังหามาใส่กันให้ควัก... เราจะมีปัญญาไปแย่งเขามาได้ยังไงก็ได้...  8) 8) 8)

ป.ล. ไอ้ nv ใน ป.ล. 3 ของเจ้าบอมบ์ รถผมเองอ่ะ.... :น้ำร้อน:
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: PeeSard on 10 Nov 2010, 10:40
ดีเซล มันจะแตกต่าง กับเบนซิลตรงที่ว่า
ดีเซล ติดโบ (ยิ่งของโรงงานมาเลย..) จะประหยัดกว่า เครื่องตัวเดียวกัน NA อันนี้เห็นชัดเลยทั้งโฟล์ค ตู้ กับ มิตซู L200
เบนซิล มีโบ ซดกว่า เบนซิล NA แต่คนชอบวางเพราะเน้นแรง
ของดีเซลคนก็ชอบ แต่ราคามันแรงกว่า เครื่อง NA เยอะ..

เครื่องดีเซล ตัวที่พี่ใช้ ถือได้ว่า ถึกโครตๆ ยังไม่เคยเห็นเครื่องดีเซลของใคร
ที่อยู่ในGolf ในตู้ Transporter Caravelle(ตัวแรก) เจ้ง หรือมีปัญหา ฝาเจ้ง แคมเดี้ยงเลย
เมื่อเทียบกับเครื่อง L200 ของที่บ้าน นำ้แห้งครั้งเดียว เล่นฝาซะ ต้องเปลี่ยนใหม่เลย

แต่ถ้ามองถึงการลงทุน ..เครื่องเดิมของเรา ติดแก๊สคุ้มกว่า จะเอาขนาดไหนอย่างไร ก้ไม่เกิน 3 หมื่น
ในขณะที่เราหาเครื่องดีเซลมาได้ ก็เกิน 3 หมื่นแล้ว ยังไม่รวมค่าวางอีก.. แห้งตายก่อนได้ใช้แน่นอน 55+
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 07 Mar 2011, 14:41
:o คุณต้น กับพี่นุ่น มาเปิดประเด็นต่อกันตั้งแต่เมื่อไหร่

หลังสุดที่เงียบหายไปในส่วนนี้คือหนีไปทำการบ้านมาครับ แว๊บหาข้อมูลกับคลับร่วมสัญชาติ ได้ความคราวๆมาว่า ตัวที่เป็นประเด็นที่สุดคือ TD1900 มันหายากครับ แม้แต่ที่ กลุ่มโฟล์คน้ำเองก็ยังหาดูได้ยาก(ทำไมต้องโฟล์คน้ำ :มั้ง: )

ส่วนในเรื่องงบประมาณ จริงอยู่ว่าถ้าเดิมๆเทียบกับติดแก๊ส ยังไงก็ถูกกว่า เอาหัวฉีดจบๆ อย่างมากก็ซัก3หมื่น จริงอยู่ครับ

แต่สำหรับท่านที่ยังไม่ได้ติดแก๊ส แล้วถึงเวลาต้องโอเวอร์ฮอลหรือเปลี่ยนเครื่องอยู่แล้ว ค่าใช้จ่าย มันก็จะเท่ากับ โอเวอร์ฮอลหรือเปลี่ยนเครื่อง+ติดแก๊ส

ถ้าเป็นไปตามข้อมูลคร่าวๆที่ประมาณไว้ คือประมาณ 60,000 ในการเสก TD1900 ลง Astra ให้ใช้งานได้ ผมว่ามันก็น่าสนใจนะ

ซึ่งจริงๆแล้ว เท่าที่หาดูเมืองนอก เปอรฺโย 306 กับ Astra F เค้าก็ลงเครื่องTD1900 ใช้งานกันได้ครับ เห็นพอสมควรอยู่

แต่รายละเอียดเชิงลึกผมไม่ทราบจริงๆ ว่าเป็นอย่างไรมั่ง เพราะผมไม่ค่อยรู้เรื่องรถ(ก็อยู่ในระหว่างเรียนรู้คร๊าบ :เครียด: )

ไหนๆ ปู่สันติ เอาของจริงมาเปิดประเด็นให้พี่บัติเทสโชวในคอร์ซ่าแล้ว ท่านผู้ครอบครองแอสตร้าที่สนใจก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูครับ ผมก็อยากเห็น :giveme
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: Chutaro on 09 Mar 2011, 11:02
ตอนนี้ใช้วีโก้ 4wd 4door เครื่อง 2.5 อยู่วิ่งดีครับอัตราเร่งดีวิ่งในเมือง ตอนนี้ใช้มาเข้าปีที่ 7 วิ่งไป 120000 แล้ว น้ำมัน 10 ลิตร ผมวิ่งที่ความเร็ว 80- 110 km/hr วิ่งได้ 128 กิโลครับ ตกประมาณ 12.8 โล/ลิตร ไม่จุกจิกครับ มีล้างชุดไอดี+เปลี่ยนตัวมอเตอร์คุมเดินเบา อุด EGR ครับ  เคยมีความคิดบ้าว่า อยากเอาเครื่องวีโก้มาวางในคาริบร้าเหมือนกันครับ อิอิแต่ดูด้วยสายตาแล้วมิติเครื่องมันคงไม่ได้ครับ คงสูง+แคร้งน้ำมันเครื่องขูดพื้นแน่ๆ แต่ชอบเครื่องดีเซลมากมายครับ จะรอดูครับ เผื่ออาจเอามาลงในคาริบร้าบ้าง อิอิอิ  :lovelove
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: NONGG2500 on 09 Mar 2011, 12:47
 :วิญญาณ: :วิญญาณ: :วิญญาณ:

 ขอแชร์ประสพการณ์จริงบ้างครับ ผมอาชีพขับรถตู้ เคยใช้เครื่อง 2L 2500 cc ปี 1994
 ใน โตโยต้า ห้วจรวดรุ่นแรก บอกราคาให้หน่อย(เป็นความรู้นอก) 625000 บาท
 ที่โพสจะขอยืนยันว่าเครื่อง ดีเซลโคตะระทน ผมขับเจ้าเครื่อง 2L ตัวนี้ด้วยตัวเอง
 1 ล้านโลมาแล้ว แล้ววิ่ง 1 ล้านภายใน 6 ปีครับ เฉลี่ยผมวิ่งโดยสาร วันละ 3 ขา
 ต่อวัน เป็นระยะทาง 660 กิโล และผมเคยเริ่มสตาร์ทเครื่องเวลา 04.00 น. ไปได้
 ดับเครื่อง ที่เวลา 18.00 น. ใช่เวลาที่วิ่งและจอดรออยู่ 14 ช.ม. และอีกครั้ง
 สตาร์ท 06.00 ไปดับอีกที ที่สิงห์บุรี 21.00 น. ติดเครื่องอยู่ 15 ช.ม. ยังไม่ถึง
 กทม. แค่จอดพัก เพราะสงสารรถ เป็นช่วงเทศกาล คนเยอะ(แต่ได้ตัวค์น้อย5555)
 ดูแลรักษา ง่ายมากๆ ไม่อ้อนไม่กวน มั่นป้อนน้ำป้อนน้ำมันเครื่องหน่อย ก็วิ่งออกได้ทุกวัน
 ค่าดูแลรักษาก็ดูแล ก็ไม่แพง เช็คปั้มหัวฉีด เป็นระยะ ถ้าเสียงหัวฉีดดังหน่อยก็เอาเข้าประถมพยาบาล
 ซักครั้ง ค่ายาก็ไม่เกิน 1000 บาท ส่วนมากจะ 700 บาท ก็ไปเปิดปั๊มเปลี่ยน โอริง ให้
 ถ้าหัวฉีดป่วย ฉีกออกมาเหมือน ถ่มน้ำลาย ไม่เป็นฝอย ก็ไปฟิตซะหน่อย ค่าฟิตเนต
 ก็หัวละ 40 บาท (ราคาที่บ้านผม(พวกผม))  และถ้าอยากให้เครื่องอยู่กับเรานานๆ สังเกตุ
 แหวนเริ่มหลวม ก็เปลี่ยนซักชุด ก็วิ่งไปได้ ชั่วอายุขัย อิอิอิ (โพสซะเหนื่อย)
 
 ต่ออีกนิดครับไหนๆก็ไหนๆแย้ว พูดถึงเครื่อง คอมมอนเรว (เขียนถูกรึเป่าหว่า55)ซะหน่อย
 เป็นเครื่องที่ดีครับ ได้มาครบ เร็ว แรง ประหยัด แต่ อย่า...ให้เสียได้นะครับ อะไหล่
 แพงมากๆ ระบบการทำงานยุ่งยากกว่าระบบเก่ามาก อุปกรณ์ก็มากตามไปด้วย รวมถึง
 การดูแลรักษาก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย บางยี่ห้อ เอากล่องควบคลุมอุปกรณ์บางตัวมาใว้
 ในห้องเครื่อง แล้วก็มักจะเสียบ่อยๆ แต่ความแรง ของรถกระบะผมยกให้ นิสสัน
 นาวาร่า แรงมากที่บ้านผมมี ตอนเดียว 5 เกียร์ ลอยตัวเกียร์ 5 ที่ความเร็ว 100 เร่ง
 แซง หลังติดเบาะเลย แต่ขออภัย แหรกน่าดู 5555

  :มั้ง: 8) :P
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 09 Mar 2011, 21:26
เอ้า แชร์ครับแชร์ ชวนกันมาแชร์ข้อมูลและแนวความคิดนะครับ ไม่ได้มาตั้งเท้าแชร์  :haha
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: finn-first on 31 Mar 2011, 16:00
เด๋วจะเอารูปมาลงให้ดูเครื่องนอกอีซูซุทำเป็น gas 100 % เกียร์ขับสี่ ฝังไดเรคคอย วิ่งได้เกิน 20 โลลิตร ที่สำคัญไม่ร้อน  ???
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 31 Mar 2011, 21:49
เด๋วจะเอารูปมาลงให้ดูเครื่องนอกอีซูซุทำเป็น gas 100 % เกียร์ขับสี่ ฝังไดเรคคอย วิ่งได้เกิน 20 โลลิตร ที่สำคัญไม่ร้อน  ???

 :o อย่างไรครับพี่ ยัง งงๆ

รอดูครับ  :sorry
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: finn-first on 01 Apr 2011, 20:15
รหัสเครื่อง 4JG2 ถ้าตาไม่ลาย ผิดโปรดทักท้วงน่ะค้าบ.... :pray :pray
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: Chutaro on 06 Apr 2011, 10:58
อยากวางแบบนี้อ่ะ evo 3 วางเครื่องดีเซลของนิสสัน นาวาร่า YD25 DDT วางขวาง ชนเกียร์อีโว แต่ถ้าเป็นผมขอแบบแตนๆ ชอบมากมาย ที่เขาเลือกเครื่องนิสสันเพราะไอเสีย+เทอร์โบมันอยู่ด้านขวาเวลาเอาเครื่องมาวางขวางแล้วจะอยู่ด้านหน้าอ่ะครับ ดูไว้เป็นแนวทาง   
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: PeeSard on 06 Apr 2011, 12:48
เครื่องดีเซลของกระบะโตต้า มิตซู นิสสันบ้านเรา ถ้าจะประยุกต์/ดัดแปลงมาลงรถเราก็ต้องไล่เยอะครับ
ไหนจะต้องทำให้เป็นขับหลัง ไหนจะต้องมาแบกน้ำหนักเครื่องมากกว่าเดิม
แต่ถ้ารถเราเป็นขับหลังมาแล้ว แบบ Omega ก็สบายไป.. เพราะแถวๆบ้านที่เขาใช้ BM316 สมัยก่อน
เขาก็เอาเครื่องของโตต้า มาวาง ก็ไม่มีปัญหารัย (มั้ง เพราะผมไม่เคยจับรถเขาเลย.. ดูๆแล้วก็ไม่น่ามี เพราะเป็นขับหลัง)

แต่ตอนนี้ เราไม่ได้จะเอามาลงพวกขับหลังนี่สิ ตอนนี้เครื่องที่หาได้ไม่ยาก ก็มีแต่ VW แระ ที่เป็นของรถขับหน้า
หรือจะรอมือ2 ของ โฟกัส.. บอกได้เลยนะครับว่า ยากกว่าของ VW มากๆๆๆๆ
เพราะที่ยี่ปุ่น ไม่ชอบฟอร์ด และที่สิงคโปร์ มาเลย์ อินโด ก็ไม่ค่อยฮิตกันเลย ...
ยกเว้น ไปหิ้วเครื่องดีเซลของอะแวนซ่า มาจากอินโด ที่นั่นมีแน่นอนจ้า
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: RevelCat on 11 Apr 2011, 01:05
รหัสเครื่อง 4JG2 ถ้าตาไม่ลาย ผิดโปรดทักท้วงน่ะค้าบ.... :pray :pray

พี่เอครับ ตัวนี้ใช่ที่อยู่ในtrooper  กับ บรรทุก4ล้อ ใช่ป่าวครับพี่ คือผมก็ไม่เคยเห็นตัวเครื่องจริงๆอ่ะครับ ไม่ค่อยรู้เรื่องด้วย แต่เท่าที่ไปค้นๆดูหลายที่ ผมว่าตัวที่พี่เอามาไม่ค่อยเหมือน 4JG2  :มั้ง:


อยากวางแบบนี้อ่ะ evo 3 วางเครื่องดีเซลของนิสสัน นาวาร่า YD25 DDT วางขวาง ชนเกียร์อีโว แต่ถ้าเป็นผมขอแบบแตนๆ ชอบมากมาย ที่เขาเลือกเครื่องนิสสันเพราะไอเสีย+เทอร์โบมันอยู่ด้านขวาเวลาเอาเครื่องมาวางขวางแล้วจะอยู่ด้านหน้าอ่ะครับ ดูไว้เป็นแนวทาง   

 :o เอางี้เลยเหรอครับพี่ แบบด้านหน้า หล่อไฟเบอร์เอาใหม่หมดเลยเหรอครับ :'(


เครื่องดีเซลของกระบะโตต้า มิตซู นิสสันบ้านเรา ถ้าจะประยุกต์/ดัดแปลงมาลงรถเราก็ต้องไล่เยอะครับ
ไหนจะต้องทำให้เป็นขับหลัง ไหนจะต้องมาแบกน้ำหนักเครื่องมากกว่าเดิม
แต่ถ้ารถเราเป็นขับหลังมาแล้ว แบบ Omega ก็สบายไป.. เพราะแถวๆบ้านที่เขาใช้ BM316 สมัยก่อน
เขาก็เอาเครื่องของโตต้า มาวาง ก็ไม่มีปัญหารัย (มั้ง เพราะผมไม่เคยจับรถเขาเลย.. ดูๆแล้วก็ไม่น่ามี เพราะเป็นขับหลัง)

แต่ตอนนี้ เราไม่ได้จะเอามาลงพวกขับหลังนี่สิ ตอนนี้เครื่องที่หาได้ไม่ยาก ก็มีแต่ VW แระ ที่เป็นของรถขับหน้า
หรือจะรอมือ2 ของ โฟกัส.. บอกได้เลยนะครับว่า ยากกว่าของ VW มากๆๆๆๆ
เพราะที่ยี่ปุ่น ไม่ชอบฟอร์ด และที่สิงคโปร์ มาเลย์ อินโด ก็ไม่ค่อยฮิตกันเลย ...
ยกเว้น ไปหิ้วเครื่องดีเซลของอะแวนซ่า มาจากอินโด ที่นั่นมีแน่นอนจ้า

แสดงว่า พี่นุ่นยังคงเชียร์ AAZ อยู่ใช่ป่าวครับ  :)
ถามนิดนึงครับพี่นุ่น ผมเห็นมีพวก Benz E300 ก้มีดีเซลเหมือนกัน พวกนี้ขับหลังป่าวครับ ผมว่ามีเยอะัพอควร แต่ไม่เห็นพี่นุ่นพูดถึงเลย
Title: Re: ขอเชิญ เสวนา ว่าด้วยเครื่อง Diesel
Post by: PeeSard on 11 Apr 2011, 11:16
เบนซ์ขับหลังอยู่ จนมาถึงเด๋วนี้ ยกเว้นพวก ตระกูล A น่าจะเป็นขับหน้า (ไม่แน่ใจ เพราะไม่มีพรรคพวกใช้เลย)