OPEL in : The Happiest Opel Family in Thailand
Opel in Talks => General Discussion => Topic started by: yut on 16 Jan 2011, 20:00
-
จากสภาพหัวเทียน เรียงตามสูบ 1234 จะเห็นว่าหัวที่ 2และ4 จะมีคราบตะกรันแข็งเป็นเม็ดเล็กๆ ไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากอะไร สายหัวเทียนก็เปลี่ยนใหม่,หัวเทียนเปลี่ยนใหม่ ประมาณ 3 เดือน ปัญหาจากระบบไฟหรือเปล่า รถแอสตร้า 8 vใช้ทั้งน้ำมันและแก๊ส คอยด์สามารถถอดออกมาเช็ด ทำความสะอาดได้ไหมครับ รบกวนหน่อยครับ
-
จากสภาพหัวเทียน เรียงตามสูบ 1234 จะเห็นว่าหัวที่ 2และ4 จะมีคราบตะกรันแข็งเป็นเม็ดเล็กๆ ไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากอะไร สายหัวเทียนก็เปลี่ยนใหม่,หัวเทียนเปลี่ยนใหม่ ประมาณ 3 เดือน ปัญหาจากระบบไฟหรือเปล่า รถแอสตร้า 8 vใช้ทั้งน้ำมันและแก๊ส คอยด์สามารถถอดออกมาเช็ด ทำความสะอาดได้ไหมครับ รบกวนหน่อยครับ
เอา.....ลุงหนานมาตอบหน่อยเร็ว :please: :please: :please:
-
รอผู้ชำนาญการโอเปิ้ลตอบครับ ผมก้อรอครับ รีบๆตอบหน่อยจะไปอุดรวันพฤหัสที่20/01/2554นี้แย้ว คนพร้อม รถยังกะไรๆอยู่ไม่อยากเข้าอู่ข้างทางครับ
-
ต้องขอถามก่อนว่า....
หัวเทียนนี้ ท่านใช้งานมาแล้วประมาณกี่ กิโลเมตร
เรื่องสีของหัวเทียน ผมจำไม่ค่อยจะได้แล้ว
แต่เท่าที่ดูๆ ผมว่าสูบแรกผิดปกติ มันขาวเกินไป
โดยปกติที่ผมเคยใช้มา มันจะออกสีออกไปทางน้ำตาลไหม้
ถ้าขาวอย่างอันแรกเป็นไปได้สองกรณี คือ หนึ่ง เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ได้ไม่ถึงพันกิโลฯ
อย่างที่สอง...น่ากลัวหน่อย คือเริ่มมีน้ำเข้ามาแล้วอาจจะเป็นแค่ไอน้ำ...
ส่วนเรื่องการทำความสะอาด ทำได้ครับและจากรูปเมื่อทำความสะอาดแล้วก้อ...
อย่าลืมเชคระยะห่างหัวเทียนและตั้งใหม่ด้วยสำหรับหัวที่เพี้ยนไป...
อ่าผมมีข้อพึงระวังเล็กน้อยจะบอกไว้นะครับ เกร็ดความรู้นี้ได้มาจากพี่เอรังสิต
สำหรับเครื่องยนต์ที่ใส่หัวเทียนเฉียงแบบเครื่องแปดวาล์ว แนะนำให้ใส่หัวเทียนโดยให้แนวเขี้ยว(ตัวที่งอๆนะแหละ)
อยู่ในแนวระนาบ หรือด้านบนเท่านั้น.....ย้ำนะครับ แนวระนาบหรือ ด้านบนเท่านั้น
ทำไมนะหรือ..ก้อถ้าเขี้ยวมันอยู่ด้านล่างโอกาศที่จะโดนหัวลูกสูบกระทุ้งงอจนระยะเขี้ยวผิดเพี้ยนมีสูงมาก
ยิ่งพวกฝาที่เปิดแล้วปาดล้างหน้า โดนแน่นอนครับ...
-
แถมอีกสักสองสามรูป....
เป็นรูปหัวเทียนที่ผมใช้ อายุการใช้งานน่าจะอยู่แถวๆพันกิโลเมตร
ที่เห็นขาวๆมันเป็นเพราะกล้องครับ...
-
สูบหนึ่งที่หัวเทียนขาวๆ มีปัญหาครับ
ดูเหมือนจะฮีตครับ ส่วนสูบ 2-3-4 ปกติดีครับ
แนะนำว่าให้วัดกำลังอัดกระบอกสูบดูครับ
สูบหนึ่งถ้าฮีตก็น่าจะเกิดจากลิฟเตอร์ยัน
หรือไม่ก็เกิดจากการเขกเพราะสูบหนึ่งเย็นเกินไป
พอเย็นเกินไปก็เกิดจุดระเบิดช้า พอจุดรอบที่สองก็เลยน๊อก เกิดการเขก พอเขกก็ร้อนผิดปกติครับ
ทีแรกจะคิดว่าสูบหนึ่งไม่เกิดการจุดระเบิดก็ไม่น่าใช่
เพราะถ้าไม่เกิดการจุดระเบิดหัวเทียนจะเยิ้มน้ำมันเครื่องแฉะดำกว่านี้ครับ
ในกระบอกสูบจะมีไอน้ำมันเครื่องที่เข้ามาทางปากไอดีมาหล่อบ่าวาล์วครับถ้าไม่จุดรับเดจะเยิ้ม
แต่อันนี้ขาวและแห้งก็วิเคราะห์ว่าน้ำจะเกิดการฮีตจากการเขกครับ
คงจะเป็นทั้งแก้สและน้ำมันแนะนำให้วัดกำลังอัดกระบอกสูบจะชัดเจนกว่าครับ
-
อ้าว....ผมคิดว่า สูบที่ 1 กับ 3 ปกติ ส่วน 2กับ 4 ผิดปกติ ผมเข้าใจผิดหรือนี่ ขอบคุณทุกท่าน ทุกคำตอบมากครับ
-
ตอนแรกเห็น จะบอกว่า แก๊สบางแต่นึกไปนึกมา มันเป้น fixmix นิหว่า... :สำนึก:
สีปรกติ ถ้าเทียบ คือหัว สูบ 3 ครับ
สีแบบสูบ 1 ถ้าเป็นสีนั้นทั้ง 4 หัว แปลว่า จูนแก๊สบางไปครับ จะเกิดสีขาวครับ...
ถ้าน้ำเข้าหนักๆ จะมีคราบ เป็นสีวาวๆ เหมือนความวาวของน้ำมันตอนที่ ลอยอยู่บนน้ำครับ(วาวๆ แบบที่ผิวน้ำนะครับ)
ถ้าหัวเทียน เย้มๆ น้ำมันเครื่อง ลองดูว่าปะเก็นฝาเปลี่ยน ครั้งสุดท้าย เมื่อไรด้วยนะครับ...
ทั้งนี้ทั้งนั้น วัดกำลังอัดกระบอกสูบ จะช่วยตรวจสอบได้ครับ เครื่อง 8v เดิมๆ น่าจะได้ ไม่ต่ำกว่า 170 ครับ (ของผม 190) และทั้ง 4 สูบไม่ควรมีค่าต่างกันเกิน 10% ครับ
นี่รถเชอรรี่ ก็พึ่งโดนผมจับเปลี่ยนหัวเทียนไป... เดี๋ยว เอารูปมาให้ดูฮะ
การเลือกหัวเทียน...
ปรกติหัวเทียนจะมี 2 ขนาดครับ(ขนาดของประแจขัน) คือ 16 และ 21 ต่างกันตามการใช้งานดังนี้
เบอร์ 21 เป็นหัวเทียนของเครื่อง 8v ครับ เิดิมๆของ opel ราคาถูกกว่าเบอร์ 16 ผมซื้อเมื่อตอนปีใหม่ ของ แชมป์เปี้ยน ราคาหัวละ 50 บาท ที่ อ.ปาย ครับ...ถูกดี..อิอิ
เบอร์ 16 เป็นหัวเทียนของเครื่อง 16v ครับ (ใส่ 8v ก็ได้) เนื่องจากว่า เครื่อง 16v ตำแหน่งของหัวเทียนที่เครื่อง จะอยู่ตรงกลางสูบ ครับ เนือที่มันน้อย เลยต้องลดขนาดความกว้างลงมาเพื่อให้ใส่ลงไปได้ครับ ราคาหัวละประมาณ 80-120 แล้วแต่ยี่ห้อ คร้บ หลังๆ ที่ขายใน 0 เชฟ ก็เป็นตัวนี้หมดเพราะว่า มันใช้ได้กับเครื่องทุกตัว ราคาแพงช่างมัน ยังไงลูกค้าก็ต้องซื้อ... :ไถ:
หัวเทียนมีตั้งแต่ ไร้เขี้ยว ยัน 1-2-3-4 เขี้ยว สำหรับรถบ้านๆ แนะนำว่าซื้อหัวเทียนธรรมดาใช้ คุ้มเงินกว่าครับ จะกี่เขี้ยวก้ได้ แต่ให้เป็นแบบธรรมดา
ผมเคยใช้ของแต่ง ใช้ได้แปบเดียวก็บอดครับ... (แต่ตอนนี้ผมเอากระดาษทราย ขัดๆแล้วก็ไปสิงอยู่ในรถเชอรี่แล้ว อิอิ) พลาตตินั่ม หัวละ 4-500 4 หัว 16 ไม่ต้องไปใช้หรอกครับ รอบเราขับบ้านๆแค่ 3-4000 มันไม่ได้เกิดการใช้งานของหัวเทียนบ้านๆฮะ
เบอร์ของหัวเทียน มันจะโดนแบ่งเป้นหัวเทียน ร้อน-เย็น นะครับ ตามภาพที่ พี่นพ เอามาให้ดู... ขับแต่ในเมือง รอบต่ำๆ ไม่ใช้รถแข่งใช้ หัวเทียนร้อนครับ รถใช้รอบจัดๆเกิน 4-8000 บ่อยๆ ให้ใช้เบอร์เลขสูงขึ้นเพื่อช่วยระบายความร้อนครับ(เอาหัวเทียนเย้นมาใช้รอบต่ำๆ รถบ้านๆ อาจจะหัวเทียนบอดได้ง่ายๆครับ)
รถทั่วไปใช้แต่น้ำมัน ไม่ได้ใช้แก๊ส ใช้เบอร์ 6 ครับ เทียบแบบ iso นะครับ เพราะว่า แต่ละยี่ห้ออาจจะใช้รหัสไม่ตรงกันครับ เปลี่ยน ทุก 1 ปีครับ ไม่กี่ร้อยฮะ จ่ายไปเหอ
รถใช้แก๊ส ใช้เบอร์ 7 ครับ ให้เป็นหัวเทียนเย็นขึ้นมาอีกนิด เพราะว่า อุณหภูมิเผาไหม้สูงกว่าครับ (ผมใช้เบอร์นี้) เปลี่ยนทุก1ปี หรือ 5000-10000 โล (ถ้ามันแปลกๆ ก็ถอดออกมาดูครับ บางคันอาจพังเร็วกว่าั้นครับ เพราะว่าเจอเรื่องจูนแก๊สบาง)
รถบ้านๆใช้ของบ้านๆฮะ ประหยัดเงินครับ
ป.ล. เดี๋ยวขอย้ายไป Faq นะครับ กำลังจะทำข้อมูลเรื่องนี้พอดี....